3 เม.ย. 2019 เวลา 17:00 • สุขภาพ
5 เทคโนโลยีทางการแพทย์สุดล้ำ
1.ภาพเอ็กซ์เรย์สีสามมิติของร่างกายมนุษย์
จากการใช้ชิปของ CERN ด้วยชิปเซ็นเซอร์ที่ CERN วิจัยขึ้นมา ถูกบริษัทด้านฉายภาพอย่าง Large Haldron Collider นำมาพัฒนาต่อจนสำเร็จ เสร็จเป็นอุปกรณ์ฉายภาพสีสามมิติของร่างกายมนุษย์อย่างกระดูก, ไขมัน, และเนื้อเยื่อตำแหน่งต่างๆได้
2.การใช้ AI ทำนายผลข้างเคียงของการใช้ยาหลายชนิดพร้อมกัน
เทคโนโลยีนี้ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของคนที่ต้องกินยาหลายชนิด ที่อาจมีผลต้านระหว่างกัน จนอาจเป็นผลร้ายตามมาอีกหลายอย่าง งานนี้ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดจึงได้คิดระบบ Deep Learning ที่ชื่อ Decagon ที่ผ่านการเรียนรู้โปรตีนกว่า 19,000 ชนิด จนทำให้รู้ถึงปฏิกิริยาของยาแต่ละชนิดต่อโปรตีนรูปต่างต่างๆ เราจึงคาดการณ์ผลกระทบต่อร่างกาย หากต้องใช้ยาหลายชนิดพร้อมกันได้อย่างแม่นยำ
1
3.หุ่นยนต์เจาะกะโหลกอัตโนมัติ
ใครๆก็รู้ว่าการผ่าตัดกะโหลกนั้นไม่หมู และเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมากในวงการแพทย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเว่นจึงคิดค้นหุ่นยนต์ที่ชื่อ RoBoSculpt ที่เอาไว้เป็นผู้ช่วยในการเจาะกะโหลก ที่ช่วยเร่งความเร็วและให้ความแม่นยำในการผ่าตัดได้มากที่สุดนั่นเองครับ
4. กระจกตาแบบพิมพ์สามมิติที่ใช้ได้เหมือนจริงอันแรกของโลก
เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เรียกเสียงฮือฮาจากหลายสำนักข่าวทั่วโลกได้ไม่น้อย ถึงแม้เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติเพิ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงไม่นานมานี้ โดยเริ่มจากทีมนักวิจัยจาก Newcastle University ได้ค้นพบเทคนิคใหม่ที่จะช่วยคนนับล้านที่รอการปลูกถ่ายกระจกตา จากการใช้เครื่องพิมพ์ทางชีวภาพ (Bio-printer) โดย Prof. Che Connon และทีมนักวิจัยสามารถผนวกสเต็มเซลล์กระจกตากับคอลลาเจนและสารแอลจิเนต (น้ำตาลประเภทหนึ่งที่ใช้ในการผลิตเนื้อเยื่อใหม่) เพื่อสร้างหมึกชีวภาพ (bio-ink) ที่สร้างโครงกระจกตามนุษย์ได้ในเวลาเพียง 10 นาที นี่ถือเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยคนได้อีกหลายล้านคนเลยล่ะครับ
5. หมวกตรวจภาวะหลอดเลือดในสมองแตก
อาการเส้นเลือดในสมองแตกนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิต แต่ถ้าเราสามารถพบอาการนี้ได้อย่างรวดเร็วทันเวลา มันจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้มากทีเดียว ทางบริษัท Cerebrotech Medical Systems ของสหรัฐฯ เข้าใจในความสำคัญเรื่องนี้จึง คิดค้นวิจัยเจ้า Cerebrotech Visor หรือ หมวก ที่จะคอยส่งคลื่นวิทยุผ่านสมอง เพื่อเปรียบเทียบผลระหว่างสมองสองซีก ที่สำคัญหมวกใบนี้ยังตรวจจับ และวัดระดับความร้ายแรงของอาการได้แม่นยำถึง 92% ถ้าเทียบกับวิธีปกติที่มีความแม่นยำเพียง 40 – 89% เท่านั้นครับ
เทคโนโลยีทั้งหลายเหล่านี้ เกิดขึ้นได้จากการที่มนุษย์ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและโรคภัยไข้เจ็บใดๆ แต่ต่อให้เราจะมีอุปกรณ์สุดเจ๋ง หรือล้ำหน้าขนาดไหน แต่ถ้ามนุษย์ไม่ดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง เทคโนโลยีเหล่านั้นก็อาจช่วยอาการป่วยของเราไม่ได้อยู่ดีนะครับ
#เทคโนโลยี #การแพทย์สุดล้ำ #Goodful
โฆษณา