1 เม.ย. 2019 เวลา 11:20 • ธุรกิจ
หมัดต่อหมัด : ส่องหุ้นที่ดินทองคำกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC
AMATA VS WHA
.
EEC คือ แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ภายใต้แผนพัฒนายุทธศาสตร์แห่งชาติ 4.0 ในพื้นที่ 3 จังหวัดหลักๆ ได้แก่ ชลบุรี , ระยอง และ ฉะเชิงเทรา โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางสำคัญของเอเชียอีกครั้ง !
.
ข้อดี
- ถ้าหากเขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับการยอมรับ จากการศึกษาดูงานของนักลงทุนต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะเข้ามาลงทุนภายในประเทศจากสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี (ถือว่าเป็นดาบสองคม) หรือ การเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ s-curve
ผลที่จะตามมา ทำให้ที่ดินแหล่งนั้นจะกลายเป็นทองคำแห่งการลงทุน จากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ ที่ดินไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ เรามาส่องหุ้นที่มีที่ดินในแถบนั้นกันดีกว่าครับ AMATA VS WHA
.
AMATA
.
ลักษณะธุรกิจของ AMATA
พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยมีบริษัทในกลุ่มดำเนินธุรกิจด้านสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการหลังการขาย ทั้งน้ำประปา กระแสไฟฟ้า และจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
.
การเติบโตในปี 2562
บริษัทตั้งเป้าภายในปีนี้ จะขายที่ดิน 1,000 ไร่ (จาก 925 ไร่ ปี 61)รับปัจจัยจากโครงการอีอีซี พร้อมปรับราคาขายที่ดินอมตะซิตี้ ชลบุรี จาก 8.5 ล้านบาทต่อไร่ เป็น 10 ล้านบาทต่อไร่ เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดภายใน (ส่วนระยองยังไม่มีการปรับราคาที่ดิน ประมาณ 3.8 ล้านบาทต่อไร่) นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเมียนมาและลาว น่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้เช่นกัน
.
WHA
ลักษณะธุรกิจของ WHA
บริษัทฯ เป็นผู้นำในการให้บริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้าน logistics properties โดยสามารถจำแนกส่วนธุรกิจได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Logistics) ธุรกิจการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development) ธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power) และธุรกิจให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Platform) อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีนโยบายในการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ฯ (WHART HREIT และ WHABT) หรือกองทุนรวมฯ (HPF) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการในอนาคตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ และกองทุนรวมฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านการลงทุนในกองทรัสต์ฯ และ/หรือกองทุนรวมฯ เพื่อผลตอบแทนในรูปเงินปันผลสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี
.
การเติบโตในปี2562
ตั้งเป้าการขายที่ดินในปีนี้มากกว่า 1,600 ไร่ มีการขยายคลังสินค้าต่อเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า รวมถึงวางแผนการลงทุนระยะยาว 5ปี (62-66) การกลุ่มทางด้านธุรกิจโดยการเป็นเจ้าของร่วมกัน และ จับตาประเด็นที่น่าสนใจของ Alibaba ที่จะสร้างศูนย์โลจิสติกส์ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ(คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้)
.
AMATA VS WHA
Price 20.6 4.28
Mkt cap. 21,980.20 61,350.66
Revenue 5,266.89 11,622.20
Margin 1,018.22 2,906.81
P/E 18.04 19.46
Yield 2.75 % 3.26 %
.
ข้อเสีย
- การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาจจะไม่ได้ตรงตามเป้า เพราะ บริบทของภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ได้ร้อนแรงขนาดนั้น เนื่องจากการประมาณการเติบโตในอนาคตที่ค่อนข้างหดตัว ความขัดแย้งภายในประเทศ และ ต่างประเทศที่ลดความเชื่อมั่นในการลงทุน ที่คอยกดดันการลงทุน (ถ้าทั่วโลกไม่ดี เราก็คงดีด้วยไม่ได้ครับ)
.
- นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้น นโยบายภาครัฐจะส่งผลกับการลงทุนในประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ทำให้ต้นทุนการผลิตภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนจากต่างชาติอาจจะชะลอลงตามไปด้วย ทำไมเขาจะต้องมาลงทุน ในเมื่อระแวกบ้านเรามีต้นทุนที่ถูกกว่าบวกกับค่าขนส่งสินค้าอาจคุ้มค่ากว่าการลงทุนในประเทศของเรา เป็นต้น
1
.
- เขตเศรษฐกิจอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนในระแวกนั้น ความเสียหายกับทรัพยากร รวมถึงผลประโยชน์ทางภาษีที่เป็นตัวดึงดูดอาจเป็นผลลบมากกว่าผลบวกก็เป็นได้
2
.
มุมมองในการลงทุน
- ทั้ง AMATA และ WHA มีลักษณะธุรกิจที่น่าสนใจ ได้รับประโยชน์จากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถ้าหากมองในเรื่องของการลงทุน WHA จะมีละกษณะธุรกิจที่ครบวงจรมากกว่า AMATA ในขณะที่ AMATA จะเน้นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ (ลักษณะของหุ้นทั้ง 2 เป็นหุ้นเติบโต ทำให้เงินปันผลไม่ได้สูงมากนัก ต้องนำเงินไปลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง )
1
*บทความนี้เป็นเพียงการแชร์ข้อมูล มิได้ชี้นำการลงทุน
ขอ 1 ไลค์ 1 แชร์สำหรับความรู้ดีๆแบบนี้
✨สนใจเรียนรู้เรื่องการลงทุนแอดมาเลยครับ ทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย^^
Line ID: @BestCom (มีตัว@ด้วยนะครับ)
หรือคลิ๊กมาเลยที่: http://line.me/ti/p/@ldj3404k
โฆษณา