ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาสักพักหนึ่งแล้ว ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทำให้คนอายุยืนมากขึ้น อัตราการเกิดน้อยลง ว่ากันว่าเราน่าจะตามหลังประเทศญี่ปุ่นที่เป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบมาติดๆ เช่นกัน
.
.
ปัจจุบันประชากรไทยมีจำนวน 65 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุ 10 ล้านคน (15%) ประมาณการว่าอีกราวๆ 20 ปีข้างหน้า จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน (30%) หรืออีกเท่าหนึ่งเลยทีเดียว
.
.
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับค้าปลีก?
.
.
ในเมื่อร้านค้าปลีกยังต้องขายสินค้าให้กับลูกค้า ก็ต้องตอบว่ามันเกี่ยวข้องแน่นอน ลูกค้าวัยทำงานตอนปลายๆของคุณในอีก 20 ปี จะเปลี่ยนจากวัยทำงานเข้าสู่วัยสูงอายุ ซึ่งพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน
.
.
สินค้าที่ผู้สูงอายุ มีความสนใจ ได้แก่ กลุ่มสินค้าสุขภาพอาทิ รังนก ซุปไก่สกัด นม วิตามินต่างๆ สกินแคร์สำหรับผิวผู้สูงอายุที่ค่อนข้างแห้งและระคายเคืองง่าย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และอาหารสัตว์ เนื่องจากผู้สูงอายุนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงามากขึ้น
.
.
การมี zone สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ จัดเรียงสินค้าให้หยิบง่าย ป้ายตัวอักษรมีความชัดเจน รถเข็นที่มีน้ำหนักเบา รวมทั้งบริการส่งสินค้าถึงบ้าน home delivery คือสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการเป็นลำดับต้นๆ
.
.
ลูกค้ากลุ่มนี้จัดว่าเป็นลูกค้าที่มีความรู้ และมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ยังชื่นชอบการช็อปออนไลน์ ที่ให้ความสะดวก ไม่ต้องเดินทางออกนอกบ้าน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าจับตามอง
.
.
ร้านค้าจึงควรมีการเตรียมพร้อมทั้งทางด้านออฟไลน์และออนไลน์ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ (omni channel) เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสในวันที่ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว