12 มี.ค. 2019 เวลา 06:19 • ธุรกิจ
เซลล์ยอดขายหลายร้อยล้าน ที่ไม่รู้จักแม้สินค้าที่ตัวเองขาย
อย่าบอกว่าเวอร์ เป็นไปไม่ได้ อย่ามาบอกว่ามันไม่จริง
เพราะมันคือความจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วตลอดชีวิตของเซลล์นักสู้คนนึง เกือบสิบปี
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงของเซลล์สาวท่านนึง BASE ON TRUE STORY บางเนื้อหาอาจมีการปรับแต่งเรื่องราวบ้างเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ มิได้มีเจตนาพาดพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ซ้อหยิบมาเล่าเท่านั้นนะจ๊ะ NO DRAMA จ้า
ปี พศ.2556 เด็กสาวใสซื่อ ชื่อฟาง ได้ถูกเพื่อนชักชวนให้เธอออกจากงานประจำที่ทำอยู่ มาทำงานเป็นเซลล์สาวขายระบบ IT ซึ่งฟางไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย เนื่องจากเธอมาสายบันเทิงอย่างเต็มตัว หาใช่เรียนมาทาง IT แต่อย่างใด
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก ที่ฟางตอบตกลง เธอผ่านการสัมภาษณ์และได้ถูกคัดเลือกให้เป็นเซลล์สาวประจำบริษัท IT
ซึ่งบริษัทแห่งนี้เป็น บริษัทเล็กๆ มีเซลล์อยู่ 1 คน ที่มาทำงานเช้ามากทุกวัน แต่ไม่เคยมียอดขายเลย หรือมีก็น้อยมาก
ชีวิตฟางเรียกว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลัง teen เลยก็ว่าได้ งานสายบันเทิง ไม่มีเวลาเข้าออกงานชัดเจน แต่งานเซลล์ เธอต้องมาทำงาน 9 โมงเช้าทุกวัน นี่ล่ะปัญหาของฟาง ฟางทำได้แค่ไม่กี่วีค สุดท้ายลายเริ่มออก เธอมาทำงาน 9.10 , 9.15 จนเกือบ 10 โมง
อ่ะ กลับมาก่อน วันแรกที่มาทำงาน เจ้านายโยนสมุดหน้าเหลืองเล่มหนาให้ฟาง เพื่อโทรไปขายสินค้าให้บริษัทตามรายชื่อเหล่านั้น ฟางเองไม่รู้แม้แต่สินค้าที่ขายนั้นคืออะไร รู้แค่ต้องพูดตามสคริปที่นายให้ ฟางทำแบบนั้นไป 2 วัน เธอเริ่มรู้สึกว่า วิธีการนี้ไม่เวิร์ค
ฟางคิดว่าหากเธอขายของให้บริษัทตามสมุดหน้าเหลืองนี้ได้ วันข้างหน้า เธอจะสามารถเอาไปอ้างกะลูกค้าคนอื่นได้อย่างไร ว่าลูกค้าที่เธอขายมาคือใคร เพราะแม้แต่ตัวฟางเองยังไม่รู้จักบริษัทเหล่านั้น
ฟางเริ่มคิด งั้นชั้นจะไปขายที่ไหนดี เธอเลยเริ่มนึกถึงของกินของใช้ในชีวิตประจำวันที่เธอต้องกินต้องใช้ ก็พบว่ามีมากมายหลายบริษัทมาก แล้วเธอจะเลือกไปขายที่ไหนดี
ต่อมา เธอก็คิดว่า อืม บริษัทไหนล่ะ ที่มีแนวโน้มจะสินค้า IT แบบที่เธอขาย เธอก็เริ่มคิดถึงถนน ใช่ค่ะ ถนนวิภาวดี ฟางเริ่มไล่เลย ว่าบนนถนนวิภาวดี มีบริษัทอะไรบ้างที่ตั้งอยู่ เธอเริ่มมองเห็นชื่อบริษัทค่างๆมากมายโผล่ขึ้นมา ทีนี้เธอจะไปติดต่อบริษัทเหล่านั้นได้อย่างไรล่ะ อ่ะ คิดไม่ออก บอก google สิจ๊ะ
เธอเริ่มโทรหา IT Manager ตามรายชื่อบริษัทที่เธอคิดว่าจะสามารถนำมาใช้เป็น reference ได้ในอนาคต ฟางทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนหมดถนนวิภาวดี เธอย้ายมาเส้นรัชดา สุดท้ายโทรไปขายได้ประมาณ 2 วีคกว่า ปลาก็กินเบ็ด
มีลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อซื้อสินค้าที่เธอนำเสนอขาย สุดท้ายเธอปิดการขายได้ และปิดได้มากขึ้นๆ จนในที่สุดเหตุการณ์ปวดสมองก็ดำเนินมาถึงจุดพีค
เมื่อฟางเป็นเซลล์ที่มียอดขาย แต่เธอมาทำงานสาย ก็เริ่มมีปากเสียงกะ HR สุดท้ายวันนึงเธอทนไม่ไหว แอบไปสมัครงานที่บริษัท IT ระดับประเทศแห่งหนึ่ง หวังใจว่าเบื่อกับอี 9 โมงเช้ามาก เวลาผ่านไปนานถึง 6 เดือน จนฟางเองก็ลืมไปแล้วว่าเธอเคยไปสมัครงาน สุดท้ายบริษัทนั้นติดต่อเธอมา และรับเธอเข้าทำงาน โดยตั้งนอดขายให้เธอ ปีละ 400 ล้านบาท ใช่ค่ะ คุณฟังไม่ผิด 400 ล้านบาท
ตอนที่ฟางฟังยอดขาย เธอไม่ได้รู้สึกกลัว แต่เธอคิดว่า ถ้าเค้ากล้ารับ แปลว่าเค้าต้องเห็นว่าเธอทำได้ เค้าจึงรับเธอ ดังนั้น สวรรค์เป็นของฟาง เมื่อฟางได้ย้ายมาทำงานที่นี่ เธอสามารถเข้าออกงานกี่โมงก็ได้ ตามใจ แต่สิ่งเดียวที่ต้องทำให้ได้ คือยอดขาย 400 ล้านต่อปี
ความยาก มันไม่ใช่แต่ยอดขายน่ะสิ เมื่อเธอมารู้ว่า ที่เค้ารับเธอมาเพราะลูกค้าไม่ชอบเซลล์คนเดิมมากๆๆ พอฟางมาจึงได้รับความเกลียดชังนั้นมาเป็นมรดกตกทอดมาทันที
แต่ฟางกาได้ย่อท้อไม่ เกลียดก็เกลียดไป หน้าที่เธอคือ พิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นว่า ความจริงใจที่เธอมีให้ มันคือของจริง ในระหว่างนั้น ฟางก็จะมีทีมงานช่วยคุยเรื่องเทคนิคให้ แต่ด่านแรกที่เธอต้องทำคือ ทำยังไงให้ลูกค้าไว้ใจเธอ
เธอไปหาลูกค้าทุกวัน อยู่ด้วยตั้งแต่เช้าจนเลิกงาน แต่แปลกที่ฟางไม่เคยชวนลูกค้าคุยเรื่องสินค้าที่เธอขายเลย สิ่งที่ฟางทำคือ ชวนลูกค้าคุยเรื่องทั่วไป ละครหลังข่าว เรื่องลูกสาวลูกค้า รร ลูก หรือแม้แต่ข่าวน้ำท่วม รถติด บลาๆๆๆ ฟางทำแบบนี้ทุกวัน ทุกวัน และทุกวัน
30 วันผ่านไป ฟางได้ po ยอดขาย 85 mb ใบแรกมาครอบครอง แต่เธอบอกตัวเองว่าไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ชั้นต้องการ ฟางตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปีนับจากวันนี้ ไม่ว่าใครจะมาขายของในบริษัทแห่งนี้ ต้องเดินเข้ามาหาฟาง
ฟางยังคงมุ่งมั่นทำแบบนั้นต่อไป จนสุดท้ายความเกลียดชังที่ลูกค้ามีให้ กลับกลายเป็นความสนิทสนม คล้ายเพื่อน พี่น้อง เกมส์นี้ฟางรอด เธอทำสำเร็จ เอาชนะใจลูกค้าได้
แต่เซลล์ 400 ล้าน ชีวิตมันไม่ง่ายนะจ๊ะ นอกจากลูกค้าแล้ว ยังมีคนในบริษัท และเหล่า partner ที่จะมาขายของให้ฟาง ต่างไม่เชื่อใจฟางกันทั้งนั้น เพราะเด็กสาววัยใส หน้าใหม่นี่จะได้เรื่องรึ
ปล่อยให้ไปขาย ถ้าโปรเจ็คหลายสิบล้านหลุดไป ใครรับผิดชอบ partner ไม่คุยกับเธอ แต่ไปคุยกับลูกค้าตรง เชิญลูกค้าประชุม แต่ไม่เชิญฟางประชุม แต่ฟางไม่ย่อท้อ รอลูกค้าประชุมเสร็จ ฟางก็ใช้แผนการสาระแนชนะทุกสิ่ง ฟางโทรไปหาลูกค้า และถามว่า มีอะไรให้เธอช่วยไหม ลูกค้่าเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องประชุมให้ฟางฟัง
