10 มี.ค. 2019 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
นโปเลียน ยอดคนจอมทัพโลก ตอนที่ 4
นโปเลียนก้าวสู่ความยิ่งใหญ่และการสร้างแบรนด์ของนโปเลียน
ในเวลานี้นโปเลียนไม่ใช่เด็กชาวเกาะอีกต่อไปแล้ว เขาคือวีรบุรุษและเป็นที่สนใจในวงสังคมปารีส
นโปเลียนได้รับเชิญให้ไปร่วมงานสังคมชั้นสูงมากมายแต่ตัวเขาเองไม่ได้สนใจมากครับ เขาเป็นคนที่เงียบขรึมและมักจะขี้อายเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง
ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1795 (พ.ศ.2338) นโปเลียนได้พบกับโรส เดอ โบฮาร์เนส (Rose de Beauharnais)
โรส เดอ โบฮาร์เนส (Rose de Beauharnais)
โรส หรือที่นโปเลียนเรียกเธอว่าโจเซฟีนนั้น เป็นหญิงม่ายที่เสียสามีจากเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส
โจเซฟีนเป็นผู้หญิงสวย มีสเน่ห์ และนโปเลียนก็ตกหลุมรักเธอ โรสเองก็สนใจในตัวของนโปเลียน ทั้งคู่จึงได้ตกลงแต่งงานกันในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.1796 (พ.ศ.2339) ในขณะที่นโปเลียนมีอายุได้ 26 ปี
หลังจากงานแต่งงาน นโปเลียนได้ใช้เวลาอยู่กับโจเซฟีนเพียง 2 วันเท่านั้น เขาก็ต้องออกศึกอีกแล้วครับ
ในเวลานั้น ฝรั่งเศสกำลังทำสงครามกับหลายประเทศ รวมถึงออสเตรียและรัฐในอิตาลีหลายรัฐ
นโปเลียนจึงรีบเดินทัพไปอิตาลี เขากำลังแข่งกับเวลา เขาต้องไปให้ทันก่อนที่ทัพของออสเตรียและอิตาลีจะมาบรรจบกัน หากสองทัพนั้นมาบรรจบกันเมื่อไร ทั้งสองทัพนี้จะมีกำลังพลรวมกันกว่า 63,000 คน ซึ่งนโปเลียนต้องรีบไปให้ทันก่อนที่ทั้งสองทัพจะมารวมกันได้
ทัพของนโปเลียนมีกำลังพล 38,000 คนและเร่งเดินทางกว่าวันละ 30 ไมล์เพื่อที่จะไปโจมตีกองทัพอิตาลีก่อนที่กองทัพออสเตรียจะมาถึง
ทัพของนโปเลียนไปทันเวลาและได้พิชิตกองทัพอิตาลีที่แคว้นปีเยมอนเต หลังจากนั้นก็ไล่ต้อนทัพของออสเตรียไปถึงเมืองโลได
ณ ที่นั้น สิ่งที่ขวางกั้นระหว่างทัพของนโปเลียนกับทัพออสเตรียคือสะพานเล็กๆ เท่านั้น นโปเลียนสั่งโจมตีทันที ถึงแม้จะมีกำลังพลน้อยกว่า แต่ทัพของนโปเลียนก็เป็นฝ่ายชนะ
นโปเลียนปะทะกับกองทัพออสเตรีย
ต้องเล่าให้ฟังอีกนิดถึงบุคลิกภาพและความเชื่อมั่นของทหารที่มีต่อนโปเลียนครับ ต้องบอกว่าเหล่าทหารนั้นรักและนับถือนโปเลียนมากครับ
นโปเลียนนั้นถึงแม้จะมีความกล้า บ้าบิ่น แต่ก็มีความรอบคอบ เขาจะสั่งทหารโจมตีก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าจะชนะเท่านั้น เหล่าทหารจึงรู้สึกมั่นใจและเชื่อมั่นในผู้นำของเขา
นอกจากนั้นนโปเลียนยังรู้จักซื้อใจทหารครับ ก่อนจะออกศึกทุกครั้ง นโปเลียนจะพูดปลุกใจทหาร หลังเสร็จศึก นโปเลียนจะนำทรัพย์สินเงินทองที่ยึดได้จากศัตรู นำมาแบ่งให้เหล่าทหารเสมอ ไม่เก็บไว้เองคนเดียว รวมทั้งนโปเลียนยังมอบเหรียญกล้าหาญให้กับเหล่าทหารที่สร้างความดีความชอบ
