Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PT at Home กายภาพบำบัดถึงบ้านคุณ
•
ติดตาม
6 เม.ย. 2019 เวลา 07:34 • ไลฟ์สไตล์
อัมพาต หายได้จริงมั้ย??
โรคนี้เป็นโรคที่ทุกๆคน กลัวมากนะครับโดยเฉพาะคนที่มีความดันโลหิตสูงเนี่ย โรคลำดับแรกๆที่คิดถึงคงหนีไม่พ้นหลอดเลือดสมองตีบแตกตันและอัมพาตแน่นอนครับ
1
ทีนี้ เนื่องจาก สาธารณสุขเรา พยายามรณรงค์ เรื่องนี้ โดยที่จะเห็นได้ว่า มีป้ายความรู้แปะอยู่ทั่วไป
“หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัดไม่รู้เรื่อง หากพบให้รีบโทร 1669 มีเวลาแค่ 270 นาทีเท่านั้น”
ถ้าหากพบอาการดังกล่าว แสดงว่าเป็นอัมพาตครึ่งซีกแล้วครับ
คราวนี้ผมจะมาแลกเปลี่ยนความรู้ว่า อัมพาตจริงๆแล้ว คืออะไร เกิดจากอะไร และที่สำคัญหายได้จริงมั้ย??
Medicalexpo
อัมพาต คือ โรคทางระบบประสาทที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลางถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นสมองหรือไขสันหลัง ส่งผลให้การควบคุมกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และการใช้ชีวิตผิดปกติไป
อัมพาต แบ่งง่ายๆ ก็จะมี 2 แบบ ที่เห็นผู้ป่วยได้ทั่วไป คือ ครึ่งซีกซ้ายหรือขวา(สมอง,stroke) และครึ่งท่อนบนล่าง(ไขสันหลัง)
อาการก็จะมีหลายแบบเช่นกัน แต่ที่พบบ่อยๆ คือ การอ่อนแรง ไม่สามารถที่จะควบคุมแขนขาให้ขยับได้ตามปกติ
บางคนเกร็งแข็งต้าน งอแขนเข้าตลอด
บางคนอ่อนปวกเปียก ต้องกระตุ้นไฟฟ้าถึงจะเห็นการหดตัวของกล้ามเนื้อ
เกิดอาการนี้ได้ไง??
ก็ต้องบอกว่า หลายปัจจัยมากๆ
ถ้าเป็นจากหลอดเลือดสมองตีบแตกตัน คงหนีไม่พ้นความดันสูง ไขมันสูง เบาหวาน ไม่ก็ความผิดปกติของหลอดเลือด
ถ้าเป็นไขสันหลัง ส่วนมากมักเกิดจากอุบัติเหตุ ที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ตกจากที่สูง รถชน หรือเกิดจากโรคความผิดปกติอื่นๆ
ซึ่งพอระบบประสาทส่วนกลางซึ่งเป็นตัวสั่งการเคลื่อนไหวเสียไป เลยทำให้ควบคุมร่างกายตามต้องการไม่ได้นั่นเองครับ
คำถามที่สำคัญและทุกคนคาดหวังคือ หายได้มั้ย??
ผมก็ต้องบอกตามตรงว่า “ไม่หายครับ”
เพราะว่า ระบบประสาทมีการฟื้นตัวแต่ยากมากและนานมาก เซลล์ประสาทไม่สร้างเพิ่มหลังจากที่โตเต็มไวครับ
แต่!! อย่าลืมว่า หลังเป็นแล้วเรามีเวลา 270 นาที ที่สมองยังฟื้นตัวได้ดีถ้ามีเลือดไปเลี้ยงทัน ดังนั้นให้รีบไป รพ.ครับ คนไข้เรียกได้ว่าจะเคลื่อนไหวได้แทบจะเหมือนคนปกติเลย
อีกอย่างที่สำคัญคือ การเรียนรู้ครับ ถึงแม้ว่าสมองจะฟื้นตัวช้ามากๆ แต่ ”สมองมีการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต” มันจะพยายามปรับตัวเองใหม่ครับ ดังนั้นฝึกทำกิจกรรม ทำกายภาพอย่างมีวินัย เวลาทองคือ 3 เดือนหลังจากที่เป็น ช่วยได้ดีมากครับ เพราะหลังจากนั้น การเรียนรู้และฟื้นฟูจะช้าลงมาก
สุดท้ายๆ ที่ผมอยากจะบอกคือ กันไว้ดีกว่าแก้ครับ
อะไรที่รู้ว่าทานแล้วไม่ดี ก็เลี่ยงบ้าง ลดบ้างครับ ออกกำลังกายแบบแอโรบิก เดิน วิ่ง มวยจีน ให้ max Hr ประมาณ 70% ลดความเสี่ยงได้ดี เพราะหลอดเลือดเราจะแข็งแรงขึ้นโดยที่ไม่หักโหมมากครับ
ปล.เรื่องออกกำลังกาย ถ้าไม่มั่นใจให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนนะครับ
แล้วพบกันใหม่
กภ.เอิร์ธ
8 บันทึก
70
8
17
8
70
8
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย