Blockdit Logo (Mobile)
ลุงแมน
•
3 เม.ย. 2019 เวลา 09:49 • ธุรกิจ
Oknha Rithy Sear จากผู้ลี้ภัยที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สู่เจ้าของธุรกิจชั้นนำของประเทศกัมพูชา
Oknha Rithy Sear เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน-เขมรในกรุงพนมเปญแม้จะมีกองกำลังฆ่าล้างพลเรือนเชื้อสายจีน แต่ครอบครัวของเขารอดชีวิตมาได้ทั้งหมด
ในปี 1988 แม่ของเขาจัดการให้เขาได้ร่วมลงเรือผู้ลี้ภัยเพื่อเดินทางไปออสเตรเลีย เพื่อที่เขาจะได้ช่วยแปลภาษาและขอความช่วยเหลือได้
คืนก่อนออกเดินทาง เรืออีกลำหนึ่งที่บรรทุกผู้ลี้ภัย 300 คนจมลงไม่ไกลจาก Sihanoukville
1
เขาจำได้ว่า ขณะที่เรือประมงลำเล็กกำลังเริ่มออกเดินทาง โดยมีลุงของเขาเป็นผู้คัดท้ายเรือ ศพยังคงลอยขึ้นลงตามกระแสคลื่น หลายสัปดาห์ต่อมา เรือของเขาก็จมลงเพราะชนเข้ากับแนวปะการังใกล้ๆ
เกาะสุมาตรา เขาเกาะแผ่นไม้กระดานลอยคอนาน 3-4 ชั่วโมงจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียมาถึงและช่วยผู้ลี้ภัยที่รอดชีวิตมาได้ 171 คน
ก่อนนำไปปล่อยไว้ในหมู่บ้านประมงแห่งหนึ่งใน Kalimantan ช่วงเวลา 6 เดือนที่นั่นยังคงตามหลอกหลอนเขาจนถึงทุกวันนี้
ในที่สุดบรรดาผู้ลี้ภัยก็โดนส่งตัวออกไปยังค่ายของสหประชาชาติใน Riau Islands เขารับหน้าที่แปลภาษาให้กับสหประชาชาติเป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะได้รับข้อเสนอให้เดินทางกลับบ้านที่ กรุงพนมเปญ
Oknha Rithy Sear อาศัยพรสวรรค์ในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศฝึกภาษาอังกฤษจากคนงานของสถานทูตรัสเซียคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายในช่วงที่ประเทศตกอยู่ใต้อำนาจของเวียดนามในเวลานั้น
แต่เมื่อสหรัฐฯ และสหประชาชาติเริ่มส่งความช่วยเหลือเข้ามาในกัมพูชา ทักษะภาษาอังกฤษกลับมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เขาต้องลี้ภัยยาวนานถึง 4 ปี และเดินทางกลับกัมพูชาและเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจที่ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆของประเทศ
หลังการเลือกตั้งครั้งแรกของกัมพูชาภายใต้องค์การบริหารชั่วคราว (Transitional Authority) เมื่อปี 1992 เขาอาศัยความสัมพันธ์กับสหประชาติจัดบริการขนส่งให้กับบรรดาสถานทูตและหน่วยงานต่างๆ เขากับหุ้นส่วนไม่มีรถบรรทุก จึงแบ่งเงิน 200 เหรียญจากค่าบริการที่เรียกเก็บ 800-1,000 เหรียญเพื่อเช่ารถ
เขาใช้ความสัมพันธ์ที่มีสร้างธุรกิจขึ้นมาจนได้การขนส่งอาหาร ทำให้เขาได้เดินทางมาถึงชายแดนประเทศไทยและได้ทำความรู้จักกับเลขานุการของประธานบริษัท CTI Logistics ของประเทศไทย ที่ได้แนะนำให้เขาได้พบกับหุ้นส่วนในอนาคต นั่นคือ เกล็ดชัย เบญจอาธรศิริกุล แห่ง Kerry Express (Thailand)
กำไรของบริษัทยังคงเติบโต แต่เขาไม่ไว้ใจธนาคารในท้องถิ่น จึงนำรายได้ไปฝากไว้กับที่ดิน เขาเริ่มกว้านซื้อที่ดินตามแนว Russian Federation Boulevard ใน กรุงพนมเปญ ที่เชื่อมระหว่างเมืองกับสนามบิน เพราะเห็นว่ามีการพัฒนาเกิดขึ้นในพื้นที่ตรงกลางระหว่างเมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสนามบิน
เขาใช้ที่ดินมูลค่าสูงที่มีอยู่ในกรุงพนมเปญและในอีก 6 จังหวัดดึงดูดหุ้นส่วนชาวต่างชาติเข้ามาร่วมในกิจการร่วมค้า สำหรับ 2 โครงการแรกของ Oxley Worldbridge
จากนั้นจึงขยายสู่การให้บริการนำเข้าและส่งออก ตลอดจนการให้บริการรับช่วงต่องานองค์กร (Outsource) บริษัทแห่งนี้มีพนักงานมากถึง 3,750 คน บางส่วนอยู่ในเวียดนาม ลาว เมียนมา และไทย
ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Worldbridge International บริษัท โลจิสติกส์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นหนึ่งใน บริษัท ขนส่งสินค้าชั้นนำของประเทศกัมพูชา
เขาเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดใน WorldBridge และยังถือหุ้น 50% ใน Oxley Worldbridge และอีก 40% ใน Kerry Worldbridge Logistics ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าร่วมกับ Kerry Logistics Network ของฮ่องกงและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์,ก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ
โฆษณา