ปรากฎการณ์ ลาวาสีน้ำเงิน ที่ อินโดนีเซีย
ขึ้นชื่อว่าภูเขาไฟ เมื่อเกิดปะทุขึ้นมาครั้งใด มันเกิดความเสียหายมหาศาล ทั้งจากเถ้าถ่านและลาวาร้อนสีแดงเข้ม แต่มีภูเขาไฟลูกหนึ่งที่ อินโดนีเซีย มีลาวาเป็นสีน้ำเงิน
เครดิตภาพ @asethetic_blue
ภูเขาไฟที่ว่านี้คือภูเขาไฟ Kawah Ijen ที่อินโดนีเซีย พ่นลาวาเป็นสีน้ำเงินซึ่งเกิดจากปริมาณกำมะถันในระดับสูง แม้จะดูไม่น่าเชื่อว่ามีจริง แต่ลองมาพิสูจน์ความจริงกันค่ะ
พร้อมพิสูจน์ความจริงกันหรือยัง?
เครดิตภาพ @science
โดยทั่วๆไปแล้ว ภูเขาไฟ Kawah Ijen ของอินโดนีเซียซึ่งตั้งอยู่ด้านปลายสุดทางทิศตะวันออกของเกาะชวา ภูเขาไฟแห่งนี้ก็ดูเหมือนเป็นภูเขาไฟที่ค่อนข้างธรรมดาในแต่ละวัน
แต่ในความเป็นจริง ภูเขาไฟ Kawah Ijen เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ผิดปกติที่สุดในโลก เพราะแทนที่จะผลิตลาวาสีแดงและควันสีดำสนิทตามปกติของภูเขาไฟทั่วไป ภูเขาไฟแห่งนี้กลับส่งเปลวไฟสีฟ้าสดใสลอยขึ้นไปในอากาศ บางคนเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า "ลาวาสีน้ำเงิน"
เครดิตภาพ @onesunslight
📌 ลาวาสีน้ำเงินเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ปรากฎการณ์ ลาวาสีน้ำเงิน เกิดจากการที่ปล่องของภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนมีเเร่ธาตุกำมะถัน (ซัลเฟอร์) อยู่เป็นจำนวนมาก
และเมื่อก๊าซซัลเฟอร์ถูกดันออกมาจากรอยเเตกภายใต้ความดันสูง และที่อุณหภูมิ 600°C เมื่อเจอกับก๊าซออกซิเจนจึงเกิดเป็นเปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Flame หรือ Blue Fire) ซึ่งจะสามารถเห็นได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น
เมื่อข่าวสารได้เผยแพร่ออกไป ไม่ว่าจากสารคดี จากภาพที่เห็นทางโซเชี่ยล ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปชวาตะวันออกและอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทุกคนอยากมาพิสูจน์ให้เห็นลาวาสีน้ำเงินด้วยสายตาตัวเอง
📖 คำแนะนำ
เปลวไฟสีฟ้าของ Kawah Ijen สามารถมองเห็นได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น ว่ากันว่ามันงดงามจนเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
ภูเขาไฟแห่งนี้มีทะเลสาบสีเขียวขุ่นที่บริเวณปล่องภูเขาไฟ สีที่มองเห็นอาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละวันตามการตกกระทบของแสงแดดทะเลสาบนี้เป็นที่รู้จักในฐานะ "ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่มีความเป็นกรดสูงที่สุดในโลก"
ที่ด้านล่างของภูเขาไฟเป็นที่ตั้งของการทำ"เหมืองซัลเฟอร์" ที่ใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมาก โดยใช้วิธีการผลิตแบบดั่งเดิม ซึ่งจะเห็นภาพแรงงานขนตะกร้ากำมะถันด้วยสองมือจากบริเวณพื้นปล่องภูเขาไฟ
📌 การขุดซัลเฟอร์ที่ Kawah Ijen
ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นที่ตั้งของการทำเหมืองกำมะถันที่อันตรายที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
นักขุดสกัดหินกำมะถันจะเริ่มการทำงาน หลังจากที่เปลวไฟสีน้ำเงินดับลง มีก้อนหินที่เต็มไปด้วยกำมะถัน แรงงานชายหลายสิบหรือหลายร้อยคนจะทำงานโดนไม่มีหน้ากากป้องกันแก๊สพิษหรืออุปกรณ์ป้องกันตัวอื่นๆเลย คนงานเหมืองจำนวนมากประสบปัญหาสุขภาพในระยะยาวจากการสัมผัสซัลเฟอร์
เครดิตภาพ https://www.gotouchthesky.com/
พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ รอบ ๆ ฐานของภูเขาไฟ การทำงานถูกว่าจ้างโดยบริษัทจาก จีนที่เป็นเจ้าของสัมปทานเหมือง
พวกเขาจะหาบกำมะถันผงในตะกร้าสองใบที่เชื่อมต่อกันด้วยลำไม้ไผ่และแขวนเหนือไหล่ นึกภาพว่าแบบเดียวกับแม่ค้าหาบขนมขาย แต่มีน้ำหนักมากกว่ากันเยอะ
การทำงานเป็นไปด้วยความว่องไว และอาจเร็วกว่าที่เราเดินซะอีก
ส่วนรายได้.. ก็เช่นเดียวกับคนยากจนทุกแห่งในโลก งานหนัก เหนื่อย อันตราย ไม่ดีต่อสุขภาพและรายได้เพียงแค่ประทังชีวิตไปวันๆ
ทั้งๆที่ความจริงแล้ว กำมะถันมีราคาสูงมาก
📖 การเข้าชม
ผู้มาเยือนชวาตะวันออกสามารถเข้าชมสถานที่ได้ได้ในเวลากลางคืน การเดินทางไปยังภูเขาไฟเพื่อดูปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงิน จะต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของไกด์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นสถานที่ที่อาจเป็นอันตรายได้
การเข้าชมต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน ภาพ @evitau92
Sylvester Chong / Getty
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
29.03.2019
- 235
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
