14 มี.ค. 2019 เวลา 06:40 • ไลฟ์สไตล์
'สู่ผืนแผ่นดินที่ท่านรักและแลกด้วยชีวิต'
#ใต้ฝุ่น โกลาบ จัน แพรวสำนักพิมพ์
ก่อนหยิบนิยายเล่มนี้มาจากชั้นวางหนังสือในร้าน มีชั่วแวบความคิดที่ยังบอกไม่ถูกว่านิยายเล่มนี้จะนำเราไปในเรื่องราวแบบไหน เป็นนิยายรักแนวย้อนเวลามาหารักหรือเปล่า หรือจะเต็มไปด้วยเรื่องราวสงคราม และมันคงเป็นเพราะแบบนี้ทำให้เราสงสัยและหยิบถือติดมือออกมาจากร้านได้
ใต้ฝุ่นนำพาเราสู่เรื่องราวของต้นเหตุของสงครามในอัฟกานิสถาน ประเทศที่ซึ่งมีวัฒนธรรมธรรม ประวัติศาสตร์ อย่างที่เราอาจจะไม่เคยรู้หรือสนใจมาก่อน ผมจำได้ในเหตุการเมื่อปี พ.ศ. 2544 มีข่าวใหญ่โต ว่าพระพุทธรูปแห่งบามิยันถูกระเบิดทำลาย ตอนนั้นก็รู้สึกสลดหดหู่ พร้อมกับโกรธ เพราะเป็นประเด็นกันทางศาสนาด้วยทำให้คิดว่าชาวพุธจำนวนไม่น้อยน่าจะมีอารมณ์ร่วมด้วย จากเหตุการครั้งนั้นทำให้เรารู้จักประเทศนี้ จากข่าวที่ห่างไกล ซึ่งผิวเผินมากเหลือเกิน
นั่นเอง นิยายเรื่องนี้ย้อนนักอ่านกลับไปสู่เรื่องราวของสงครามความขัดแย้งจากคนในชาติและมหาอำนาจเข้าแทรกแซง ฟังดูเป็นนิยายที่น่าจะย่อยยาก แต่เปล่าเลย โดยการดำเนินเรื่องตามตัวเอก เมย์ มิลเลอร์ คอลัมนิสต์ ที่ถูกย้อนเวลามายังใจกลางประเทศที่กำลังจะลุกเป็นไฟ ท้ายสุดเธออาจจะได้เป็นแค่ประจักษ์พยานและร่วมเหตุการณ์เท่านั้น
แต่นั่นก็ทำให้ เธอเข้าใจอะไรมากขึ้น เหมือนเรารับรู้ข่าวสงครามหรือเหตุการณ์ก่อการร้ายในที่ไกล ๆ เราคิดว่ามันคงเป็นแค่จุดดำ ที่ไม่อยากเข้าใกล้ มันคงเต็มไปด้วยผู้คนอย่างที่อคติเราก่อร่างไว้ในมโนภาพ แต่เมื่ออยู่ในจุดนั้นแล้ว เหมือนกับเมย์ ที่กระจ่างและเข้าใจอะไรมากขึ้น
ดังนั้น ใต้ฉากสงครามและฝุ่นควัน เรายังเห็นนิยายรักอิงประวัติศาสตร์ ที่อิ่มเอมเรื่องหนึ่ง ชื่นชมนักเขียนอย่างมากที่เขียนบรรยายอัฟกานิสถานได้ลึกจนเหมือนเราถูกพาย้อนไปด้วยจริง ๆ ก่อนกาลอันล่มสลาย ก่อนหยาดน้ำตาและควันปืนจะเริ่มต้น เรายังได้เห็น ประเทศแห่งนี้เคยสุขสงบ
"ชาวอัฟกันรักกุหลาบไม่ต่างจากที่พวกเขารักบทกวี" นี่เป็นหนึ่งประโยคที่แทบจะสื่อถึงคำกล่าวข้างบน
เหนือสิ่งอื่นใด สำนวนของโกลาบ จัน ทำให้เรารู้สึกร่วมกับเรื่องราว ผู้เขียนมีความรู้และสื่อออกมาได้ดี สุดท้ายแล้วนวนิยายเล่มนี้ไม่ใช่แค่ตีแผ่เหตุการณ์หรือเสนอเรื่องราวความรักในไฟสงคราม แต่ทำให้เราตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ในความโศกเศร้า สูญเสีย เรายังได้เห็นความหวัง และได้รับพลังใจบางอย่างเมื่ออ่านจบ
สงครามมีแต่จะพรากเอาทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ชีวิต! แต่ทุกอย่าง ! แต่น่าแปลก สงครามยังเกิดขึ้นแม้ผู้คนทั้งโลกโหยหาความสุขสงบ
บางวรรคในเรื่อง
(( นี่สินะ เรื่องราวที่ไม่เคยถูกบันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มไหน สิ่งที่นอกเหนือไปจากการลำดับเหตุการณ์คือความรู้สึกของคนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นคนในชาตินั้นๆ ไม่ต่างจากบรรดานายทหารระดับสูงหรือนักการเมือง แต่กลับต้องสูญเสียทุกอย่างให้กับสงครามบนแผ่นดินเกิด ))
อยากให้อ่านถ้าใครยังไม่ได้อ่าน แนะนำเลยครับ
#กอดกระดาษ
โต๊ะหนังสือริมหน้าต่าง
โฆษณา