เมื่อมนุษย์อยากเล่นบทพระเจ้าเสียเอง
ในช่วง 3 ศตวรรษที่ผ่านมา ศักยภาพของมนุษย์นั้นก้าวกระโดด โดยเริ่มตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค่อยๆเอาชนะการคัดสรรตามธรรมชาติทีละเล็กละน้อยในทางการแพทย์และวิศวกรรม
ตัวอย่างของห่วงโซ่อาหาร
เมื่อหลายร้อยปีก่อน หากมนุษย์ป่วยไข้ ก็จะอาศัยหยูกยา หาสมุนไพรป่ามาบรรเทาอาการ ถ้าการเจ็บป่วยนั้นไม่ร้ายแรงจนเกินไป มนุษย์ผู้นั้นก็จะอยู่รอดต่อไป ส่วนที่เหลือก็ต้องพ่ายแพ้ไปตามธรรมดา
พรานป่า
การคัดสรรตามธรรมชาติ คือการคัดเลือกโดยมีธรรมชาติเป็นผู้คุมกฎ ใครแข็งแรงกว่า ย่อมอยู่ต่อ ใครอ่อนแอก็ต้องสูญหายไป กฎนี้คลอบคลุมทุกชาติพันธ์บนโลกใบนี้
ยีราฟที่ตัวเตี้ยย่อมไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
ด้วยความใคร่รู้ของมนุษย์ตลอดกาลยาวนาน ผสมผสานด้วยการศึกษา ทดลอง และจดบันทึกต่อเนื่องกันมา จากความสนใจในการมีชีวิตอยู่ของสัตว์เล็กสัตว์น้อย เริ่มตั้งแต่การผ่ากบผ่าเขียดเพื่อศึกษากลไกการทำงานของชีวิต จนนำไปสู่ความสงสัยในการทำงานของร่างกายตัวเองในที่สุด ต่อมาเมื่อความรู้ก้าวหน้าขึ้น เมื่ออวัยวะส่วนใดของร่างกายมนุษย์เริ่มทำงานไม่ปรกติ ก็สามารถเอาอวัยวะจากศพของมนุษย์ที่ตายจากและบริจาคให้ใช้ต่อ มาทดแทน นอกจากนี้อวัยวะใดที่ไม่มีความซับซ้อนทางชีวเคมีมากนัก ก็แก้แทน ด้วยการใช้วัสดุชนิดต่างๆที่มนุษย์ สังเคราะห์ขึ้นมาทดแทนเอา รวมไปถึงการเสริมกำลัง ด้วย วิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารที่มนุษย์ยุคปัจจุบันนี้ขาดเหลือ และไม่ต้องเข้าป่าเพื่อหาอีกต่อไป ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ชีวิตนั้นราบรื่นยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา นี่นับเป็นก้าวสำคัญในการหลุดพ้นจากกฎการคัดสรรตามธรรมชาติ
หัวใจที่กำลังรอการปลูกถ่าย
จนมาถึงในยุคปัจจุบัน ยุคที่มนุษย์เริ่มตั้งคำถามกับชีวิตที่เป็นนิรันดร์ ความอยากเอาชนะกฎธรรมชาติข้อสูงสุดของทุกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า”ความตาย” มีการทดลองกับหัวสุนัขที่ฝากไว้กับร่างของสัตว์ชนิดอื่นๆ และมีคำถามพ่วงตามมาว่า ความเป็นตัวตนของมนุษย์นั้น ขึ้นอยู่กับอวัยวะส่วนใดหรือไม่ หากไม่ การโอนย้ายสมองของร่างที่ตายไปร่างหนึ่ง ไปสู่ร่างกายใหม่ จะเสมือนการเป็นนิรันดร์หรือไม่ หากไม่สนใจมุมมองทางจริยธรรม
Experiments in the Revival of Organisms
มากไปกว่านี้ปัจจุบัน มนุษย์เรา เริ่มทำลายอำนาจของพระเจ้า ด้วยการเล่นบทพระเจ้าเสียเอง เมื่อมนุษย์เริ่มทดลองการสร้างอวัยวะขึ้นบนร่างกายสัตว์อื่นๆ หากพระเจ้านั้นอยู่ห่างไกลออกไปอีกกาแลกซี่หนึ่ง เมื่อพระองค์หันกลับมาดูโลกใบนี้ พระองค์อาจจะตกใจได้ว่า ผลผลิตที่พระองค์สร้างไว้ บัดนี้ มนุษย์เหล่านี้กำลังท้าทายพระราชอำนาจของพระองค์เสียแล้ว !
