23 มี.ค. 2019 เวลา 00:09 • ท่องเที่ยว
เที่ยว Hong kong ฉบับตะลุยกิน ไม่เที่ยวมาก ไม่เจ็บคอ เพราะกินอย่างเดียว..เริ่มได้!!
ช็อปปิ้งฟิน กินกุ้งยักษ์ ควักpayWave จิบไวน์แดง ติ่มซำไม่แพง หมูแด๊งแดง อร่อยจนขาแพลง ดีงาม ให้ 10 เต็ม!
เที่ยวฮ่องกง แบบอัพเดทรอบนี้ เราจะแบบผู้โดยสาร สวยๆ ไม่เหนื่อย เพราะเราไม่ทำงาน เย้!
คือไปเที่ยวเอง เสียเงินเองนั่นเอง..
แต่ถึงอย่างไรก็จะไม่ทิ้ง คอนเสปต์ อยู่เพื่อกิน ที่พากันกินลูกเดียว เที่ยวไม่สน ^^
ทริปนี้ เราจะสิงสถิตอยู่แต่ที่ระแวกสนามบิน เพราะเหนื่อยจริงจัง บอกตัวเองว่าพอแล้ว ปวดขามากกับการเดิน-"- (แต่เดี๋ยวสุดท้ายก็ไม่พ้นอยู่ดี เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)
"Tung Chung" คือหนึ่งในสถานีรถไฟใต้ดิน ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เดินทางง่าย สะดวกสบาย ลงจากเครื่องบินมา เดินออกมาจากสนามบินไม่ไกล รอรถจากโรงแรม ก็ป๊าดดด พามาถึงโรงแรมได้ภายใน 10 นาที
โรงแรมที่ว่านี้ คือ Novotel Citygate เป็นโรงแรมที่อยู่ภายใน Citygate Outlet mall ซึ่งสะดวกต่อการช็อปปิ้งม๊ากกก กอไก่ล้านตัว เพราะช็อปกันให้เพลิน ลืมเวลา ห้างปิด ค่ำมืดแค่ไหน ก็ไม่มีตกรถ ตกรอบรถไฟ หรือกลับโรงแรมไม่ถูก
หลับตาเดิน ทั้งช็อป ทั้งกินกันให้หนำใจ จะเช้าจนมืด ตื่นมาหลับตาเดินมาช็อปต่อก็ยังไหว เพราะใกล้แค่เอื้อมจริงๆ
1
Tung Chung คือสถานีเล็กๆ ที่คนเยอะ เพราะเป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะแวะช็อปปิ้งกันเป็นจุดสุดท้าย ก่อนที่จะเดินทางกลับ
Citygate Outlet Mall ขึ้นชื่อว่าเป็นของ Outlet คือของแบรนด์เนมที่ราคาถูกกว่าในช็อปปกติ มีลดราคา โปรโมชั่นมากมาย ผู้คนจึงมากกกกก....ตามไปด้วย
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หรือรองเท้า ของถูกและดีก็คงจะมีอยู่จริง แต่จะมีไซส์ไหม อันนี้ก็แล้วแต่ดวง เพราะสำหรับแอร์ป้าผู้ไม่มีดวง ก็เลยไปจบที่ของกินซุปเปอร์มาเก็ตด้านล่าง
1
"Taste" ซุปเปอร์มาเก็ต สวรรค์ของแอร์ป้า (มนุษย์บ้ากิน)
ซุปเปอร์มาเก็ตนี้ ตั้งอยู่ชั้นล่างสุดของ Mall ที่มีความเป็นนานาชาติ เพราะอย่างที่เราทราบกันดี ฮ่องกงเป็นเกาะ ที่ต้องนำเข้าสิ่งของเครื่องใช้ ทั้งอุปโภค และบริโภค เป็นส่วนมาก ดังนั้นหากรับได้เรื่องราคา มาที่นี่จึง ครบ จบ ในที่เดียว
แต่นั่งเครื่องบินมาตั้งไกลลลล แสนไกล จะมากินพิซซ่า ที่นี่ไหม?!...ถามใจเธอดู 😑
ถามซ้ำอีกที....เพราะหากอยากกินขึ้นมาจริงๆ ก็คงต้องไม่พ้น พิซซ่าหน้าหมูแดง ที่ต้องอร่อยแน่ๆแบบไม่ต้องลอง 👀
แล้วเราก็มาถึงฮ่องกงอย่างเป็นทางการ เพราะได้กิน "หมูแดง"!
