18 มี.ค. 2019 เวลา 08:18 • การศึกษา
วันพิพากษาคดีเสือดำ หลังรอคอยมากว่า 1 ปี!!!
Cr. Surussavadi Chuarchart
หากย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เกิดเป็นข่าวครึกโครมอยู่บนหัวข้อข่าวของสำนักข่าวหลายสำนัก เป็นเรื่องที่เราพบไม่บ่อยที่ข่าวในลักษณะนี้จะถูกเปิดเผย และให้คนทั้งประเทศได้รู้ว่าเรายังมีการล่าสัตว์ป่าในยุคที่เราเรียกประเทศตัวเองว่า “Thailand 4.0” และที่สำคัญหนึ่งในกลุ่มคนล่านั้นเป็นถึงระดับผู้บริหารบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งที่มีโครงการก่อสร้างมากมายในประเทศไทย แน่นอนเขาสามารถกินอาหารร้านอาหารหรู ราคาแพงๆ ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องลำบากตรากตรำเข้าล่าสัตว์ป่าถึงในเขตอนุรักษ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก และเป็นผืนป่าขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผมจะมาย้อนเรื่องราวคล่าวๆ ให้ฟังกันก่อนที่จะถึงวันพิพากษาของศาลชั้นต้นในวันที่ 19 มีนาคมนี้ และจะติดตามจนคดีถึงที่สุดแน่นอนครับ....
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี พบผู้ต้องหาเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่จำนวน 4 คน ด้วยกัน เป็นชาย 3 หญิง 1 กางเต็นท์พักแรมบริเวณริมลำห้วย เนื่องจากได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากทางคนกลุ่มดังกล่าว ทำให้หัวหน้าวิเชียร และเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบอุปกรณ์การประกอบอาหาร ซากสัตว์ต่างๆ รวมทั้งปืนที่ซุกซ่อนอยู่ในบริเวณที่ตั้งแคมป์ หลังจากนั้นพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด เช่น ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง และซากเสือดำ ถูกชำแหละและถลกหนัง พร้อมปลอกกระสุนปืน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมและส่งคดีให้ สภ.ทองผาภูมิ ตรวจสอบหลักฐาน และสืบพยานมาตลอด
เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และตรงไปตรงมา ทำให้กระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกลับมาอีกครั้ง โดยเสียงส่วนใหญ่ต่างก่นด่า ประจานการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหา โดยเฉพาะ "นายเปรมชัย กรรณสูต" ประธานอิตาเลียนไทยฯ จนถึงปัจจุบัน ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่ามีส่วนในการล่าครั้งนี้
หลังจากเหตุการณ์การล่าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นสัตว์ที่พบได้ไม่บ่อยอย่าง เสือดำ ทำให้เราเห็นทั้งภาครัฐ องค์กรอนุรักษ์ องค์กรเอกชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ออกมาเรียกร้อง เดินขบวน ทำป้าย แสดงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการกระทำในครั้งนี้ และการแสดงออกทางโซเชี่ยลมีเดีย นับเป็นพลังครั้งสำคัญเพื่อเป็นบทเรียน และเป็นที่จับตามองของกระบวนการยุติธรรมในไทย
#เสือดำต้องไม่ตายฟรี
เหตุการณ์รวมพลังและผู้คนเกือบทั้งประเทศต่างเห็นใจและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติแบบนี้เป็นเรื่องไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็น และเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องราวของทรัพยากรธรรมชาติ เสือดำ และสัตว์ต่างๆ กฏหมายการกระทำผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และขั้นตอนการดำเนินการทางกฏมายว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร....
สุดท้ายผมหวังว่าเรื่องราวตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เหล่านี้บ้าง?
หากเราได้รู้สึกเจ็บใจการการกระทำแบบนี้ และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก เราสามารถช่วยชีวิตสัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติของเรา ด้วยการ ไม่ซื้อ ไม่ล่า สัตว์ป่า และร่วมเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ เรามาลุ้นกันครับว่าผลจะเป็นอย่างไร หวังว่าเสือดำและเหล่าสัตว์ที่ตายไปจะไม่ตายฟรีนะครับ....
Cr. ขอบคุณผู้สร้างสรรค์ภาพทุกภาพครับ
โฆษณา