12 เม.ย. 2019 เวลา 06:25 • ประวัติศาสตร์
อเล็กซานเดอร์มหาราช มหาราช ชาตินักรบ ตอนที่ 11 (ตอนจบ)
1
อวสานมหาราช
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เสด็จออกจากเมืองซูซาในฤดูใบไม้ผลิ 324 ปีก่อนคริสตศักราช
พระองค์เสด็จถึงเมืองเอคบาทานาในช่วงฤดูร้อน และได้ประทับบนเขา เนื่องจากบนเขามีอากาศเย็น และกษัตริย์เปอร์เซียมักจะเสด็จขึ้นมาประทับบนเขาในฤดูร้อน
เมืองและอาณาจักรต่างๆ ต่างส่งผู้แทนมายังเอคบาทานาเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ เรื่องจากในเวลานี้ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยึดครองแทบทุกพื้นที่บนโลก ทุกคนจึงต้องการจะผูกมิตรกับพระองค์
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ทรงจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่ในระหว่างนั้น เฮฟีสตีออน พระสหายรักของพระองค์เกิดล้มป่วยและเสียชีวิต
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก เฮฟีสตีออนเป็นพระสหายรักของพระองค์ เป็นครั้งแรกที่พระองค์รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว
แต่แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เศร้า พระองค์ก็ยังคงตั้งพระทัยจะไปให้ถึงบาบิลอน
กองทัพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ออกจากเอคบาทานาในฤดูใบไม้ผลิ 323 ปีก่อนคริสตศักราช ทัพของพระองค์ได้เข้าเมืองบาบิลอน และในเวลานั้น พระชาวบาบิลอนก็ได้ทูลพระองค์ไม่ให้เข้าเมือง เนื่องจากพระได้อ่านดวงดาว และดวงดาวก็บอกว่าพระองค์จะประสบเหตุร้าย
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ไม่สนพระทัยกับคำของพระ พระองค์ทรงมีรับสั่งให้สร้างวังของพระองค์ในเมืองนี้ รวมทั้งให้ครอบครัวและพระราชสำนักของพระองค์ย้ายเข้ามายังบาบิลอน
ในเวลานั้น โรซานา พระมเหสีของพระองค์กำลังทรงพระครรภ์ หากพระราชบุตรนั้นเป็นพระราชโอรส พระราชบุตรนั้นก็จะได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
ในเวลานี้ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุด อาณาจักรของพระองค์นั้นครอบคลุมไปแล้วกว่า 2 ล้านตารางไมล์ทั่วโลก
เรียกได้ว่าค่อนโลกตอนนี้เป็นของพระองค์แล้ว
แต่พระองค์ไม่ต้องการแค่นี้ครับ พระองค์ต้องการมากกว่านี้
เป้าหมายต่อไปของพระองค์คือ “คาบสมุทรอาหรับ” ถัดจากนั้นก็มุ่งไปทางตะวันตก พิชิตแอฟริกาใต้ต่อ ตามมาด้วยสเปนและอิตาลี
ในฤดูใบไม้ผลิ ทัพเรือของพระองค์ก็ได้มารวมตัวกันที่บาบิลอน พร้อมทั้งทัพบกอีกจำนวนมาก เรียกได้ว่า กองทัพของพระองค์ในครั้งนี้ใหญ่กว่าทุกศึกที่ผ่านมา
ทุกอย่างพร้อมสำหรับการพิชิตคาบสมุทรอาหรับ
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ทรงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงฉลองก่อนออกศึกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจสำหรับเหล่าทหาร แต่ทหารหลายคนก็กังวล ถ้าหากว่าคำพระเป็นจริงล่ะ?
ในระหว่างงานเลี้ยง พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เกิดประชวร พระอาการค่อยๆ ทรุดลงเรื่อยๆ พระองค์ต้องพักรักษาองค์เป็นเวลาหลายวัน
แต่พระอาการของพระองค์มีแต่ทรุดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดพระองค์ไม่สามารถจะตรัสได้
เหล่าทหารของพระองค์ต่างเป็นกังวล พระองค์แทบจะไม่หายพระทัยแล้ว ทหารแต่ละนายต่างเข้ามาคารวะกษัตริย์ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
วันที่ 10 มิถุนายน 323 ปีก่อนคริสตศักราช พระเจ้าอเล็กซานเดอร์สวรรคต พระองค์มีพระชนมายุยังไม่ถึง 33 พรรษา
หลายคนต่างคิดว่าพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ถูกลอบปลงพระชนม์ อาจจะมีคนแอบวางยาในงานเลี้ยง ข่าวลือเรื่องการสวรรคตต่างแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร
ทุกวันนี้ นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าแผลจากการถูกลูกธนูที่พระอุระของพระองค์นั้นไม่เคยไปไหน พิษบาดแผลยังคงอยู่และแสดงอาการออกมาในตอนนั้น
แต่ในทุกวันนี้ สาเหตุการสวรรคตก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด
พระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ถูกฉีดสารเคมีและสมุนไพรเพื่อไม่ให้พระศพเน่า
พระศพของพระองค์ถูกขนย้ายด้วยเกวียนขนาดใหญ่ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ปีในการสร้าง ประดับด้วยทองอย่างหรูหรา
ผู้คนต่างออกมารอดูขบวนศพของพระองค์จนแน่นขนัด
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ได้รับการยกย่องเป็นมหาราช เนื่องด้วยผลงานที่พระองค์ทรงสร้างไว้
ตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์สามารถขยายอาณาจักรของพระองค์ออกไปอย่างกว้างไกล ภายหลังการสวรรคตของพระองค์ เหล่าทหารของพระองค์ก็ได้เข่นฆ่ากันเพื่อแย่งอำนาจ และมีทหาร 3 นายที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ในดินแดนที่เคยเป็นของพระองค์
แต่ไม่มีใครยิ่งใหญ่เท่าพระองค์เลย
มีเพียงพระเจ้าอเล็กซานเดอร์เท่านั้นที่คู่ควรกับคำว่า “มหาราช”
จบลงสำหรับซีรีย์ชุดนี้นะครับ ฝากติดตามซีรีย์ชุดต่อไปด้วยนะครับ
โฆษณา