ให้ภาพเล่าเรื่อง หิวจนน้ำยายไหย..
"หมูแดง" สินค้าที่เรียกได้ว่าเป็น OTOP ของเกาะฮ่องกง ขึ้นชื่อมาก เพราะอร่อยจน....
จนอยากกลับบ้านไปโยนหมูแดงที่เคยกินมา ทิ้งไปเลย
1
ประสบการณ์หมู(ที่เคย)แดง หรือหมูต้ม ทาสีแดง ที่เคยกินมา เราจะลืมมันไปให้หมด !
เพราะหมูแดงที่นี่ คือดี คือหมักน้ำผึ้ง หมักซอส เอาไปย่าง ย่างจริงๆไม่โม้ หมูที่หมักจนนิ่ม กับสีแดงที่ไม่ได้ทา..
กับข้าวสวยนึ่ง คือนิ่ม หอม อุ่นๆกำลังดี
กับซอสน้ำมัน พริกกรอบ เค็มๆ หอม (แล้วก็อ้วนดี)
ผักกวางตุ้ง ที่กินคู่กัน คือมันดี.....
สรุปว่าดี เอาไป10 เต็ม!
หมูแดงที่นี่ขายอยู่ทั่วไป ในซุปเปอร์มาร์เก็ต มีแพคขายให้ซื้อกลับบ้านไปทานเอง ทั้งไก่ต้มซอสที่อร่อยไม่แพ้กัน และอาหารอื่นๆหลากหลายอีกมากมาย แต่ที่เด็ดสุดก็คงไม่พ้น"หมูแดง"
เพราะที่กินไป 4 วัน 3 คืน ก็มีแต่ หมูแดง หมูแดง และ หมูแดง....
อร่อยมากแบบไม่ต้องบรรยาย..
ร้านที่แนะนำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Outlet Mall ข้ามสะพานลอยมาไม่ไกล มีชื่อว่า Futong Mall โดยที่ชั้นล่างจะเป็นตลาดขายของสด แต่ติดแอร์ เดินได้แบบสบายๆ จะซื้อผักสด ผลไม้กลับบ้านก็ได้ ไม่แพง แบบรับได้ ฟินกันไปจนกลับกรุงเทพฯแน่นอน
ตลาดสดที่มีแต่ของกิน กิน และ กิน..
กุ้งหวานยักษ์ ซาชิมิ ใหญ่เท่าฝ่ามือ มีที่ฮ่องกง!
ครั้งแรกที่แอร์ป้ามาที่นี่เมื่อ 2 ปีก่อน ต้องร้อง ว้าว ดังมากกกก เพราะตกใจกับขนาดกุ้งหวานยักษ์ ที่ไม่เคยเจอที่ไหน ตั้งแต่บินมาเกือบจะรอบโลก แม้แต่ที่ญี่ปุ่นเอง ก็เจอไม่บ่อย ส่วนมากที่เจอจะเป็นตัวเล็กเท่านั้น
จนมาเจอที่นี่ก็เลย ฟิน จนต้องกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะ กุ้งหวาน ที่ทั้งหวาน และ สด จนหยุดไม่ได้เลยจริงๆ กินจนวิญญาณกุ้งกลับเข้าร่างตัวเองไม่ถูกเลยทีเดียว🤭
ปลาดิบ ทั้งหลายก็ดีงามไม่แพ้กัน ซื้อกลับมากินที่ห้องได้ ไม่เสียเที่ยวแน่นอน
ซื้อของจนจุใจ ก็ได้เวลาไป"จ่ายเงิน"
แคชเชียร์ที่นี่ มีทั้งแบบ ช่วยเหลือตนเอง(self-service checkout) และผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ คือ แบบมีมนุษย์แคชเชียร์คอยคิดเงินให้ตามปกติ
ความพิเศษมันอยู่ตรงที่ ส่วนหนึ่งของ self-service Checkout หรือการจ่ายเงินด้วยตัวเอง ที่สามารถจ่ายด้วยบัตรปลาหมึกได้ตามปกติ(Octopus card) แต่สำหรับบัตรอื่นๆ คือต้องมี payWave เท่านั้น
ซึ่งบอกตามตรงว่ามึนมาก เพราะควักมาบัตรแรกคือ T1 (Central card) ยังไม่ทันได้ดูว่า บัตรต้องมี สัญลักษณ์รูปคลื่น นั่นแปลว่าอะไร
จ่ายไปบัตรแรกเลยไม่ผ่าน ก็ยัง งงอยู่ แล้วก็โดนไล่ให้ไปจ่ายกับมนุษย์แคชเชียร์ สุดท้ายหันไปเห็นพอดี แต่คิดว่าตัวเองไม่มีบัตรที่มี สัญลักษณ์ประหลาดแบบนี้แน่ๆ (แอร์ป้าเป็นมนุษย์โลเทค หรือที่ย่อมาจาก Low-technology -"-)
แต่โชคดี เพราะเป็นมนุษย์หนี้เยอะ เลยควักบัตรอื่นขึ้นมา สรุปว่าผ่าน แล้วบัตรนั้นก็คือ...