ความใครรู้ การปรับตัว และการอยากเอาชนะที่ไม่มีจบสิ้น เป็นคุณลักษณะเด่นของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้จะไม่ได้มีฟันแหลมเหมือนสิงโต บินไม่ได้เหมือนนก ว่ายน้ำไม่ได้เหมือนปลาก็ตามที
Vacanti Mouse
นับตั้งแต่วิทยาศาสตร์ได้พัฒนาแบบก้าวกระโดด ยิ่งตอกย้ำถึงความสามารถในการทำลายอาณาจักรของพระเจ้าลงอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่การเริ่มตกแต่งพันธุกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อปรับปรุงสายพันธ์ของสิ่งมีชีวิตอื่นให้เหมาะสมตามที่ต้องการ เพื่อตอบความสนองความต้องการของตัวเอง แม้ว่าจะติดปัญหาเรื่องจริยธรรมในทางปฏิบัติไปบ้าง แต่เพื่อเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์และข้ออ้างของความจำเป็นในทางการแพทย์ เหตุผลเชิงจริยธรรมก็เริ่มอ่อนแอลงไปในทุกขณะ
อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเล็กๆของมนุษย์ในอาณาจักรเล็กๆบนโลกใบนี้นั้น กลับยังมีอาณาจักรของพระเจ้าอันกว้างใหญ่ที่รอมนุษย์ผู้กระหายใคร่รู้กำลังทัดทานอยู่ แม้ว่าระยะทางที่ไกลที่สุดที่มนุษย์สามารถไปถึงได้จะสุดแค่เพียงดวงจันทร์ในวันนี้ แต่ไม่มีความสงสัยเลยว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รอยเท้าเล็กๆของมนุษย์ย่อมจะจารึกไว้เอาสักที ที่ไกลออกไปในวันข้างหน้า
The Creation of Adam
“ถ้าไม่ลงมือทำ ก็ไม่มีทางรู้ว่าผิดหรือถูก” คำกล่าวนี้สามารถนิยามความเป็นมนุษย์ได้ดีที่สุด ผลของการวิวัฒนาการของมนุษย์อย่างก้าวกระโดด เป็นหลักฐานของการพัฒนาชาติพันธุ์ไปในทุกทิศทุกทาง เท่าที่มนุษย์ต้องการแสวงหาคำตอบ จนกลายเป็นพระเจ้าวายร้ายเสียเองในสายตาสัตว์โลกสายพันธุ์อื่น
ห้องเรียนในปัจจุบัน
ด้วยกระบวนการถ่ายทอนคุณลักษณะผ่านการศึกษา จดบันทึก และถ่ายทอดศักยภาพต่างๆในรูปแบบข้อมูล ข่าวสารที่ถ่ายทอดได้ด้วยการไม่ต้องปฏิสนธิจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความสามารถอันเฉพาะนี้ยิ่งทวีความรุนแรงและเกรี้ยวกราวในสายตาสัตว์โลกทั้งหลายที่อาศัยร่วมอยู่ด้วย
ช่างน่าเห็นใจเมื่อแม่สิงโตในป่าแอฟริกาเมื่อหลายพันปีก่อน ที่คอยปกป้องลูกน้อยจากมนุษย์ลิงที่อ่อนแอและแสนธรรมดา ที่มีเปลวไฟเป็นอาวุธเหมือนเวทมนต์ แต่ทว่าลูกหลานมนุษย์ลิงเหล่านั้น ปัจจุบันกับเป็นพระเจ้าเสียแล้ว ที่ไม่แม้แต่จะง้างปากกัดได้เหมือนเดิมอีกต่อไป และยังชี้เป็นชี้ตายได้ด้วยอาวุธแบบใหม่ที่เรียกว่าว่า “ปืน”
The Jungle Book
นี่เป็นหลักฐานหนึ่งของวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ก้าวข้ามการคัดสรรตามธรรมชาติของดาร์วิน ชีไปเสียแล้ว การคัดสรรนี้ไม่สามารถใช้กับมนุษย์ได้อีกต่อไป นี่นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเหล่าสรรพสัตว์อื่นที่จะใช้ชีวิตได้อย่างปรกติสุขภายใต้อาณาจักรอันเล็กน้อยของพระเจ้าผู้เป็นธรรมชาติและเปลี่ยนมือมาเป็นมนุษย์เสียเอง
นี่ก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว เมื่อมนุษย์เล่นบทพระเจ้าผู้เมตตา ได้ออกบัญญัติที่เรียกว่า “กฏหมาย” เพื่อบังคับใช้ในหมู่กันเอง ในการป้องกันการเข่นฆ่าเหล่าสรรพสัตว์ให้น้อยใหญ่ ให้ลดลงมากที่สุด
ในสายตายของสัตว์ใหญ่น้อยที่มีต่อมนุษย์ มันคือความกลัว และไม่ใช่การเคารพ ด้วยเหตุที่ว่า ไม่ว่าจะพิจารณาห่วงโซ่อาหารกลุ่มใด มนุษย์คือพระเจ้าผู้อยู่เหนือ วงจรเหล่านั้นทั้งหมด
Rhino Hunts in Africa
สิ่งต่างๆที่กำลัง จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่บรรพบุรุษเราได้เริ่มไว้ กำลังดำเนินต่อไป พวกเราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหนในจักรวาลอันไพศาลนี้ อีก 10,000 ปีนับจากนี้ ลูกหลานของเราจะสามารถนำพาอารายธรรมไปได้ไกลแค่ไหน และเหลืออยู่รอดได้แค่ไหนก็ไม่อาจทราบได้ อาณาจักรของพระเจ้าแต่เดิมจะถูกทำลายลงด้วยความเป็นนิรันดร์ได้หรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ นั่นคือคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ และหนทางข้างหน้านั้นก็ไม่มีคำตอบเช่ากัน
เพราะทุกวันนี้เราดำรงมาได้ และเหนือคำว่า “ถูก” หรือ “ผิด” ไปไกลมากเสียแล้ว ความใคร่รู้ ใคร่มีของมนุษย์นั้นมีมากเกินกว่าที่เราจะกลับไปรับบทลิงน้อยในห่วงโซ่อาหารได้อีก ความก้าวหน้าที่ไร้ทิศทางของมนุษย์นั้นไม่มีใครรู้ว่าจุดจบอยู่ตรงไหน และระหว่างทางจะต้องเผชิญกับหัตถ์ของพระเจ้าชนิดล้างกระดานเล่นใหม่ ดังเช่นไดโนเสาร์ที่ต้องสูญพันธุ์จากอุกกาบาตหรือไม่
...ใครจะรู้
แหล่งอ้างอิง
- หนังเรื่อง The jungle Book
- หนังเรื่อง Star War (ทุกภาค)
- ซีรีส์หนังจักรวาล Marvel
- ซีรีส์หนังจักรวาล DC
- เกมส์ ROV
- หนังเรื่อง แสงกระสือ
- หนังสือชื่อ Sapiens : A Brief History of Humankind
- หนังสือชื่อ สงครามที่ไม่มีวันชนะ
- หนังสือชื่อ 500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1 และ 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