นโปเลียนมักจะเดินตรวจตรากองทัพด้วยตนเอง เขามักจะเดินตบไหล่เหล่าทหาร พูดคุยด้วยความเป็นกันเอง และนโปเลียนยังไม่เกี่ยงงาน ต่อให้เป็นงานของทหารเลว เช่นการบรรจุและยิงปืนใหญ่ ซึ่งปกติเป็นงานของทหารเลว แต่ในศึกเมืองโลได นโปเลียนเป็นคนยิงปืนใหญ่ด้วยตนเอง เคียงค่าเคียงไหล่ทหารเลว อาหารการกินของเขาก็ไม่ต่างกับเหล่าทหารเลว โดยเมนูโปรดก่อนออกศึกของเขาคือมันฝรั่งทอดกับหัวหอม
1
เหล่าทหารจึงรักและนับถือนโปเลียนเป็นอย่างมาก
แต่ถึงแม้นโปเลียนจะเป็นกันเอง ไม่ถือเนื้อถือตัว แต่ลึกๆ แล้ว นโปเลียนนั้นคิดว่าตนเองนั้นเหนือและสูงกว่าคนทุกคนครับ ภายหลังจากชนะศึกโลไดแล้ว เขาได้เขียนไว้ในบันทึก ใจความว่า “นับแต่วินาทีนี้ ข้าพเจ้าก็เห็นอนาคตของตนเองแล้ว แม้กระทั่งตอนนี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกได้ว่าโลกทั้งใบนั้นอยู่ใต้เท้าข้าพเจ้า เหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่บนอากาศ”
นโปเลียนคิดไม่ผิดครับ ภายหลังเขาสามารถก้าวขึ้นมาเหยียบโลกเกือบทั้งใบได้จริงๆ
นโปเลียนมักจะจินตนาการว่าตนเองนั้นยิ่งใหญ่ราวกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช แต่ว่าคนอื่นล่ะคิดยังไง?
อย่าลืมนะครับว่าย้อนหลังไปกว่า 200 ปี ยังไม่มี Facebook Instagram ไม่มีโซเชี่ยล แต่นโปเลียนก็ต้องการเผยแพร่ชัยชนะและความยิ่งใหญ่ของตนให้โลกรู้
นโปเลียนจึงจ้างจิตรกรให้วาดภาพความสำเร็จของเขา รวมทั้งชัยชนะที่โลไดด้วย รวมทั้งเขายังเขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ว่ากองทัพฝรั่งเศสนั้นเข้มแข็งขนาดไหน
นโปเลียนนั้นเป็นคนหัวก้าวหน้าจริงๆ ครับ
1
นโปเลียนนับว่าเป็นผู้นำทางทหารคนแรกๆ ของโลกที่เห็นถึงความสำคัญของสื่อมวลชน เขาเคยแม้กระทั่งตั้งหนังสือพิมพ์ของตนเอง
“หนังสือพิมพ์ที่เป็นปรปักษ์กับเราเพียงแค่ 4 ฉบับ ยังน่ากลัวกว่าดาบปลายปืนนับพันเล่ม” คือคำพูดของนโปเลียน
นโปเลียนเริ่มที่จะสร้างแบรนด์ของตนเองให้ผู้คนจดจำ เขาจะคอยบอกจิตกรเองว่าต้องการให้รูปวาดของเขาออกมาเป็นอย่างไร เขาละเอียดแม้กระทั่งกับกรอบรูป ต้องมีขนาดกว้างเท่าไร
ในภาพวาดแทบทุกภาพของนโปเลียน จะเห็นได้ว่าเขาเอามือซุกไปในเสื้อ สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะนโปเลียนต้องการจะสื่อถึงความสบาย ให้คนอื่นๆ เห็นว่าเขากำลังรู้สึกผ่อนคลาย ไร้กังวล รวมถึงว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุด
นโปเลียนกำลังเริ่มสร้างแบรนด์และก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ จะเป็นอย่างไรต่อไป ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อในตอนหน้านะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา