4 มี.ค. 2019 เวลา 14:14 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Hyperloop มิติใหม่แห่งการขนส่งในโลกอนาคต
เทคโนโลยีการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางท่อด้วยความเร็วสูงถึง 1,200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเหนือกว่าเครื่องบิน (กรุงเทพ - เชียงใหม่ ใช้เวลาเพียง 35 นาที) ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และทดสอบกันอีกมาก แต่ก็มีบริษัทหลายรายที่เป็นหัวหอกระดับโลกในการร่วมพัฒนา อาทิ The Boring Company ของ Elon Musk และ Virgin Hyperloop One ของ Richard Branson
https://www.grandprix.co.th/hyperloop-ระบบขนส่งที่เร็วที่สุ/
Hyperloop คืออะไร?
เทคโนโลยีที่เป็นฐานการพัฒนา Hyperloop คือระบบ The Very High-speed Transit (VHST) ที่ได้มีการนำเสนอครั้งแรกเมื่อปี 2515 โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรถไฟขับเคลื่อนด้วยการยกตัวของแม่เหล็กไฟฟ้า (magnetic levitation – Maglev) กับท่อขนส่งแรงดันต่ำ (Low Pressure Transit Tube) และมี “แคปซูล” หรือ “พ็อด” (pod) ทำหน้าที่บรรจุวัตถุสิ่งของที่ต้องการขนส่งตามแนวเส้นทาง
http://www.tantemobil.com/mag/setelah-amerika-hyperloop-kini-mulai-merambah-eropa/
Hyperloop ถูกพัฒนาต่อยอดด้วยความคาดหวังให้มาเป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทางระยะสั้นแทนเครื่องบิน โดยอาศัยข้อได้เปรียบด้านความเร็วที่มากกว่าเมื่อเทียบกับระบบขนส่งทางรางในปัจจุบัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องบินที่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยความเร็วสูงสุดที่ได้กำหนดเป็นเป้าหมายไว้คือประมาณ 1,200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
https://www.rubchok.com/แคปซูล-hyperloopกรุงเทพ-เชียงให/ Rubchock.com
ต้นกำเนิดของ Hyperloop
Digital Age
The Boring Company บริษัทแสนน่าเบื่อของ Elon Musk
ปี 2556 Elon Musk ได้นำเสนอรายงานฉบับหนึ่งซึ่งเป็นการฉายภาพคร่าว ๆ ของนวัตกรรม Hyperloop ให้ชาวโลกได้รับรู้ พร้อมกับสนับสนุนให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆสามารถนำแนวคิดดังกล่าวไปต่อยอดการพัฒนาได้ฟรีไม่มีปิดกั้น แต่จนแล้วจนรอดใครทำก็ไม่เท่าตัวเองลงมือ Musk จึงได้ตั้งบริษัท The Boring Company เพื่อวิจัยและพัฒนาการขุดเจาะท่อใต้ดินสำหรับเป็นการปูรากฐานให้กับระบบขนส่ง Hyperloop นั่นเอง
https://www.secnia.go.th/2018/04/11/hyperloop-ระบบขนส่งมวลชนแห่งอน/
แม้ว่าแนวคิด Hyperloop จะสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก แต่การแปลงทฤษฎีมาสู่ภาคปฏิบัติกลับไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจุบัน Musk ยังไม่สามารถให้คำมั่นได้ว่าเราจะสามารถเดินทางโดยใช้ระบบดังกล่าวได้เมื่อไร ขณะที่ The Boring Company ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเครื่องขุดเจาะ Godot ที่สามารถเจาะและเสริมผนังอุโมงค์ใต้ดินไปพร้อมกัน ช่วยประหยัดต้นทุนด้านเวลากับค่าใช้จ่าย
โดยล่าสุดได้ประสบความสำเร็จในการเจาะอุโมงค์ใกล้ที่จอดรถสำนักงาน SpaceX เมืองฮาวธอร์น รัฐแคลิฟอร์เนีย และสามารถเจรจากับทางการในการขยายความยาวต่อไปได้อีก 3.2 กิโลเมตร เพื่อสำหรับใช้ในการทดสอบระบบขนส่งความเร็วสูงอย่าง Hyperloop นั่นเอง
Virgin Hyperloop One : คู่แข่งคนสำคัญ
เนื่องจาก Musk อนุญาตให้ผู้สนใจสามารถนำแนวคิด Hyperloop ไปต่อยอดการพัฒนาได้ตามสบาย จึงพบว่ามีบริษัทอื่นไม่น้อยที่ตั้งมั่นพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวให้กลายเป็นจริง หนึ่งในนั้นคือ Virgin Hyperloop One ซึ่งได้ Virgin Group ของมหาเศรษฐี Richard Branson เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ และได้นาย Branson เข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารด้วย จึงทำให้การแข่งขันระหว่าง Virgin Hyperloop One กับ The Boring Company เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
https://www.secnia.go.th/2018/04/11/hyperloop-ระบบขนส่งมวลชนแห่งอน/
เทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่ใช้ในการขับเคลื่อน Hyperloop One ไม่ใช่ของใหม่ โดยมีหลักการทำงานคือแคปซูลที่บรรจุผู้โดยสารจะถูกเร่งความเร็วด้วยแรงขับไฟฟ้าในท่อขนส่งแรงดันต่ำ ซึ่งแคปซูลจะลอยขึ้นเล็กน้อยด้วยแรงยกตัวของแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ปลอดแรงเสียดทานและสามารถเร่งความเร็วได้เทียบเท่าหรือมากกว่าเครื่องบินพาณิชย์
https://www.rubchok.com/แคปซูล-hyperloopกรุงเทพ-เชียงให/
อย่างไรก็ตาม Hyperloop One มีความคืบหน้าเป็นระยะ บริษัทประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบแรงขับในที่โล่งแจ้ง (open-air) ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ขณะที่ได้ทำการทดสอบทั้งระบบ (full-systems test) เฟสแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และทดสอบเฟสที่สองเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยได้มีการตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 จะต้องสามารถพัฒนาระบบขนส่ง Hyperloop ที่สามารถเคลื่อนย้ายผู้โดยสารและรองรับการใช้งานแบบ mix-use ให้สำเร็จ โดยกำหนดค่าตั๋วจากลอสแอนเจลิส – ซานฟรานซิสโก ประมาณ 30 เหรียญ (ราว 1,000 บาท) ซึ่งคาดว่าจะคืนทุนได้ภายใน 8 ปี
สามารถรับชมการทดสอบระบบของ Hyperloop One ได้ที่
ประโยชน์ของ Hyperloop
1. ผู้โดยสารสามารถร่นเวลาเดินทาง
ทำให้มีเวลามากขึ้นกว่าเครื่องบินเริ่มจากซื้อตั๋ว เดินทางไปสนามบิน เช็คอิน โหลดกระเป๋า ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นการเพิ่มต้นทุน Hyperloop สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เพราะสามารถก่อสร้างสถานีเดินทางได้ภายในเขตเมือง สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น และเดินทางได้อย่างรวดเร็ว
2. สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะในอนาคตแคปซูลของ Hyperloop อาจสามารถออกแบบให้รองรับการขนส่งสินค้าได้ปริมาณมาก แล้วการขนส่งทางท่อก็ไม่ต้องกังวลปัญหารถติดอีกด้วย
https://www.gamengadgets.com/first-successful-public-testing-hyperloop/
3. Hyperloop สามารถก่อสร้างใต้ดินและใต้น้ำ
ช่วยเพิ่มโอกาสในการจนส่งสินค้าจากท่าแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ การก่อสร้างยังใช้พื้นที่น้อยกว่าและไม่ไปบดบังทัศนียภาพใกล้เคียง
4. สร้างงานใหม่
อนาคตจะดีเพียงใดหากคนนอกเมืองสามารถเข้ามาในเมืองได้แบบเช้าไปเย็นกลับ? ผลที่จะเกิดขึ้นคือ ความคับคั่งในเมืองจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงอาชญากรรม มลพิษ และปัญหารถติดก็จะน้อยลงเพราะคนทำงานต่างถิ่นไม่จำเป็นต้องพักอาศัยใกล้สถานที่ทำงาน นอกจากนี้เป็นการเปิดโอกาสให้นายจ้างสามารถจ้างแรงงานมีฝีมือจากท้องที่อื่น เพิ่มตัวเลือกในการหางานมากขึ้น เพราะไม่ต้องจำกัดอยู่เฉพาะสถานที่ละแวกบ้านอีกต่อไป
5. Hyperloop จะสามารถเชื่อมเราให้เข้าหากันได้มากขึ้น
ในอนาคตเราอาจไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนาน ๆ เพื่อกลับไปพบญาติ ๆ ที่บ้านเกิด เพราะ Hyperloop จะช่วยร่นเวลาเดินทางให้สั้นลง ทำให้ครอบครัวมีเวลาประกอบกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น และไม่ต้องแช็ตคุยกันอย่างเดียว
สรุป
Hyperloop คือเทคโนโลยีการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางท่อด้วยความเร็วสูงในระดับเดียวกับหรือเหนือกว่าเครื่องบิน ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาและคงต้องมีการทดสอบกันอีกมาก แต่ก็มีบริษัทหลายรายที่สนใจ เช่น The Boring Company ของ Elon Musk และ Virgin Hyperloop One ของ Richard Branson ที่หมายมั่นพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้เป็นอีกทางเลือกของการขนส่งให้ได้ เพราะประโยชน์ที่จะได้รับไม่เพียงแต่จะเป็นการประหยัดเวลาเดินทางเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึงทรัพยากรและแหล่งทุนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศต่อไปครับ
เรียบเรียงโดย : Logistics Contents 4/3/2562
โฆษณา