12 เม.ย. 2019 เวลา 12:02 • ธุรกิจ
เจาะลึกกลยุทธ์การค้าของทัวร์เมืองจีน
1 ขู่ให้กลัว
2 ลวงให้โลภ
3 จัดฉากซื้อใจ
1
ช่วงนี้มีใครใช้วันหยุดยาวไปเที่ยวเมืองจีนมั้ยครับ??
ภาพประกอบจาก internet
ถ้าใครเคยไปทัวร์เมืองจีนราคาถูกๆ แน่นอนว่าจะต้องโดนคนจีนหลอกขายของด้วยกลยุทธ์เหล่านี้แน่นอนครับ
ส่วนตัวแอดไปมาหลายครั้งแล้วก็เสียตังให้พวกเค้าบ้างไม่เสียบ้างตามความอยากได้ของแอดนะครับ หลายคนไปแล้วหมดตังค่าซื้อของไปมากกว่าค่าทัวร์อีก ก็จะมาบ่นมาพูดกันทีหลังว่าโดนคนจีนหลอก ให้เสียตัง
จะว่าเค้าหลอกก็หลอก ไม่หลอกก็ไม่หลอกนะครับ ต้องมองว่าเป็นกลยุทธ์การขายของเค้าที่ล้ำลึกมากๆครับ วันนี้แอดเลยจะเอาประสบการณ์ตรงที่ได้ไปมา ผสมกับมุมมองในการค้า มานำเสนอกลยุทธ์การขายของพวกเค้านะครับ
จากที่แอดไปครั้งล่าสุดเลยนะครับ
ต้องอธิบายก่อนว่าร้านเหล่านี้เป็นกลยุทธ์การหาเงินจากนักท่องเที่ยวครับ ซึ่งที่เราไปทัวร์ได้ในราคาถูกเพราะร้านพวกนี้เค้าเอาเงินอุดหนุนค่าเดินทางค่าที่พักให้เราครับ ถ้าคิดว่าช่วยเค้าซื้อของก็ไม่เป็นไรนะครับ ดูที่พอดีนะครับผม
2
และเมื่อเราถึงเมืองจีนเราจะพบว่าจะไม่มีใครที่อยู่ข้างเราเลยนะครับ แม้แต่ไกค์ของเราก็จะเป็นคนจีนที่ช่วยขายของนะครับ เค้าไม่รักษาผลประโยชน์ให้เราเพราะเค้าได้เงินจากทางนั้นนะครับ เมื่อถึงเมืองจีนเราต้องช่วยตัวเองแล้วครับ ใจแข็งๆไว้นะครับ
1 ขู่ให้กลัว
ถ้าใครไปทัวร์เมืองจีนที่มีโปรแกรมเข้าร้านยาจีน แพทย์แผนจีนเตรียมตัวไว้ได้เลยครับ
ทัวร์จะพาเข้าร้านแพทย์แผนจีนเพื่อแนะนำให้เรารู้จักกับแพทย์แผนจีน ก็จะมีการอธิบายต่างๆโดยคนจีนทีพูดภาษาไทยเก่งๆแล้วก็จะให้เราตรวจโรคฟรีๆโดยหมอแมะ(หมอจีนจับชีพจร)
ซึ่งปัจจุบันแพทย์แผนจีนแผนโบราณก็มีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆนะครับในเรื่องความปลอดภัยของยาสมุนไพร และแม้ไกค์จีนจะบอกว่านี่เป็นร้านของรัฐบาล รัฐบาลจีนสนับสนุน แต่แอดไม่เชื่อครับ แอดเชื่อแพทย์แผนใหม่เมืองไทย ดังนั้นแม้หมอแมะจะมาบอกว่าแอดเป็นโรคนั้นนู้นนี้สารพัด ต้องกินยาสมุนไพรเยอะแยะเดือนละหลายพันบาท ไปสามปีครึ่ง แอดก็ไม่สนใจหรอกครับ แอดเสียตังให้เค้าหยุดตรวจด้วยการซื้อบัวหิมะ 2 กระปุก(เพราะตั้งใจมาซื้ออยู่แล้ว) ราคาแพงกว่าข้างนอกหน่อยแต่ก็มั่นใจว่าเป็นของแท้กว่าซื้อข้างนอกครับ