วันต่อมา ฟางโทรไปหา partner รายนั้น บอกความต้องการของลูกค้า ทั้งหมด partner อึ้งสิครับ รออะไร ฟางไม่ได้เข้าประชุมแต่รู้ทุกอย่าง แปลว่าลูกค้าเล่าให้ฟัง แต่ฟางมาเหนือชั้นกว่าที่ partner คนนั้นคิดคือ ฟางรู้ budget ที่ลูกค้ามี
หลังจากนั้น partner เริ่มมองฟางและทรีทฟางเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะประชุมเล็กใหญ่ อะไรๆ ก็คุณฟาง ไม่เกิน 2 เดือน ฟางก็คว้า po อีก 8 หลักมาครอบครองได้สำเร็จ ทั้งที่เธอไม่คยเห็นแม้แต่หน้าคาของที่เธอขายเลยด้วยซ้ำ ว่ามันเป็นยังไง รู้แค่มันชื่อนี้ ไว้ทำนี้ๆๆๆ จบ เหมือนแบบขายยานอวกาศรุ่น 110 ที่สามารถขับเหนือเมฆทะลุดาวอังคารได้ แต่ฟางไม่รู้หรอกว่ามันหน้าตายังไงทำมาจากอะไร รู้แค่มันคือยานรุ่นนี้ เอาไว้ขับไปดาวอังคารจบ
ฟางใช้ชีวิตแบบนี้มา 3 ปี สุดท้าย ปณิธานที่เธอตั้งไว้ สำเร็จ 3 ปี จากสาวน้อยวัยใส เปลี่ยนให้ฟางเป็นนางวายร้าย สารพัดรูปแบบการขายที่เธอต้องงัดมาใช้ ฟางปิดการขายได้ทะลุเป้า
ชื่อเสียงของฟางโด่งดัง ขจรขจาย ใครจะมาขายของที่บริษัทนี้ต้องมาหาฟางเท่านั้น เพราะฟางปึ้กมาก จะไปขายใคร หน่วยงานไหน ขอให้บอก ฟางรู้จักหมดทุกคน แม้แต่ยามแลกบัตรยันยามโบกรถ แม่บ้าน ยัน CTO ถามได้ ไม่มีใครไม่รู้จักฟาง
ที่ซ้อเล่ามาทั้งหมด ไม่ได้อยากจะบอกว่า หากเราจะเป็นเซลล์ที่ประสบความสำเร็จนั้น เราไม่จำเป็นต้องรู้จักสินค้าที่เราขาย จริงๆมันไม่ใช่ ยังไงการรู้จักสินค้าที่ขายมันก็ดีกว่าอยู่แล้ว แต่ในเคสนังฟาง คือ ด้วยนาวไม่มีความรู้ ไม่ได้ร่ำเรียนมา ยอดเยอะ เวลาน้อย ของที่ขายยาก และหลากหลาย กว่าจะขายเป็นหมดพอดี ตาย ไม่ได้ยอด โดนไล่ออกก่อนแน่
ดังนั้นฟางไม่ได้ขายสินค้า แต่ฟางขายความจริงใจ ความเปนตัวตน ความเข้าใจ ความรู้สึกที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้ใจ เชื่อใจว่าฟางจะไม่ทรยศ หักหลัง หรือทิ้งเค้า สิ่งหนึ่งที่ฟางบอกซ้อคือ หนูไม่ได้ขายสินค้า แต่หนูคิดว่าลูกค้าคือเพื่อน พี่ น้อง ครอบครัว อะไรดี หนูก็บอกว่าดี อะไรไม่ดี หนูก็บอกไม่ดี หนูไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อยอดขาย แต่หนูทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ลูกค้าสบายขึ้นทั้งใจและกาย หนูอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าหนูเป็นเพื่อน พี่ น้องเค้า มีอะไรช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป
นี่แหละเซลล์หลายร้อยล้าน สไตล์นังฟาง ทุกวันนี้แม้ฟางจะต้องย้ายไปดูลูกค้าใหม่ แต่ความจริงใจของฟางที่มีให้ลูกค้ายังเหมือนเดิม จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่วันนี้ฟางจากหนูน้อยวัยใส จะกลายเป็นเจ๊ใหญ่ที่ไปขายของที่ไหน partner ก็วิ่งหากันให้ควัก
บางครั้ง การเป็นเซลล์ก็ไม่จำเป็นต้องขายสินค้า แต่ po ที่ได้มา มันคือผลตอบแทนของความจริงใจ
ด้วยรัก จาก ซ้อขอเล่า
Blockdit : ซ้อขอเล่า
โฆษณา