9 เม.ย. 2019 เวลา 09:03 • ธุรกิจ
กรณีศึกษาน้ำปลาตราปลาหมึก &
เมกาเชฟ
เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักและคุ้นเคยกับน้ำปลาตราปลาหมึกเพราะน้ำปลายี่ห้อนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไปตามร้านค้าส่ง-ปลีก ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไป
โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อ ปี ค.ศ.1944 (หรือปีพ.ศ. 2487) โดย คุณเทียน นิธิปิติกาญจน์ ที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่
เริ่มก่อตั้งโรงงานน้ำปลาเล็กๆ ขึ้น ณ อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร จนเป็นที่ยอมรับแพร่หลาย
จากนั้นจึงค่อยๆ เติบโต ขยายปริมาณการผลิตไปยัง 2 โรงงาน คือ ที่แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม และ ที่คลองด่าน จ. สมุทรปราการ และพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องจนสามารถขยายตลาดไปทั่วประเทศ
จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ น้ำปลาตราปลาหมึกสามารถขยายสู่ตลาดโลกกว่า 70 ประเทศ
แล้วน้ำปลาตราเมกาเชฟเกิดขึ้นได้อย่างไรมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับน้ำปลาตราปลาหมึก
จุดเริ่มต้นของ "เมกาเชฟ"
คุณภาส นิธิปิติกาญจน์ นักธุรกิจรุ่นใหม่นับเป็นเจนเนอเรชั่น รุ่นที่ 3 ของบริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (น้ำปลาตราปลาหมึก) จำกัด โดยคุณภาสอยู่ในฐานะหลานชาย และมีแนวคิดที่จะทำน้ำปลาเกรดพรีเมี่ยมออกจำหน่าย
คุณภาสกล่าวว่าเครื่องปรุงรสของไทยมีดี จึงควรมีเครื่องปรุงรส แบรนด์ไทยโชว์ขึ้นชั้นวางขายระดับพรีเมี่ยมในต่างประเทศบ้าง
"ทำไมเครื่องปรุงของไทย ทำไมต้องถูกที่สุด คุณภาพต่ำที่สุดในตลาดโลก ที่เราเห็นมาร้านอาหารเอเชียของไทยถูกที่สุด น้ำปลาเวียดนามแพงกว่าเรา 3-4 เท่า ซอสหอยนางรมเราสู้ฮ่องกงไม่ได้ คิดอย่างเดียวอยากทำอะไรที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ดีต่อสุขภาพ อยากให้บนชั้นของเมืองนอกมีสินค้าที่ดี
ตอนนั้นยอมรับว่าคิดถึง น้ำปลา เพราะเราเดินมาทางนี้ จึงอยากคิดใหม่ทำใหม่ และได้ทดลองสูตรน้ำปลาขึ้นมาใหม่
"ผมชิมเองเป็นพันๆ ครั้ง เกือบ 2 ปี ทำไปเรื่อยๆ หมักไปเรื่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ ชิมน้ำปลาเกือบ 2 ปี แต่เป็นสิ่งที่รัก ถ้าไม่รักคงไม่บ้าทำ ฟังแล้วยังคิดว่าเค็ม"
"เมกาเชฟ" เริ่มเกิดและเติบโตขึ้น เมื่อคุณภาสใช้เงินลงทุนที่ส่วนหนึ่งขอทุนมาจากครอบครัว มุ่งมั่นลงแรงกับการก่อตั้งโรงงานน้ำปลา
1
โดยเฉพาะการทำตลาดให้กับน้ำปลาเมกาเชฟว่า การคิดต่าง ทำต่าง ทุกอย่างไม่เหมือนใคร ทุกคนไม่ยอมรับ อะไรใหม่หมด
แม้กระทั่งการที่คุณภาสเดินทางไปเสนอเอเย่นต์น้ำปลาตราปลาหมึกที่รู้จักเพื่อขอวางขายน้ำปลาเมกาเชฟ กลับถูกปฏิเสธทุกราย
"ประสบการณ์จากน้ำปลาตราปลาหมึกช่วยได้นิดเดียว น้ำปลาตราปลาหมึกไม่ได้ช่วยให้คนยอมรับ
เมกาเชฟ เพราะเป็นคนละเกรด
เอเย่นต์ที่เคยกอดคอกันสมัยปลาหมึก ไม่มีใครสนใจสักรายเดียว ค่อนข้างหดหู่ เพราะเราสร้างมา ตลาดนอกเราคิดว่าน่าจะไปได้ดี เพราะคนชอบของดี แต่ไม่มีใครเอาเลย
"ผมสร้างมาเพื่อตลาดโลก แต่ผิดหวัง"
"ปลาหมึกแบรนด์ติดแล้ว ลองถือแบรนด์ใหม่เข้าไป คนไม่รู้จัก มาร์เก็ตลีดเดอร์อยู่ที่ 20 เรามาขาย 40 เขาหาว่าเพี้ยน"
2
ตลาดส่งออกเป็นเป้าหมาย เพื่อเลี่ยงการแข่งขันตลาดในประเทศ ซึ่งมีน้ำปลาคุณภาพและราคาใกล้เคียงกัน เมกาเชฟจึงฉีกตลาดเข้าหาคนไทยในต่างแดน และกลุ่มต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย
เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำปลาไทยแบรนด์อื่น ผู้บริโภคที่ชินกับการเลือกสินค้าจากราคา แน่นอนต้องปัดเมกาเชฟไว้หางแถว แต่เมื่อเลือกจากคุณภาพที่เหมาะสมกับราคาแล้ว คุณภาส เชื่อว่า เมกาเชฟไม่เป็นรองใคร
แต่ความมั่นใจที่มีและประสบการณ์ในโรงงานน้ำปลาตราปลาหมึก เกือบ 6 ปี ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
1
ตลอด 1 ปี ที่เริ่มเดินทางเข้าหาเอเย่นต์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นเอเย่นต์เดิมของน้ำปลาตราปลาหมึกทั้งแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย เพราะเชื่อว่าเป็นใบเบิกทางให้กับเมกาเชฟได้ แต่ผิดถนัดเมื่อได้รับการตอบปฏิเสธในทุกครั้ง
"เขาว่า เขามีแบรนด์น้ำปลาเป็นสิบๆ แบรนด์ที่ขายอยู่ ของสุขภาพ เขาบอกลูกค้าเขาไม่รู้ว่าสุขภาพหรือเปล่า เมื่อขายตราปลาหมึกอยู่แล้วและยังมีสินค้าอีกเป็นพันตัว ผมคอพับกลับมาตอนบินรอบโลก พยายามอยู่ปีกว่า เปิดบู๊ธกี่ครั้งก็ไม่ได้ลูกค้า กลับมาคิดไม่ออก จะลดราคาก็ไม่ได้ ต้นทุนสูง"
1
ความยากลำบากการดันสินค้าเข้าขายในห้างสรรพสินค้าปลีก เพราะเป็นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายไม่ง่ายเสียทีเดียว
"เดินเข้าไปหลายครั้ง เราบอกว่าเราตั้งใจลง กว่าจะขึ้นไปอยู่บนชั้นได้เจ็บตัวไปเยอะ เป็นเหตุผลว่าทำไมผมไม่มีกำไร เพราะความพยายามดันเข้าไปก็เสียเปรียบตั้งแต่แรกแล้ว"
1
ต่อมาคุณภาสเล่าว่า เพื่อนซึ่งก่อนหน้าช่วยดูเรื่องสูตรก่อนบินไปเรียนเชฟและประกอบอาชีพเชฟระยะหนึ่งก่อนบินกลับมา เพราะอยากหางานทำในประเทศไทย คุณภาสจึงชักชวนให้ร่วมงานด้วยกัน
"เชฟ" เป็นใบเบิกทางให้อย่างดีเสมือนเป็นการการันตีถึงรสชาติน้ำปลา เมื่อเพื่อนนำน้ำปลาไปให้กับเชฟในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมว่ารสชาติดี เชฟตอบรับรสชาติทุกคน จึงนำเสนอไปยังเชฟระดับโลก ซึ่งเป็นชาวต่างชาติและมีร้านอาหารระดับรางวัลมิชลินสตาร์ ซึ่งเป็นรางวัลด้านรสชาติที่ร้านอาหารทั่วโลกให้การยอมรับ
"เขาขอดูโรงงานผลิตของเราหลังจากชิมน้ำปลา และขอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เชฟระดับอาจารย์ เป็นที่รู้จักทั่วโลกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ ทำให้ชีวิตเริ่มเปลี่ยน เปิดการเปิดตัวน้ำปลาไทยรายแรกในซิดนีย์ ออสเตรเลีย มีเชฟระดับซุปเปอร์
สตาร์หลายคนร่วมงาน"
เมกาเชฟ เริ่มเกิดและเติบโตในทิศทางตามเป้าหมาย คือ ตลาดต่างประเทศและในประเทศก็เริ่มจะเห็นน้ำปลาเมกาเชฟวางขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไป
ปัจจุบัน เมกาเชฟ มีน้ำปลาเป็นตัวชูโรง และสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องปรุงรส หวังตีตลาดในรูปของ "ซอสหอยนางรม" และ "น้ำพริกเผา"
สร้างแบรนด์ใหม่เจาะกลุ่มผู้บริโภคอีกกลุ่ม
จากกรณีดังกล่าวเราอาจจะมองได้ว่าสินค้าที่มีแบรนด์ติดตลาดอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่เดิมเสียทีเดียวเพียงแต่สร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์ สู่กลุ่มผู้บริโภคอีกกลุ่มเราก็สามารถเพิ่มรายได้อีกช่องทางจากสิ่งที่มีอยู่เดิมได้
1
รายได้บริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด
(เมกาเชฟ)
ปี 2558
รายได้ 298 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 1.2 ล้านบาท
ปี 2559
รายได้ 259 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 1.9 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้ 274 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 3.4 ล้านบาท
รายได้บริษัทโรงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด
ปี 2558
รายได้ 794 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 35 ล้านบาท
ปี 2559
รายได้ 851 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 47 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้ 791 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 43 ล้านบาท
1
Reference
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
http:/www.megachefsauce.com/why.aspx
โฆษณา