แต่รายการนี้ถ้าใครใจไม่แข็ง ขี้กลัว หรือผู้ใหญ่มีอายุเวลาโดนตรวจเป็นนู้นนี้นั่น ก็จะเสียเงินค่ายาสมุนไพรไปได้ง่ายหน่อยนะครับ ทั้งๆที่จริงๆเราก็ไม่รู้เลยว่าเราป่วยจริงมั้ย แล้วยามันจะได้ผลมั้ย ถ้ากังวลจริงๆแอดแนะนำว่าไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเมืองไทยน่าจะดีกว่ามาเชื่อหมอแมะครับผม แต่ด้วยบรรยากาศและการข่มขู่จากหมอแมะ จะทำให้คนที่กลัวจะควักเงินให้เค้าไปง่ายๆครับ บางคนแค่จุดนี้จุดเดียวเสียเงินไปเป็นหมื่นแล้วนะครับ น่ากลัวมากๆเลย ><
2 ลวงให้โลภ
หลังจากเราโดนขู่ให้กลัวจนเกือบหมดตัวแล้วก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เสียตังจะไม่เสียทีให้กับร้านของทัวร์อีกแล้วนะครับ ทัวร์ก็จะพามาร้านขายของ อาจจะเป็นผ้าไหม หรือ หมอนยางพารา หรืออะไรก็ได้ครับ
ซึ่งล่าสุดแอดไปเจอร้านหมอนยางพารามาครับ ซึ่งแบบหมอนยางพารานี่บ้านเราก็เยอะนะ แล้วราคาก็ไม่แพง แอดก็คิดว่าเค้าจะขายได้เหรอ
แต่เค้าขายได้ครับ แล้วไม่ได้ขายแบบนิดๆหน่อยๆ เค้าขายแบบคนแย่งกันซื้อเลยแหละ
เค้าเปิดประเด็นพูดด้วยสิ่งที่แอดคิดครับ ว่าเค้ารู้ว่าทุกคนจากเมืองไทยคงไม่มาซื้อหมอนยางพาราจากเมืองจีนหรอก เค้าจะขอแค่นำเสนอแล้วให้ทุกคนกลับครับ แล้วเค้าก็มีทริคมายากลต้มคนดูเล็กๆน้อยๆว่าหมอเค้าเป็นยางพาราผสมทัวร์มาลีนปล่อยประจุลบออกมาทำให้หลับสบาย(ก็หมอนยางพาราปกติอะแหละ) แต่ก็มีคนเชื่อนะครับ
1
แต่สิ่งที่ทำให้เค้าขายได้จนแย่งกันซื้อคือ การลดแลกแจกแถมครับ
เค้าเปิดราคาหมอนเค้ามาสูงเลยสูงกว่าซื้อเมืองไทยอีก แต่เค้าเพิ่มของแถมเข้าไปเรื่อยๆๆๆ จนพอคนเริ่มลังเลเค้าก็บอกว่า “ทุกคนรวมเงินกันมาซื้อแล้วไปแยกแบ่งกันได้นะครับ” เท่านั้นแหละความโกลาหลก็เกิดขึ้นครับ
เพราะเค้าตั้งราคามาสูงทำให้ทุกคนลืมว่าหมอนนั้นเมืองไทยก็มีและถูกกว่า
และพอเค้าแถมๆๆๆ คนเริ่มอยากได้แต่ไม่มีกำลังซื้อ จึงลังเล แต่พอเค้าให้ร่วมกันซื้อได้ คนก็มาหารของรวมเฉลี่ยราคาออกมาว่าถูกเหลือเชื่อ ก็เกิดความโลภจนแย่งกันรวมเงินเพื่อจะแบ่งของกันครับ
จึงถือว่ากลยุทธ์การขายที่อาศัยความโลภของคนเค้าทำได้ดีมากครับ
3 จัดฉากซื้อใจ
ถ้า 2 ร้านที่ผ่านมา คิดว่าเราคิดว่าเค้าขายเก่งแล้ว แอดจะบอกว่าสกิลการขายเค้ายังเทียบไม่ได้ครึ่งของร้านที่ 3 ครับ ร้านนี้จะถูกจัดไว้ท้ายสุดของทุกรายการ เพราะว่าเค้าขายเก่งมากกกก
กลุยทธิ์การขายของเค้านั้นเรียกว่าเซียนเหยียบเมฆเลยทีเดียว
ร้านสุดท้ายที่ทุกท่านจะต้องเจอมักจะเป็นร้านขายของมีค่าจำพวกอัญมณีหรือหยกครับ ที่แอดไปล่าสุดเจอร้านหยก
