11 มี.ค. 2019 เวลา 05:29 • การศึกษา
แนวทางการเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามเศรษฐกิจ :
การเลี้ยงปลาเอนเลอร์ ( Endler )
**************************************************
อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียนได้เพิ่มที่นี่นะครับ ได้รวบรวมเป็นลิงค์มาให้แล้ว เพื่อความสะดวกครับ เพียงแค่เข้าไปอ่าน ก็เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนได้แล้วครับ
**************************************************
ปลาเอนเลอร์ รุ่นแรกๆ ที่มีการบันทึกว่า ได้มีการนำมาเลี้ยงในหมู่ผู้นิยมปลาสวยงามนั้น เป็นปลาที่ถูกจับมาโดย Mr. Frankly F.Bond ในระหว่างปี คริสต์ ศํกราช 1930 ( นานมากๆๆๆๆ ) และ ต่อมาในประมาณ ปี ค.ศ. 1970 , ศาสตราจารย์ John A. Endler ได้ทำการเก็บตัวอย่าง ของปลาชนิดนี้ ( Poecilia sp. ) จากพื้นที่ ตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศ เวเนซุเอล่า ( ดินแดนแห่งสาวงามระดับโลก และ ก็มีปลาที่สวยงามมากมาย หลายชนิดเช่นกัน )
ปลาเอนเลอร์ เป็นปลาที่มีรูปร่างลักษณะ ใกล้เคียงกัน ปลาหางนกยูงมาก แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นปลาที่มีความใกล้เคียงทางพันธุกรรมกับปลาสอดมากกว่า ปลาหางนกยูง เสียอีกครับ แต่การนำมาผสมข้ามนั้น ผสมกับพวกปลาหางนกยูง ดูจะง่ายกว่าเป็นไหนๆครับ เรื่องนี้ ก็นับว่าแปลกอยู่เหมือนกัน ( ฮา ) พูดไปแล้วก็เหมือนกับ ที่เรานึกว่าปลาช่อนอะเมซอน เหมือน ปลาช่อนนา บ้านเรามากกว่านึกว่าจริงๆแล้ว มันเป็นญาติๆกับปลาอะโรวาน่านั่นเองครับ
ด้วยสีสันที่ฉูดฉาด บาดตา บาดใจ และ การเลี้ยงดูที่ง่าย ปลาเอนเลอร์ ทำให้ปลาเอนเลอร์นั้น ได้รับความนิยมในหมู่ผู้รับการเลี้ยงปลาสวยงาม ทุกเพศ ทุกวัย ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ , ปลาเอนเลอร์ สามารถปรับตัวอาศัยอยู่ได้ในหลากหลาย อุณหภูมิ แต่ อุณหภูมิประมาณ 27 - 30 องศาเซลเซียส ค่อนข้างเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลาชนิดนี้มากครับ โดยถ้าน้ำมีความกระด้าง ซักเล็กน้อย ( pH สูงเกิน 7.0 ) ปลาจะค่อนข้างชอบครับ
ด้วยความที่เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กอีกชนิดหนึ่ง ทำให้สะดวกในการนำไปเลี้ยงในที่เลี้ยง ในพื้นที่ๆมีพื้นที่ไม่มาก เช่น ตู้ปลาขนาดเล็ก ( ตู้นาโน ) ต่างๆ ได้หลายตัว จึงสามารถนำไปเลี้ยงตามพื้นที่ต่างๆ เช่น ในออฟฟิศได้ง่ายครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการจะให้เลี้ยงได้สะดวกขึ้น สามารถเลี้ยงได้ในขนาดตู้ที่จุน้ำได้ ตั้งแต่ 10 แกลลอนขึ้นไปครับ
เอนเลอร์ เป็นปลาที่รักสงบ และ สามารถเลี้ยงรวมกับปลาเล็กๆ ได้หลากหลายชนิด โดยไม่มีการทำร้ายกันและกันครับ ความกระตือรือร้น ของปลาตัวเล็กๆชนิดนี้ มีอยู่สูงมาก เขาจะว่ายน้ำไปมา ไปทั่วตู้เลี้ยง สร้างความเพลิดเพลิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาสวยงามได้เป็นอย่างดีครับ แล้วก็จะมีนิสัยน่ารักๆ ที่พอตอนกลางคืน ที่แสงสว่างหมดลงไปแล้ว ปลาชนิดนี้ก็จะมีการแอบลงมานอนที่พื้นของตู้ หรือตามบริเวณต่างๆ ของตู้ครับ แล้วพอแสงสว่างกลับมาอีกที ก็จะกลับมาว่ายน้ำอย่างร่าเริงอีกครั้งหนึ่งครับ ในตู้เลี้ยงสามารถปลูกต้นไม้ให้หนาแน่นได้ครับ ปลาจะมีความสุข และ ลดความเครียด เพราะได้มีที่หลบซ่อนในบางเวลาที่เขาต้องการครับ
 
ในเรื่องของอาหารการกิน ปลาชนิดนี้ก็เป็นปลาที่กินง่ายอยู่ง่าย สามารถกินอาหารได้ทั้งอาหารสด เช่น หนอนแดง , ลูกน้ำ , ไรน้ำจืด , ไรทะเล และ อาหารสำเร็จรูป คุณภาพดี ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
การผสมพันธุ์ปลาที่น่ารักชนิดนี้นั้น ไม่ยากเลย เราสามารถแยก ปลาตัวผู้ และ ตัวเมียได้อย่างง่ายดายมากๆ เนื่องจาก ปลาตัวเมีย จะตัวอวบอ้วน และ มีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้มาก และ ที่สำคัญคือ ปลาตัวเมีย จะแทบไม่มีสีสันอะไรเลย นอกจากสีเนื้อลำตัวที่ออกสีเงินๆ เท่านั้นเอง ในการผสมพันธุ์ปลาชนิดนี้ สามารถ ใช้การผสมพันธุ์แบบหมู่ได้ครับ
ปลาตัวผู้ จะค่อนข้างใช้เวลานาน ในการเกี้ยวพาราสี ปลาตัวเมีย แต่จะไม่ดุร้าย ละ ก้าวร้าวกับตัวเมีย มากเท่าปลาหางนกยูง ที่เป็นญาติๆของมัน หลังจากมีการผสมพันธุ์กันเกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติ ปลาเอนเลอร์ จะผสมพันธุ์กัน เป็นช่วงระยะเวลา ราวๆ 23 - 25 วัน ต่อ 1 รอบการผสมพันธุ์ ปลาตัวเมีย จะเป็นเช่นเดียวกับ ปลาที่ออกลูกเป็นตัวชนิดอื่นๆ ที่สามารถเก็บน้ำเชื้อของปลาตัวผู้เอาไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ได้เป็นปีๆ สำหรับการนำออกมาผสมพันธุ์ , ปลาตัวเมีย สามารถออกลูกได้ครั้งละ ตั้งแต่ 1 – 30 ตัว โดยขึ้นอยู่กับ อายุของแม่ปลา และ ขนาดด้วย
 
ลูกปลาที่เพิ่งเกิดใหม่ๆ สามารถกินอาหารได้หลากหลาย เช่นเดียวกับ พ่อและแม่ของมัน เช่น อาหารผงสำเร็จรูปสำหรับลูกปลาแรกเกิด , ลูกไรทะเลแรกฟัก หรือ อาหารแผ่นสำเร็จรูปบดละเอียดก็สามารถกินได้อย่างไม่มีปัญหาครับ ลูกปลาสามารถ แทะกิน ตะไคร่น้ำ และ จุลชีวันขนาดเล็กๆเป็นอาหารได้เช่นกันครับ
,
หลังจากผ่านเวลาไปประมาณ 3 – 5 สัปดาห์ ลูกปลา โดยเฉพาะ ปลาตัวผู้ ก็จะเริ่มมีสีสัน สวยงามเหมือนปลาตัวเต็มวัยแล้วครับ และ ปลาตัวเมียก็จะเริ่มเติบโตขึ้น จนเริ่มให้ผลผลิตได้ ประมาณ 2 เดือนขึ้นไปครับ
เครดิตภาพ : จากอินเตอร์เน็ต
เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์ OSK115
โฆษณา