12 เม.ย. 2019 เวลา 11:58 • ปรัชญา
เทพเจ้าอพอลโลกับเทวีไดอาน่า
วันหนึ่งบนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลรุ่งอรุณ ฝาแฝดชายหญิงคนหนึ่งได้ถือกำเนิดมา ลาโทน่า มารดาของเด็กทั้งสอง ตั้งชื่อให้ทั้งสองว่าอพอลโล และไดอาน่า เทพเจ้าจูปิเตอร์ผู้ปกครองทวยเทพทั้งปวง. รู้สึกชื่นชมและหลงรักในเด็กทั้งสอง แต่ที่เทวีจูโนผู้เป็นชายาของพระองค์รู้สึกไม่พอใจที่เทพเจ้าปิเตอร์รู้สึกหลงรักในเด็กทั้งสอง มีหลายๆครั้งที่เทพเจ้าจูปิเตอร์ลงไปเยี่ยมและ ดูแลเด็กๆ นั่นยิ่งทำให้เทวีจูโนไม่พอใจ ซึ่งนั่นทำให้เทวีจูโน เฝ้าติดตามและกั่นแกล้ง ทรมานลาโทน่าต่างๆนานา จนเวลาผ่านไปอพอลโลและไดอาน่าก็ตัวโตและหนักเกินกว่าที่นางจะอุ้มไหว เมื่อลาโทน่า เหนื่อยลา จนต้องหยุดพักเทวีจูโนก็จะส่งสัตว์ไปร้องโหยหวนและส่งแมลงไปกัดต่อยนาง ทำให้มารดาผู้น่าสงสารกับทารกทั้งสองต้องกระเสือกกระสนเดินทางไปเรื่อยๆ และในที่สุดนางก็เดินทางมาถึงทะเลสาบเล็กๆแห่งหนึ่งด้วยความปวดเท้าและกระหายน้ำนามซึ่งคิดจะหยุดพักเพื่อดื่มน้ำบนริมฝั่งน้ำ ชาวชนบทกลุ่มหนึ่งกำลังตัดต้นวิลโลว์เพื่อไปสานตะกร้า ทันใดนั้นเทวีจูโนก็เติมความโหดร้ายใส่ในจิตใจของผู้คนเหล่านั้นพวกเขาจึงโยนมีดและไม้วิลโลว์ทิ้งไปแล้วหันมาตะโกนด่าทอลาโทรโน่อย่างหยาบคายและขับไล่นางไป และ คนชนบทเหล่านั้นใช้ไม้เท้าแล้วเท้ากวนให้โคลนขุ่นขึ้นมา กระทั้งน้ำใสๆ กลายเป็นน้ำขุ่นมัวจนนางไม่สามารถกินได้ ราทอในคืนคืนด้วยความโกรธและพูดกับคนป่าเถื่อนเรานั้นว่าเมื่อพวกเจ้าฉันชอบทะเลถึงจะ ราทอในคืนคืนด้วยความโกรธและพูดกับคนป่าเถื่อนเรานั้นว่า”ในเมื่อพวกเจ้าชอบทะเลสาบแห่งนี้นักก็จงอยู่ที่นี่ตลอดไป” เมื่อ ลาโทน่าพูดจบ ท้องฟ้าเบื้องบนก็ค่อยค่อยดำมืดลงมีประกายใส่ฟ้าสว่างขึ้นติดตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องคำรามกึกก้อง และบรรดาผู้ชายและเด็กประถมทั้งหลายก็หายไปเหลือไว้แต่เพียงเสื้อผ้าอันว่างเปล่าของพวกเขาลอยอยู่บนเหนือผิวน้ำขุ่นๆ
แล้วก็ปรากฏหัวเขียวๆของกบตัวโตๆ โผล่ขึ้นมาตามจุดต่างๆบนผิวน้ำ เมื่อ เทพเจ้าจูปิเตอร์ รู้ว่าลาทูน่า และลูกทั้งสองถูกขับไล่จากสวนแห่งนั้นพระองค์ก็นำสามแม่ลูกไปยังพวกเขาอันสวยงามลูกหนึ่งบนเกาะดีลาส ที่นั่นลาโทน่าได้พักพิงอาศัยและเลี้ยงดูลูกน้อยทั้งสองของตนอย่างมีความสุขและสงบ ก่อนที่อพอลโลจะมีอายุครบ 10 ขวบเค้าต้องจากมารดาและน้องสาวของตนไป