SCB M !! (นี่คงเป็นเรื่องตกใจของแอร์ป้าคนเดียวแน่ๆ เพราะคนอื่นเค้าคงรู้กัน 👀)
สรุปที่อยากจะบอกคือ ..
หากอยากไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกง เนื่องจากโลกมันหมุนเร็ว จนตามไม่ทัน ลองเช็คข้อมูลบัตรให้พร้อมเด้อออ จะได้ไม่ไปเด๋อแบบแอร์ป้านี่ไง
เลยกลับมาคิดเล่นๆว่า จุดขายของบัตรเครดิต คงไม่ใช่แค่สะสมแต้มแลกของ แลกไมล์ และได้เงินคืน อืกต่อไป เพราะมันมี ส่วนต่างเล็กๆน้อยๆแบบนี้อยู่ ดังนั้นตรวจสอบกันให้ดีเด้ออ เพราะว่า payWave นี้ แค่แตะบัตรเบาๆ ก็จ่ายจบ ครบ เสร็จทันที!!
หลังจากตื่นตาตื่นใจ กับการเป็นหนี้ง่ายๆเพียงแค่ปลายนิ้วแล้ว...
ก็เลยต้อง ดื่ม ให้ลืมหมูแดงไปบ้าง เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ไปกินต่อ.....👀
ราคาดีงาม 1แถม 1 ราคา 2 ขวด = 100 HKD
เลยไปจบที่ไวน์แดง ราคาถูกมาก แต่ดีงามพระรามแปด...ดื่มด่ำไป พร้อมกับติ่มซำ
อีก 2 วันต่อมา..
เนื่องจากทนไม่ไหวกับชีวิตตัวเองที่จะแทบจะสิงร่างหมู และกุ้ง เลยต้องขอเข้าเมืองไปล้างบาป ไหว้พระขอพรกับเค้าบ้าง..🤭
และวัดแรกที่ไป คือ
Tin hau and Kwun Yum statues แห่ง Repulse Bay.
วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ติดริมทะเล มีความสวยงาม และมีความศักดิ์สิทธิ์ ที่คนส่วนมากมักมาไหว้ สักการะ และขอพร ทั้งเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวย และ ขอบุตร
เนื่องจากเพราะตัวเอง ปักหลัก ปักฐานอยู่แต่นอกเมือง เลยทำให้การเข้าเมือง เป็นอะไรที่ไกลพอสมควร
การเดินทางมาที่นี่ สามารถมาได้หลายทาง เช่นการนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Causeway bay และต่อมินิแวนสาย 40 เดินต่ออีกหน่อย
แล้วมาจบที่การเดินลงเนินเขา ที่ขากลับไม่ต้องพูดถึง.... (เพราะต้องเดินขึ้นเนินอันสูงชัน)
แต่ด้วยความสวยงามที่คุ้ม จนลืมเหนื่อย เพราะเมื่อมาถึง ท่านจะรู้สึกเหมือนได้มาอีกประเทศ เพราะที่นี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมาย มีร้านอาหารริมหาดที่ดูออกสไตล์ตะวันตกเบาๆ ทั้งบาร์ และมุมนั่งชมวิว
ผู้คนที่พาสุนัขมาเดินเล่น พาคนแก่ เด็ก และกลุ่มวัยรุ่นที่มานั่งสังสรรค์กันริมหาด ให้ความรู้สึกครึกครื้นไม่น้อย
ลมพัดเย็นๆ ที่อุณหภูมิ 20° c ทำให้หลังจากไหว้พระขอพร นั่งกินลมชมวิวต่อได้อีกเป็นวัน
นั่งพักกันยาวไป จนกว่าจะหายเหนื่อย เพราะขากลับนี่แหละ จะได้ออกแรงแบบจริงจัง เดินขึ้นเนินให้พร้อม ขึ้นรถอีก 2 ต่อ แล้วก็กลับโรงแรม จนสลบเหมือด หมดแรงหมูแดง ไปอีกหนึ่งวัน...
