8 เม.ย. 2019 เวลา 09:53 • การศึกษา
บ้านหลังสุดท้ายของแรดชวา The last home of Javan Rhino !!!!
อุทยานแห่งชาติอูจุง กูลอน (Ujung Kulon national park) ตั้งอยู่ปลายด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะชวา ในจังหวัดบันเตน ประเทศอินโดนีเซีย พื้นที่อุทยานอยู่บนคาบสมุทรที่ทอดยาวไปในมหาสมุทรอินเดีย โดยนอกจากพื้นที่บนเกาะแล้วยังครอบคลุมหมู่เกาะนอกชายฝั่ง รวมทั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติเกาะการากาตั้วซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟการากาตั้ว ที่เคยมีการระเบิดครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1883
1
ภูเขาไฟ Krakatoa เคยประทุเมื่อปี 1883 นับว่าเป็นการประทุของภูเขาไฟครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สร้างความเสียหายทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อมบริเวณเกาะจำนวนมาก
อุทยานนี้มีเนื้อที่ 1,261 ตารางกิโลเมตร โดยแยกเป็นส่วนผืนน้ำ 443 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศของอูจุง กูลอน ประกอบด้วยป่าดิบที่ลุ่มต่ำ ทุ่งหญ้า ป่าชายเลน ชายหาดและทะเล ซึ่ง เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น วัวแดงชวา เสือดาว นกยูง ค่างชวา กวาง หมาใน นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่มั่นสุดท้ายของสัตว์ป่าที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก นั่นคือ แรดชวา, javan rhino
( Rhinoceros sundaicus)
เเรดชวาแม่ ลูกคู่นี้กำลังหาอาหารในป่า ปกติแล้วแรดจะอยู่เพียงตัวเดียว ยกเว้นแม่ และลูกน้อย
ในอดีต แรดชวา เคยพบทั่วเกาะชวา จนถึงแหลมมลายู เรื่อยขึ้นไปถึงพม่า ไทย ลาว กัมพูชาและเวียตนาม จนถึงจีนตอนใต้ และอินเดียตะวันออก ทว่าการล่าเพื่อเอานอและอวัยวะอื่นๆ ที่มีราคาแพง เนื่องจากมีความเชื่อว่า เป็นส่วนประกอบของยาแผนโบราณที่สำคัญ มีคุณสมบัติบำรุงสมรรถภาพทางเพศไปจนถึงรักษาโรคร้ายได้สารพัด ส่งผลให้แรดถูกล่าจนสูญพันธุ์ไปจากหลายพื้นที่ กระทั่งสิ้นศตวรรษที่ 20 ก็เหลือแรดชวาแค่ใน ป่าสงวนคาเตียน ของเวียตนามและอุทยานแห่งชาติ อุจุงกูลอน ของอินโดนีเซีย ทว่าการลักลอบล่ายังล้างผลาญแรดอย่างต่อเนื่องและในปี ค.ศ. 2010 แรดในเวียตนามตัวสุดท้ายก็ถูกพรานเถื่อนสังหาร ทำให้แรดชวาสูญพันธุ์จากแผ่นดินใหญ่โดยสิ้นเชิง เหลือเพียงประชากรกลุ่มสุดท้ายในอุจุง กูลอนเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ของพวกมันนับว่าเข้าขั้นวิกฤต ทำให้ต้องมีการจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบล่า
สถานะภาพปัจจุบันอยู่ในสถานะภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR) คาดว่าเหลือเพียง 60 ตัวเท่านั้นบนโลก
ความสำคัญของอูจุง กูลอน ในฐานะเขตคุ้มครองสัตว์ป่าหายากและแหล่งรวมความหลายหลากทางนิเวศน์วิทยา ทำให้ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific, and Cultural Organization : UNESCO) ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1991 แม้การเป็นมรดกโลกอาจไม่ได้เป็นหลักประกันว่า ผืนป่าแห่งนี้จะคงอยู่ตลอดไป ทว่าอย่างน้อย ตรามรดกโลก ก็อาจช่วยให้อูจุง กูลอน มีความสำคัญมากพอต้านทานกระแสการพัฒนาและรุกรานธรรมชาติที่เพิิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนัั่น คงทำให้โลกยังมีแหล่งพักพิงสำหรับสัตว์ป่าหายากอย่างแรดชวาต่อไป....
ปากเเรดจะมีลักษณะคล้ายจงอย เพื่อใช้กินใบไม้
จะเห็นได้ว่า ชะตากรรมของแรดชวานั้น เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ยิ่งนัก น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสที่จะได้พบแรดชวาบนผืนแผ่นดินไทยอีกแล้ว เหลือไว้แต่ภาพวาดบนกระดาษ และอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า ในฐานะสัตว์ป่าสงวนของไทย เพื่อป้องกันการคุ้มครองซากสัตว์ (นอเเรด) คาดการณ์กันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า เเรดชวาอาจสูญพันธุ์จากโลกเราไปตลอดกาล หลังจากที่พวกมันวิวัฒอยู่ร่วมบนผืนโลกมากว่าล้านปี....
Cr. Komkid
โฆษณา