ขอต้องเดินทางไปยังดินแดนไฮเปอร์บอเรียนอันสวยงามและอยู่ไกลโพ้น ซึ่งเป็นดินแดนที่มีฤดูใบไม้ผลิยาวนานถึงครึ่งปีและฤดูร้อนยาวนานอีกครึ่งปีเมื่ออพอลโลกลับมายังดีลาส เพื่อเยี่ยมเยือนมารดากับน้องสาว เค้าขับราชรถเทียมด้วยหงส์สีขาวลอยมาบนผิวน้ำแน่นอนว่ามารดาและน้องสาวของเค้า ดีใจมากที่ได้พบเขาแล้วสนใจราชรถที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ของเขายิ่งนัก อพอลโลจึงบอกกับมารดาและน้องสาวเขาว่าเทพเจ้าจูปิเตอร์ประทานแก่เขาเผื่อว่าเขาจะได้ขับกลับมาเยี่ยมเยียนเธอทั้งสองได้
เมื่ออพอลโลเติบโตขึ้นเทพเจ้า จูปีเตอร์ ก็เรียกเข้าไปพบและพาเค้าไปดูราชรถทองคำ “ เจ้าไม่ต้องขับราชรถเทียมหงศ์ขาวอีกต่อไปแล้ว เจ้าจะมีหน้าที่คอยดูแล ดวงตะวันและขับราชรถแห่งดวงตะวันซึ่งเทียมด้วยม้าแห่งทิวาวารทั้งสี่ตัวนี้” เย็นวันนั้นเมื่ออพอลโลนำหมาของเค้าเข้าไปไว้ในขอกและจอดรถเอาไว้หลังม่านเมฆสีมั่วแล้ว เค้าก็รีบกลับแต่เราเรืองให้มารดาและน้องสาวของเค้าฟัง เมื่อไดอาน่าได้ฟัง เรื่อราวพี่ชายของเธอว่าได้รับเกียรติสูงส่งเช่นนั่น เธอก็รู้สึกยินดีและก็ขุ่นเคืองใจขึ้นมาในเวลาเดียวกันเนื่องจากอพอโล “ได้เดินทางไปยังดินแดนหลายแห่งซึ่งฉันเองไม่ได้มีโอกาสไป แต่ฉันไม่เคยได้อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ก่อนรุ่งเช้าพรุ่งนี้เมื่อพี่จะขึ้นไปยังยอดเขาโอลิมปัสฉันขอติดตามพี่ไปด้วยฉันจะย้ำเตือนเทพเจ้าทวิตเตอร์ว่าฉันเป็นน้องสาวคู่แฝดของพี่และเมื่อฉันได้สองท้องฟ้าให้สว่างเจิดจ้าในยามกลางวันด้วยราชรถของเทพเจ้าฮีลีอาส ฉันก็ควรจะได้เตรียมไฟเสียเงินของพระองค์สำหรับสองสามวันให้สว่างในยามที่พี่พักผ่อน” เช้าตรู่วันต่อมาก่อนที่อพอลโลจะขับรถชะลอไปเค้าก็ไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าจูปิเตอร์ และไดอาน่าก็ขึ้นไปกับเขาด้วยเทพเจ้าสเวตเตอร์รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นน้องสาวคู่แฝด ผู้งดงามของอพอลโลเพราะพระองค์มิได้คำนึงถึงไดอาน่ามานานแล้ว เมื่อเทพเจ้าจูปิเตอร์ ได้ฟังว่าเธอต้องการสิ่งใดพระองค์จึงประทานลูกแก้วสีเงินให้เธอคอยดูแล
เมื่ออพอโล่เสร็จภารกิจหน้าที่รจรนัดรถคันงามไว้หลังม่านเมฆยามเย็นแล้วไดอาน่าก็ก้าวขึ้นราชรถของเธอและบังคับม้าสีขาวทั่วไปตามเส้นทางอันกว้างใหญ่ของสวรรค์ในขณะที่พี่ชายกำลังนอนหลับพักผ่อนเธอก็สงสัให้กับโลกมนุษย์ท้องทะเลและดินแดนสวรรค์หรือศรีเงินยวงของเธอ
จากเรื่อง Apollo and Diana
โฆษณา