วัดที่ 2 Wong Tai Sin
วัดหวั่งไท่ซิน ที่อยู่ในเมือง การเดินทางสะดวก เพียงแค่เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Wong Tai Sin และเดินต่ออีกไม่ไกล ก็เป็นอันถึง..
ความพิเศษอยู่ที่คนส่วนมากมักมาขอพรเรื่องความรัก ขอคู่ และเซียมซีที่ว่าแม่นมากดั่งตาเห็น
แต่เนื่องจากวัดตอนนี้อยู่ในช่วงปรับปรุง จึงทำให้ต้องเดินอ้อมบ้าง ไม่เปิดหมดทุกส่วน แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสักเท่าไหร่..
วัดที่ 3 Che kung Temple
วัดกังหัน ที่อยู่นอกเมืองไกลออกไป คนไทยรู้จักกันดี รู้ดีขนาดไหน..
ขนาดที่ว่าเดินเข้าไป คนในวัด แม้แต่คนขายของก็พูดไทยได้เกือบหมด สบายหายห่วงแน่นอน เรื่องสื่อสาร
เข้าไปไหว้พระขอพร และหมุนกังหันเพื่อความเป็นสิริมงคล
หากยังไม่พอใจ ยังอยากจะหมุนต่อ ก็ซื้อกังหันกลับมาหมุนต่อได้ที่บ้าน ราคาไม่แพง
การเดินทาง
มาลงที่สถานีรถไฟ Tai wai และเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งมาตามทาง ก็จะถึงวัดซึ่งหาได้ไม่ยาก เพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่
จบทริปไหว้พระ ก็ต้องกลับมาแบบช้ำๆ
ขาช้ำเพราะเดินเยอะนี่เอง... ทั้งพลิกทั้งแพลงคงไม่ต้องพูดถึง😶
แต่ถึงจะเหนื่อยกาย ก็สุขใจ เพราะอิ่มบุญอิ่มใจพร้อมกับกังหันในมือ
หน้าตา กังหัน ที่เป็นของแท้จากวัด
ป.ล. หากใครไม่อยากเดินจนขาลาก แบบแอร์ป้า แนะนำให้เลือกโรงแรมในเมือง แพลนให้ดี เพื่อให้เที่ยวได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น หรือซื้อทัวร์ที่พานั่งรสบัสใหญ่ไปเที่ยวตามจุดต่างๆ
เพราะแอร์เป็นมนุษย์ชิว ไปเอง กลับเอง นักเลงพอ (สภาพขาเลยเป็นแบบที่เล่ามา-"-)
ดังนั้นจะเที่ยวให้สนุกร่างกายต้องพร้อม ไม่ทรมานตัวเองจนเกินไปด้วยน้า
เพราะความสุขของการเที่ยว คือการได้พักผ่อนสมอง ได้กินของอร่อย เจออะไรแปลกใหม่ และไม่ทรมานร่างกายมากไป
ขอให้สนุกทุกการเดินทาง..
Have a safe flight✈
#แอร์ป้าห้าดาว
กดติดตาม ช่องทางการแชร์บทความเพิ่มเติม และการติดต่อ ได้ที่ Facebook 👇
🙏😊👍

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา