“จงขายปากกานี้ให้ผม” – “Sell me this pen”
ประโยคเด็ดจากหนังเรื่อง Wolf of Wallstreet
นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิ คาปริโอ
เล่ามาจากชีวิตจริงของ Jordan Belfort
สุดยอดนายหน้าค้าหุ้น ผู้ที่ทำเงินได้มหาศาลในเวลาไม่นาน
.
.
แล้วขายปากกายากตรงไหน?
ยากหรือไม่... ประโยคนี้ก็กลายเป็นคำถาม "วัดกึ๋น"
ของนักขายหน้าใหม่
ที่ทำให้ตกม้าตายมานักต่อนักแล้วในห้องสัมภาษณ์
.
.
ทำไมถึงตกม้าตาย เพราะแค่ขายปากกา?
...
นักขายส่วนใหญ่ตกหลุมพราง
การบรรยายสรรพคุณข้อดีของตัวเอง (เมาน้ำลาย)
...
“ปากกานี้ทำจากนี้ทำจากแร่ไวแบรเนี่ยม
ที่เป็นแร่หายากที่สุดในโลก
มีแค่ในโล่ของกับตันอเมริกากับปากกานี้เท่านั้น!”
...
เผอิญว่าคนที่คุยอยู่ตรงหน้าเป็นคุณแม่วัย 35
ที่ไม่ประสาเรื่องมาเวล!
จบเห่ !!!
.
.
สิ่งที่จะทำให้ขายของได้ไม่ใช่สรรพคุณ
แต่คือของที่มี...ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หรือเปล่า
...
ปากกาแร่ไวแบรเนี่ยม อาจแพ้ทางปากกาหมีพูห์
หากลูกค้าเป็นคุณแม่ที่มองหาปากกาให้ลูกรัก
.
.
แล้วทำไงถึงจะขายปากกาได้โดนใจล่ะ?
อันนี้ต้องว่ากันยาว แต่ที่ใช้ได้และใช้มาแล้วอันหนึ่ง
#คือถามหาความต้องการของคนตรงหน้าก่อนนี่คือหัวใจ
...
“ถ้าคุณแม่ต้องซื้อเครื่องเขียนให้ลูกรัก
คุณแม่อยากได้ปากกาแบบไหนค๊ะ ^^”
- อยากได้แบบทนๆ ใช้แล้วไม่พังอ่ะ -
“โห...คุณแม่โชคดีมากค่ะ...
เพราะปากกานี้ทำจากนี้ทำจากแร่ไวแบรเนี่ยม
ที่เป็นแร่หายากที่สุดในโลก
มีแค่ในโล่ของกับตันอเมริกากับปากกานี้เท่านั้น!
รับรองทนทานใช้พันปีไม่พังค่ะ !”
...
โอเค แบบนี้แร่ไวแบรเนี่ยมค่อยน่าซื้อหน่อย
#เพราะตอบสนองความต้องการเรื่องความทนทานได้
.
.
ที่อยากให้ลองนึกๆไว้
คือ "ให้" ในสิ่งที่ลูกค้า "ไม่อยากได้"
ต่อให้ดีแค่ไหน เค้าก็คายทิ้งอยู่ดี
...
เพราะเค้าไม่ได้เห็นว่ามันมีค่าเหมือนอย่างที่เราเห็น
...
อย่าทำให้สินค้าของเราเป็น “พลอย” ที่อยู่ในมือ “ไก่”
เพราะมันคงไม่ไฉไลเท่า “ข้าวเปลือก” เป็นแน่ !