กลยุทธ์การขายของเค้านั้นเรียกได้ว่ากะไม่ให้เราเหลือเงินกลับบ้านกันเลยทีเดียวครับ หรืออาจจะเป็นหนี้บัตรเครดิตรกันไปแบบมึนๆงงๆ
เมื่อเรามาถึงร้านลูกทัวร์ทุกคนจะมาถึงด้วยสภาพสะบักสะบอมทางสภาพการเงิน เนื่องจากโดนสองร้านแรกอัดไปซะยับแล้วนะครับ
แม้ว่าเราจะสะบักสะบอม และสร้างกำแพงในใจขึ้นมาอย่างไรร้านนี้เค้ารู้สภาพเราดีครับ เค้าไม่ได้เพิ่งขายเรากรุ๊ปแรก เค้าขายมาเป็นร้อยเป็นพันกรุ๊ปแล้ว เค้ารู้วิธีจัดการกับเราครับ
เราทุกคนจะเดินเข้าร้านไปด้วยความคิดที่ว่าใช้เงินไปเยอะแล้ว และไม่มีทางซื้อหยกกลับบ้านแน่นอน ซึ่งเค้าเข้าใจดีครับ
ก็จะมีพนักงานพาเราเข้าไปเดินชมร้านครับ และให้ลูบปี่เซียะหินหยกตัวใหญ่ของร้านก่อน แอดไม่ลูบครับ (เพื่อใครไม่รู้ ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลที่ให้โชคให้ลาภหาเงินให้เจ้าของครับ ซึ่งเค้ารักเจ้าของมากก ถ้าเราไปร้านค้าไหน หรือบ่อนการพนันไหน แล้วเราไปลูบปี่เซียะเค้าเข้าละก็เตรียมเสียเงินให้เค้าได้เลยนะครับผม) แอดไม่ลูบปี่เซียะเค้าพนักงานของร้านเค้าไม่พอใจนะครับ
จากนั้นเค้าพาชมร้านพาดูของสวยๆงามๆแพงๆของทางร้านครับ แล้วก็พาไปห้องรับรองในประชุมเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมเรา เค้าบอกว่ารู้ว่าทุกคนไม่ซื้อ ขอแค่ให้ช่วยโฆษณาร้านให้เมื่อกลับไปเมืองไทยนะครับ(เค้าพูดไปงั้นแหละเค้าไม่ได้หวังโฆษณาจากเราหรอกครับเค้าทำให้เราคลายใจว่าเค้าจะไม่ขายของแต่เค้าขายแน่ครับ)
จากนั้นเค้าจะเอาของอย่างอื่นมาขายเป็นเครื่องสำอางผงมุก ลดๆแถมๆ แต่ไม่มีใครซื้อ ซึ่งเค้าก็แจกให้ลองด้วย แล้วก็ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรให้เราคลายใจครับ
จากนั้นผู้จัดการร้านก็เข้ามาพร้อมประโยคยอดฮิต “วันนี้ทุกคนโชคดีมากนะครับที่ผู้จัดการร้านอยู่” (จริงๆก็น่าจะอยู่ตลอดแหละครับ) แล้วผู้จัดการร้านก็จะเข้ามาแนะนำตัวพร้อมตีสนิท ก่อนจะบอกว่าเคยอยู่เมืองไทย ชอบเมืองไทย รักคนไทย วันนี้เจอคนไทย เลยอยากจะแจกของ แล้วก็เอาหยกชิ้นเล็กๆมาแจกทุกคนใส่ถุงอย่างดี ผู้ที่ประเมินราคาไม่เป็นเจอช็อตนี้เข้าไปจะรู้สึกประทับใจมากว่าเค้าดีกับเราจริงๆ เป็นการซื้อใจที่ทำลายกำแพงในใจของทุกคนลงอย่างราบคาบครับ (แต่ยังซื้อใจแอดไม่ได้เพราะเค้าให้หยกแตกแอดเหมือนจะอคติกันส่วนตัว)
