ประวัติ ความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย (ตอนที่ 2)
ภายหลังจากมีการแข่งขันฟุตบอลในสยามเป็นครั้งแรกแล้ว ต่อมาในปี พ.ศ.2458 ก็เริ่มมีการกำหนดกฎกติกาเกี่ยวข้องกับการแข่งกีฬาฟุตบอลให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการกำหนดกลุ่มบุคคลที่มีหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลออกเป็น 5 แผนก ได้แก่
1) จ้าของบ้าน: มีหน้าที่เป็นธุระจัดการทั่วไป ตั้งแต่การจัดสถานที่ และการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตำแหน่งนี้จะได้แก่อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่ให้สนามเป็นที่แข่งขัน มีครูรองเป็นผู้ช่วย โดยเจ้าของบ้านจะติดผ้าดอกไม้สีชมพูกลาง ผู้ช่วยจะติดสีชมพูเล็ก เป็นเครื่องหมาย
2) ผู้ใหญ่บ้าน: มีหน้าที่รักษาสนาม และดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย ในตลอดเวลาการเล่น และมีหน้าที่จดรายงานต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะมีครูรองเป็นผู้ช่วยอยู่รายรอบสนาม ซึ่งผู้ใหญ่บ้านจะติดผ้าดอกไม้สีเขียวใหญ่ ส่วนผู้ช่วยจะติดผ้าดอกไม้สีเขียวเล็ก เป็นเครื่องหมาย
3) ผู้ตัดสิน: มีหน้าที่ดูแลให้ผู้เล่นให้เล่นกันโดยสุจริต และเล่นอย่างใจนักเลงไม่เกะกะ และเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินการเล่น โดยผู้ตัดสินจะติดผ้าดอกไม้สีแดงเหลืองใหญ่ เป็นเครื่องหมาย
4) ผู้กำกับเส้น: มีหน้าที่คอยดูแลลูกบอลที่ออกจากเขต แล้วให้สัญญาณผู้ตัดสินให้เป่านกหวีด โดยผู้กำกับเส้นจะติดผ้าดอกไม้สีเหลืองกลาง เป็นเครื่องหมาย
5) ผู้จดรายงาน: มีหน้าที่จดรายงานการแข่งขันอย่างทุกปี และต้องส่งกรมศึกษาธิการในวันรุ่งขึ้นจากวันแข่งขัน โดยผู้จดรายงานจะติดผ้าดอกสีเขียวขาวสลับกัน เป็นเครื่องหมาย
ในปี พ.ศ.2469 กระทรวงธรรมการได้เริ่มจัดการแข่งขันฟุตบอล และกำหนดกฎกติกาการเล่นขึ้น ในชื่อว่า “ข้อบังคับการแข่งขันฟุตบอลสำหรับโล่ห์ของกรมศึกษาธิการ” ซึ่งมีจุดมุ่งหม่ยหลัก คือขัดเกลาจิตใจนักกีฬา เพื่อให้เกิดคุณความดี 4 ประการ คือ
1) ใจนักเลง: ต่อสู้ซึ่งหน้า แพ้ก็ไม่อาฆาต ชนะก็ไม่เย้ยหยัน
2) สามัคคี: เอาชนะกันด้วยกำลังทั้งพวก ไม่อวดดี หรือคิดเอาชนะโดยลำพัง
3) อาจหาญ: การที่ได้หันหน้าเข้าสู่อันตรายอยู่บ้าง ย่อมกำจัดความขลาดได้
4) ขันติ: ความเพลี่ยงพล้ำแต่ต้น ไม่ควรเป็นเหตุให้ปราชัยในภายหลัง
จากข้อมูลที่เล่าสู่กันฟังมาจะเห็นได้ว่า กีฬาฟุตบอลที่เข้ามาในสังคมไทยนั้น เป็นการได้รับอิทธิพลมาจากอังกฤษโดยตรง เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นล้วนแต่เป็นผู้ที่จบการศึกษามาจากประเทศอังกฤษทั้งสิ้น กติกา และการจัดการแข่งขันจึงมีลักษณะเช่นเดียวกับของอังกฤษ คือ ที่นิยมจัดการแข่งขันในโรงเรียน และเข้มงวดกับการกระตุ้นเตือนให้ทั้งผู้เล่น และผู้ชมการแข่งขัน จะต้องเป็นผู้มีจรรยาบรรณ คือ การเคารพกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ตามแบบฉบับ ของ “ผู้ดีอังกฤษ” นั่นเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
