14 มี.ค. 2019 เวลา 11:40 • ธุรกิจ
ถ้าประเทศไทย ไม่มีเฟซบุ๊ก / โดย ลงทุนแมน
1
ในเช้าวันนี้ ทุกคนตื่นขึ้นมาพบกับความโกลาหล
เพราะมีข่าว เฟซบุ๊ก ไอจี ล่มหลายชั่วโมง
ใครจะไปคิดว่า “แพลตฟอร์มฝรั่ง” ที่อยู่คู่กับคนไทยมาไม่กี่ปี
จะเป็นสิ่งที่คนไทยขาดไม่ได้ในตอนนี้..
2
1.77 ล้านล้านบาท คือรายได้ของบริษัทเฟซบุ๊กในปี 2018
ถ้าถามว่าเฟซบุ๊กล่มทั้งโลก 1 วัน รายได้หายไปเท่าไร
คำตอบก็คือ 4,850 ล้านบาท
3
มูลค่าบริษัทเฟซบุ๊กตอนนี้อยู่ที่ 15.7 ล้านล้านบาท
รายได้เฟซบุ๊กหายไปวันเดียว จะเป็นแค่ 0.03% ของมูลค่าบริษัท..
จึงไม่น่าแปลกใจ ถ้าเราจะไม่เห็น หุ้นเฟซบุ๊กตกหนักเพราะเหตุการณ์นี้
2
แต่ทั้งหมดนี้อยู่ในความเชื่อที่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อย เฟซบุ๊กก็อาจหมดความน่าเชื่อถือ ผู้ใช้งานไม่อยากใช้อีกต่อไป
2
คำถามต่อไปที่น่าสนใจคือ
แล้วถ้าไม่ใช้เฟซบุ๊ก ผู้ใช้งานจะใช้อะไรแทน?
2
ถ้าประเทศไทย ไม่มีเฟซบุ๊ก วันนั้นประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?
2
อย่างน้อยคำตอบแรก ก็คือ
เพจต่างๆ ทั้งหมด ในเฟซบุ๊ก จะหายไปในทันที..
5
ถึงแม้ว่าตอนนี้เฟซบุ๊กจะไม่ได้เสียภาษีใดๆ ให้กับรัฐบาลไทย
เพราะเฟซบุ๊กรับเงินค่าโฆษณาโดยใช้บริษัทเฟซบุ๊กสาขาไอร์แลนด์
ไอร์แลนด์เก็บภาษีเงินได้น้อย เฟซบุ๊กก็เลยใช้บริษัทในประเทศนี้เป็นตัวรับเงิน
9
อย่างไรก็ตาม
ต้องยอมรับว่าวงจรเศรษฐกิจของเพจเฟซบุ๊กทั้งหมดในประเทศไทยรวมกัน
อาจมีมูลค่ามหาศาลมากกว่าที่เราคิดไว้
เมื่อไม่มีเพจ ก็ไม่มีการเสพเนื้อหาใดๆ ในเฟซบุ๊ก
เราคนไทยก็จะมีเวลาว่างมากขึ้น
ถ้าให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก เสพข้อมูลจากเฟซบุ๊ก เฉลี่ยวันละ 30 นาที
1
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในไทยตอนนี้มีประมาณ 50 ล้านคน
5
แปลว่าเราคนไทยจะมีเวลาที่เป็นอิสระจากหน้าจอเฟซบุ๊ก 1,500 ล้านนาที
1
แล้วทุกวันนี้เราคนไทย เอา 1,500 ล้านนาทีต่อวัน ไปอยู่กับอะไรบ้าง?
1
ทั้งหมดนี้ต้องย้อนกลับไปถามระบบเฟซบุ๊กเองว่า
ระบบเฟซบุ๊กเลือกอะไรขึ้นมาแสดงให้เราเห็นใน 1,500 ล้านนาทีดังกล่าว
ถ้าให้แบ่งกลุ่มเนื้อหาที่เรามองเห็น จะมาจาก 2 ทาง คือ
1.เพื่อนของเรา
2.เพจที่เราสนใจ
2
เมื่อปีที่แล้ว เฟซบุ๊กออกมาบอกว่าจะให้ความสำคัญกับ Meaningful Post ซึ่งระบบจะเลือกโพสต์ หรือเรื่องราวของเพื่อนมาแสดงให้เห็นก่อนเพจ
2
สรุป 1,500 ล้านนาทีของคนไทย
เกินครึ่งหนึ่ง เราน่าจะอยู่กับการเสพเรื่องราวของเพื่อน
1.วันนี้เพื่อนทำอะไร
2.วันนี้เพื่อนคิดอะไร
3.วันนี้เพื่อนเจอปัญหาอะไร
4.วันนี้เพื่อนมีความสุขกับอะไร
6
เรื่องของเพื่อนในเฟซบุ๊ก เป็นสิ่งที่เพื่อนอยากนำเสนอ
แต่ประเด็นคือ สิ่งที่เพื่อนอยากนำเสนอ กับ เรื่องจริงของเพื่อน นั้นต่างกัน..
2
เรื่องนี้กลายเป็นว่าเฟซบุ๊กเป็นสถานที่ที่สร้าง Image หรือภาพลักษณ์ให้แก่ตัวเอง
1
ไม่มีใครอยากโพสต์รูปที่แสนธรรมดาลงเฟซบุ๊ก เพราะโพสต์ไปก็ไม่มีใครสนใจ
2
สิ่งที่เป็นตัววัดว่าโพสต์เราประสบความสำเร็จแค่ไหน คือ ยอด Like
3
และนั่นก็เป็นที่มาของการเฟ้นหา การประดิษฐ์วิธีนำเสนอในรูปแบบที่ “ทุกคนต้องจดจำ”
1
สำหรับคนที่มีเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง
จะมีอีกคำหนึ่งเพิ่มขึ้นมาที่ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่กว่ายอด Like
3
นั่นก็คือ ยอด Reach..
2
ยอด Reach คืออะไร?
เมื่อเรามีเพจ และเราโพสต์ไป 1 ครั้ง ระบบของเฟซบุ๊กจะแสดงว่าโพสต์นั้นมีคนเห็นกี่คน
แล้วจะทำอย่างไรให้ยอด Reach มีจำนวนมาก?
1
คำตอบก็คือ เราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้โพสต์นั้นมีคนสนใจเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นการกด Like กด Share เขียน Comment หรือ กดเข้าไปอ่านต่อ
5
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็เกิดสิ่งที่เรียกว่า Paradox หรือ ความขัดแย้งในตัวเอง..
เพราะในความเป็นจริงคือ
สิ่งดีๆ ที่เราควรจะเห็น อาจไม่จำเป็นต้องมีคนสนใจมาก
และ โพสต์ที่มีคนสนใจมาก อาจไม่ใช่โพสต์ที่ดี เพราะเป็นแค่กระแสสังคม..
12
เราจำเป็นมากแค่ไหน ที่ต้องรู้ว่ามีกระแสสังคม อะไรเกิดขึ้นในแต่ละวัน?
ถ้าให้ตอบแบบสวยๆ ก็คือไม่จำเป็น
แต่ในความเป็นจริง สัญชาตญาณของมนุษย์ ย่อมอยากรู้เรื่องของสังคม
3
และนั่นก็เป็นที่มาของโพสต์ที่พยายามปลุกกระแสให้เรามีอารมณ์ร่วมในเรื่องนั้น
1
ระบบเฟซบุ๊กเห็นตัวเลขดี ก็นำเสนอให้ผู้ใช้งานเห็นเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อคนนำเสนอเนื้อหาเห็นตัวเลขดี ก็พยายามทำเนื้อหาแบบนี้ออกมาอีก
จนเรื่องนี้อาจจะเรียกว่า เป็น กับดักของยอด Like และ ยอด Reach
1
ในโลกนี้ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้ความสำคัญอะไร
5
บางคนคิดว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ทั้งชีวิตของเขาก็มุ่งผลิตแต่เงินเพื่อให้ตัวเลขในบัญชีธนาคารสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
1
แต่บางคนอาจเห็นเรื่องความสมดุลของชีวิตสำคัญที่สุด
จึงเน้นหาความสุขของชีวิตนอกจากแค่เรื่องเงิน
3
และ เช่นเดียวกัน ถ้าเรายึดถือยอด Like และ Reach เป็นที่ตั้ง
เราก็จะไม่มีวันเห็นความสำคัญของสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน
1
ภายใต้ยอด 10,000 Like 1,000,000 Reach นั้นมีอะไรอยู่ข้างใน
ใน Reach 1,000,000 คน
อาจมี 999,990 คนที่มีความสนุกเกิดขึ้น
แต่ในนั้นอาจมีอีก 10 คนที่มีความทุกข์
7
ถ้ามองภาพรวมเป็นตัวเลขแล้ว ค่าเฉลี่ยของความสนุกก็คงมากกว่าโพสต์ไหนๆ
แต่จะมีใครมองเห็นว่า 10 คนที่มีความทุกข์นั้น ทุกข์มากแค่ไหน?
ขนาดความสนุกเล็กๆ ของคน 999,990 คน อาจเทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ขนาดใหญ่ของคน 10 คน
1
คำถามที่น่าคิดก็คือ
“ตัวเลข” มีจุดอ่อนแค่ไหน
ที่จะถูกนำมาเป็นกติกาใน Social Network ให้มนุษย์บนโลกนี้ได้ใช้
2
ความคิดของมนุษย์สามารถกลั่นกรองมาเป็นตัวเลขได้ทั้งหมดหรือไม่..
เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาหาคำตอบและแก้ไข
เพราะในประวัติศาสตร์มนุษย์ 200,000 ปี
มนุษย์ก็เพิ่งจะรู้จัก และอยู่กับมันมาเพียง 15 ปี..
ในวันหนึ่ง วันที่ประเทศไทยไม่มีเฟซบุ๊ก
1,500 ล้านนาทีของคนไทยจะเพิ่มขึ้น
เรื่องราวประดิษฐ์ของเพื่อน และกระแสสังคม จะหายไป
และ มันจะถูกแทนที่ด้วยโลกจริงรอบตัวเรา
3
แต่วันนั้น ก็คงเป็นแค่ความฝัน..
เพราะในที่สุดแล้ว
ถ้าให้เลือก
เราคนไทย ก็คงจะยินยอมเสีย 1,500 ล้านนาที
ในโลกประดิษฐ์นี้ อยู่ดี..
6
อ่านเรื่อง ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Facebook ได้ที่
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit โหลดได้ที่ http://www.blockdit.com
สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 9.0 ได้ที่
โฆษณา