ทุกคนเวลานี้จะรู้สึกกับเค้าดีมาก เพราะเหมือนเค้ามาให้ข้อมูลเรา รับรองเรา เลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมเรา ให้ของชำร่วยเรา แลกกับให้เราช่วยโฆษณาร้านเค้าเมื่อกลับไทยแค่นั้น(มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงละแหม่) ทุกคนจึงเปิดใจเชื่อทุกอย่างที่เค้าบอก
จากนั้นเค้าก็จะพาเราไปอีกห้องนึงเป็นห้องโชวของเป็นของใหม่ที่เค้าเพิ่งจะดีไซน์(จริงๆก็คือห้องเชือดนี่แหละ) เค้าก็โชวสินค้าพร้อมบอกราคาสูงพร้อมทั้งบอกว่าถ้าซื้อเมืองไทยแพงกว่านี้ เค้ามาออกบูธเมืองทองราคาแพงกว่านี้ แต่นี้ราคาพิเศษ
คนก็เริ่มสนใจเพราะชิ้นงานที่เค้ามาเสนอในห้องนั้นไม่สูงเท่าที่โชวข้างนอก แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเป็นของพ่อ ยกให้พี่ชาย เธอแค่ดูแลร้านเท่านั้น ไม่อยากขายเอากำไรคนไทย (ก็ยิ่งซื้อใจลูกทัวร์ไปอีก) จนเมื่อทุกคนลังเลเธอจึงบอกว่า พิเศษสำหรับกรุ๊ปนี้ เพราะเธอชอบคนไทย เธอจะลด 90%ทุกชิ้น!! แล้วพนักงานในร้านก็คอยห้ามเธอไม่ให้เธอขายในราคานี้ ด้วยสีหน้าตกใจแบบสุดๆ
เมื่อโดนละครฉากนี้เข้าไป ความโกลาหลก็เกิดขึ้นอีกครั้งทุกคนไว้ใจเธอ ไว้ใจร้าน และเชื่อว่าหยกลดราคา 90%นี่ช่างคุ้มค่าโชคดีจริงๆ จึงแย่งกันซื้อหมดกันไปคนละหลายพันถึงหลายหมื่น มีคนเสียถึงแสนด้วยนะครับ
ทั้งๆที่จริงๆการประเมินมูลค่าหยกนั้นถ้าไม่ใช่มืออาชีพจริงๆก็จะประเมินได้ยากครับ ทำให้เราไม่รู้ว่าจริงๆหยกชิ้นนี้ควรจะราคาเท่าไหร่ แอดบอกได้ว่าถ้าลองใส่เก๋ๆราคาไม่แพงก็ซื้อได้ตามที่เราถูกใจนะครับ เพราะจะไม่อุดหนุนเค้าเลยก็ไม่ได้ แต่ก็อย่าให้ความโลภชักนำเราจนเกินพอดีครับ
หลายคนออกจากร้านนี้มาด้วยความอิ่มเอมยินดีว่าได้ของดีราคาถูกเพราะเค้าเชื่ออย่างนั้น แต่จริงๆแล้วจะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ครับ เพราะส่วนตัวแอดเชื่อว่าไม่มีคนจีนที่ทำการค้าขาดทุนครับ ทำการค้าต้องมีกำไรดังนั้นเค้าต้องกำไรแน่นอนครับ เราไม่มีทางได้ของถูกจริงๆครับ เราโดนทุบแน่นอนเพียงแต่เราโดนไปมากน้อยขนาดไหนต่างหากละครับ
แต่ถ้าเรามีความสุขเราพอใจกับสิ่งที่เราซื้อไปย่อมไม่เป็นไรครับ
จะเห็นได้ว่าถัาใครไปทัวร์เมืองจีนก็จะโดนการขายรูปแบบประมาณนี้ครับ
เค้าไม่ได้หลอกเรานะครับ เพียงแต่เราต้องอย่าหลอกตัวเองครับ
ทุกอย่างเป็นกลยุทธ์การขายทั้งนั้นนะครับ ถ้าใครเรียนรู้นำไปใช้ได้ย่อมเกิดประโยชน์แน่นอนครับ
ขอบพระคุณที่ติดตามครับ ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกช่วงสงกรานต์นะครับ
1
3kokstartup
โฆษณา