12 เม.ย. 2019 เวลา 05:22 • การศึกษา
พุทธวจน (ธรรมะจากพระโอษฐ์)
"คนดีที่ยิ่งกว่าคนดี"
เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : http://watnapp.com
เว็บไซต์ธรรมะเบื้องต้น : https://buddhawaja999.simdif.com
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1
พรหมเทวสูตรที่ ๓
[๕๖๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม*แห่ท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
ก็สมัยนั้นแล บุตรแห่งนางพราหมณีคนหนึ่ง ชื่อพรหมเทวะ ออกบวชในสำนักของพระ
ผู้มีพระภาค
ครั้งนั้นแล ท่านพระพรหมเทวะเป็นผู้เดียว หลีกออกแล้ว ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนอันส่งไปแล้ว อยู่ไม่นานเท่าไร ก็ได้กระทำให้แจ้งซึ่งคุณวิเศษอันยอดเยี่ยมเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องประสงค์เพราะรู้แจ้งชัด เองในปรัตยุบันนี้แหละเข้าถึงอยู่ ท่านได้ทราบว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำ ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกมิได้มี ก็ แหละท่านพรหมเทวะได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในบรรดาพระอรหันต์แล้ว ฯ
[๕๖๔] ครั้งนั้นแล ท่านพระพรหมเทวะ ในเวลารุ่งเช้านุ่งห่มแล้ว ถือ บาตรจีวรเข้า
ไปบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี ท่านเที่ยวบิณฑบาตในพระนครสาวัตถีตามลำดับตรอก เข้าไปยังนิเวศน์แห่งมารดาของตน
ก็สมัยนั้นแล
นางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะ
ถือการบูชาบิณฑะแก่พรหมมั่นคงเป็นนิตย์ ฯ
ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมคิดว่า
นางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะนี้แล
ถือการบูชาบิณฑะแก่พรหมมั่นคงเป็นนิตย์
ไฉนหนอ เราพึง เข้าไปหานางแล้วทำให้สลดใจ ฯ
[๕๖๕] ลำดับนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมหายไปในพรหมโลกปรากฏแล้วในนิเวศน์ของมารดา
แห่งท่านพระพรหมเทวะ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลังพึงเหยียดออกซึ่งแขนที่คู้เข้าแล้ว
หรือพึงคู้เข้าซึ่งแขนที่เหยียดออกแล้ว ฉะนั้น ฯ
ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนางพราหมณี ผู้มารดาของ
ท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า
ดูกรนางพราหมณี ท่านถือการบูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใดมั่นคงเป็นนิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจากที่นี้
ดูกรนางพราหมณี
ภักษาของพรหมไม่ใช่เช่นนี้
ท่านไม่รู้จักทางของพรหม
ทำไมจึงบ่นถึงพรหม ฯ
ดูกรนางพราหมณี
ก็ท่านพระพรหมเทวะของท่านนั้น
เป็นผู้หมดอุปธิกิเลส ถึงความเป็นอติเทพ
ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกังวล
มีปรกติขอไม่เลี้ยงดูผู้อื่น
ท่านพระพรหมเทวะที่เข้าสู่เรือนของท่าน
เพื่อบิณฑบาตเป็นผู้สมควรแก่บิณฑะ
ที่บุคคลพึงนำ*าบูชา ถึงเวท มีตนอันอบรมแล้ว
สมควรแก่ทักษิณาทานของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ลอยบาปเสียแล้ว
อันตัณหาและทิฐิไม่ฉาบทาแล้ว
เป็นผู้เยือกเย็นกำลังเที่ยวแสวงหาอาหารอยู่ ฯ
อดีตอนาคตไม่มีแก่ท่านพระพรหมเทวะนั้น
ท่านพระพรหมเทวะเป็นผู้สงบระงับ
ปราศจากควัน ไม่มีทุกข์ ไม่มีความหวัง
วางอาชญาในปุถุชนผู้ยังมีความหวาดหวั่น
และพระขีณาสพผู้มั่นคงแล้ว
ขอท่านพระพรหมเทวะนั้นจงบริโภคบิณฑบาตอันเลิศที่สำหรับบูชาพรหมของท่าน ฯ
ท่านพระพรหมเทวะ
ซึ่งเป็นผู้มีเสนามารไปปราศแล้ว
มีจิตสงบระงับ ฝึกตนแล้ว
เที่ยวไปเหมือนช้างตัวประเสริฐ ไม่หวั่นไหว
เป็นภิกษุมีศีลดี มีจิตพ้นวิเศษแล้ว
ขอท่านพระพรหมเทวะนั้น
จงบริโภคบิณฑบาตอันเลิศที่สำหรับบูชาพรหมของท่าน ฯ
ท่านจงเป็นผู้เลื่อมใสในท่านพระพรหมเทวะนั้น
เป็นผู้ไม่หวั่นไหว ตั้งทักษิณาไว้ในท่านผู้เป็น*ทักษิเณยยบุคคล
ดูกรนางพราหมณี
ท่านเห็นมุนีผู้มีโอฆะอันข้ามแล้วจงทำบุญ
อันจะนำความสุขต่อไปมาให้ ฯ
ท่านจงเป็นผู้เลื่อมใสในท่าน พระพรหมเทวะนั้น
เป็นผู้ไม่หวั่นไหว ตั้งทักษิณาไว้ในท่านผู้เป็น*ทักษิเณยยบุคคล
ดูกรนางพราหมณี
ท่านเห็นมุนีผู้มีโอฆะอันข้ามแล้ว
ได้ทำบุญอันจะนำความสุขต่อไปมาให้แล้ว ฯ
*ที่ถูกคือ แห่ง หน้า๑๗๒ ข้อ๕๖๓
*ที่ถูกคือ มา หน้า๑๗๓ ข้อ๕๖๕
*ที่ถูกคือ ทักขิเณยยบุคคล หน้า๑๗๔ ข้อ๕๖๕
พระไตรปิฎกไทยฉบับหลวง เล่ม15 หน้า172-174
ข้อ563-565

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา