13 เม.ย. 2019 เวลา 09:39 • ธุรกิจ
วิธีเก็บเงินที่เวิร์คที่สุด
"ถ้าคุณมีเงินเก็บเดือนละ 3,000 บาท เอาไปฝากแบงค์เฉยๆ
1 ปีคุณจะมีเงินเก็บ 36,000 บาท
1 ปีคุณอาจได้ผลตอบแทน 1.5% (เยอะมากเลย)
1 ปีได้ดอกเบี้ยแถมมา 540 บาท
แค่นั่งtaxi ไปถอนเอาเงินอย่างเดียวก็หมดแล้วค่าดอกเบี้ย..........."
สวัสดีวันสงกรานต์
ใครกลับบ้านก็ขอให้มีความสุข ใครเลือกสนุกอยู่ในเมืองก็ขอให้เจอแต่สีสันนะครับ
วันนี้เป็นวันดีเป็นวันหยุดเทศกาลประจำปี เป็นวันที่คนส่วนใหญ่ต้อง "จ่าย"
ผมเลยมาขอสวนกระแสหน่อยละกัน ช่วงสงกรานต์เราใช้เงินเยอะแน่แต่หลังจากนั้นไปเราก็ต้องไปหาใหม่
แล้วก็ต้อง "เก็บ" ใช่มั้ยหล่ะ
ผมจึงจะมาแชร์วิธีเก็บเงินที่เวิร์คที่สุดให้ เวอร์ชั่นของผมให้ฟังครับ
ก่อนอื่นผมจะบอกว่าวิธีเดียวที่ทำให้คุณเก็บเงินได้คือ เก็บก่อนใช้เท่านั้น
เพราะต่อให้คุณได้เงินมาเท่าไหร่คุณก็ใช้มันหมดอยู่ดีหรือว่าใช้ไม่พออยู่แล้ว คุณก็เก็บก่อนใช้ไปเลยดีกว่า
เพราะถึงจุดนั้นยังไงคุณก็จะพอ ต้องคำนวณการใช้เงินใหม่เพราะว่ามันไม่พอใช้...
ผมมีความเชื่อแบบนี้ครับไม่มีใครเก็บเงินเพราะต้องการรวยเท่านั้นหรอก แต่ปัจจัยหลักจริงๆที่ผมเจอกับคนรอบตัวและญาติคือ
เราอยากมีเงินเก็บเยอะๆ เพราะต้องการอิสระ.....
1
แล้วต้องเก็บเงินเยอะเท่าไหร่ล่ะ?
" คุณรักอนาคตแค่ไหนคุณก็เก็บให้ได้แค่นั้นครับ ที่สำคัญควรเก็บก่อนเกษียณ "
ตั้งค่าเฉลี่ย ผมคิดเล่นนะครับ สำหรับคนที่กำลังใกล้จะเกษียณ
ควรมีเงินเก็บตอนเกษียณประมาณ 5 ล้านบาท (อย่างต่ำนะ) เพราะพ่อผมก็พึ่งเกษียณจากอาชีพครู
1
สาเหตุเพราะว่า 5ล้านนั่น จะช่วยให้คนที่เกษียณมีเงินใช้ต่อไปประมาณ 20 ปีโดยไม่พึ่งลูกหลาน เฉลี่ยออกมาแล้วมีใช้ต่อเดือนไม่ถึง 20,000 ด้วยนะ
(กรณีพ่อผมจะดีหน่อยเพราะว่ามีเงินบำเหน็จบำนาญแต่มันก็ต้องเอาไปใช้หนี้ อย่างว่าแหละ)
คำถามคือแล้วทำยังไงคุณมีเงินเก็บถึง 5 ล้านหล่ะ
สมมตินะครับคุณเก็บเงินได้เดือนละ 20,00 3,000 ตั้งแต่ตอนนี้ตอนที่คุณอายุยัง 30 ปี(อายุนี้แหละคนทำงานเริ่มตั้งตัวได้)
ยกตัวอย่างคุณอายุ 30 เงินเดือน 30,000 หักค่าบ้าน ค่านู่นค่านี่ เหลือเก็บเดือน 3000
1 ปีได้ 36,000 บาท
ถ้าเกิดคุณคูณ 30 ปี
36,000 x 10 ปี มีเงินเก็บเพียง 1,080,000 บาทครับพี่น้อง ยังไม่ถึง 5 ล้านเลย
แล้วเอาไงหล่ะชีวิตทีนี้
เริ่มเครียดยัง? แหะๆ วันพักผ่อนครับอย่าพึ่งเครียด
อ่านต่อๆ
ถ้าเริ่มต้นเงินเดือนเรามี 30,000 บาท ช่วงบั้นปลายชีวิตช่วงกลางของชีวิตเราจะใช้เงินเยอะกว่านี้อีกโคตรๆ
เช่นเวลามีลูก เมื่อเราต้องส่งลูกเรียน หรือคุณมีศรีภรรยาที่ต้องไปเข้าสปา ทำเล็บทุกอาทิตย์..
เอาหล่ะทีนี้เครียดยกกำลังสองแล้วสิ
อย่าห่วงครับผมมีวิธีมาให้ แต่เราตกลงกันก่อน คุณต้องลองทำตามนะ
"ถ้าคุณมีเงินเก็บเดือนละ 3,000 บาท เอาไปฝากแบงค์เฉยๆ
1 ปีคุณจะมีเงินเก็บ 36,000 บาท
1 ปีคุณอาจได้ผลตอบแทน 1.5% (เยอะมากเลย)
หนึ่งปีได้ดอกเบี้ยแถมมา 540 บาท
คุ้มมั้ย
นั่งtaxi ไปเอาอย่างเดียวก็หมดแล้วค่าดอกเบี้ย..........."
แต่แต่แต่.....เรามองกลับกันครับถ้าคุณเอาเงินจำนวนนั้นไปลงทุนที่หุ้นนะครับ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันสามารถสร้างกำไรให้กับชีวิตคุณได้
ผมขอยกตัวอย่างเป็นหุ้นแล้วกันผมเชื่อว่าคนในแพลตฟอร์มนี้อาจเคยลงทุนกันมาบ้าง
ผมจะบอกว่า ลองไปลงทุนนะกับหุ้นที่มัน งอกเงย
แล้วคำถามตามมาคือหุ้นอะไรที่มันงอกเงยหล่ะแซม? 🧐
ก็พวกบริษัทใหญ่ๆนั่นแหละครับ
ขออวยตัวเองสักนิด
(ผมมีความรู้พวกนี้Amatureมาก แต่ผมเล่าเป็นภาษาให้คนที่ไม่รู้อะไรเกียวกับเรื่องนี้เข้าใจได้ ได้ในระดับนึงเลยแหละ)
อวยตัวเองแล้ว เล่าต่อได้😎
1
อย่างเช่นหุ้นที่มัน 10 กว่าบาทสมัยก่อน แต่ทุกวันนี้โดดเป็น 200 บาท
ผมก็ไม่รู้ไงว่ามีหุ้นตัวไหนบ้างที่เป็นอย่างว่า ดังนั้นคุณต้องกระจายความเสี่ยง
ลงทุนสัก 4-5 ตัวแล้วก็ ลงตัวที่คุณคิดว่ามันจะดีในอนาคต
หุ้นที่มันไม่มีทางลงผมขอเดานะครับ เช่น หุ้นพลังงาน
ตราบใดที่คนใช้พลังงานอยู่มันก็ลงยาก
ต่อให้มีพลังงานทางเลือกใหม่ขึ้นมาพวกบริษัทรายใหญ่
เค้าก็พากันแห่ไปลงทุนกับไอ้พวกนี้อยู่ดี เช่น สมมุติไอ้เจ้าของบริษัทนี่ไปลงทุนพลังลม
ไปลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ถึงแม้น้ำมันจะหมดไปหรือว่าก๊าซมันหมดไป เค้าก็ไปลงทุนด้านอื่นอยู่ดีเค้าไม่ปล่อยให้บริษัทเขาตายหรอกครับ
1
คนพวกนี้เค้ามีเงินทุนเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน เค้าได้เงินเดือนมาหลายล้าน เค้าคงไม่โง่พอจะปล่อยให้บริษัทเจ๊งง่ายๆหรอก
มันมีแต่จะเพิ่ม
ดังนั้นมันจะเพิ่มเท่าไหร่
1
เราก็ไม่รู้หรอก
มันอาจจะเพิ่ม 3% ถึง 5 % แต่บางที่อาจจะเพิ่ม 10 ถึง 20 ได้ (ถ้าใครเจอบอกด้วย)
ตัดภาพกลับมาในมุมของการลงทุนถ้าคุณมีเงินเก็บ 36,000 บาทในทุกปี
หวังสัก 15 % ก่อน
= 41,400 บาท
ปีแรกคุณจะมีเงินเก็บ 41,400 บาท!!!🤭
แต่คุณต้องไม่ลืมคำว่า "โตขึ้นเรื่อยๆ"
คุณแค่ลองกดเครื่องคิดเลขตรงเครื่องหมาย = (ไปอีกเรื่อยๆครับ)
กดเล่นดูอีกสัก 29 ครั้งละกันจะได้ครบ 30 ปีข้างหน้า
อ่ะ คำนวณให้
= 2,383,623.79 บาท
นี่คือเงินเก็บจากการลงทุนกับ36,000 จากปีแรกนะครับ!
กับหุ้นที่ถูกต้อง!หรือลงทุนอะไรที่ไปได้สวย!
เก็บไปอีกสัก 30 ปีอย่างที่คำนวณ!
คุณจะมีเงินเก็บต่อปีเกือบสองล้านสี่
แล้วนึกดูนะครับถ้าคุณเก็บได้ในจำนวนนี้ทุกปีและมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยนะ
สมมุตินะครับผม ปีนี้ได้ 30,000 เก็บทุกเดือนเดือนละ 10% ได้ 3,000
ปีหน้าเพิ่มมาหน่อยได้ 35,000 เก็บ 3,500
และมันยังไม่ใช่แค่นี้นะครับทุกๆปีหลังจาก 30 ปีที่ผมคำนวณให้
ถ้าคุณลงทุนให้ถูกแล้วมันยังเติบโตไปเรื่อยๆ คุณสามารถที่จะใช้เงินปีละ 2 ล้านกว่าบาท
เฉลี่ยตกเดือนละ 2 แสน
ว้าววว พี่ชายยย เห็นทางสว่างรึยัง
"แต่มันจะเป็นจริงได้ก็อย่าลืมนะครับคุณต้องลงทุนกับอะไรที่มันถูกต้อง"🙃
แล้ววิธีลงทุนก็คือเราไปลงทุนกับหุ้นที่เราคิดว่ามันจะเติบโตไม่ว่ามันจะอยู่ในราคาไหนก็ตาม
เช่น เราซื้อหุ้นปตท.วันนี้ราคามันขึ้นเราก็ซื้อ.....ราคามันลงเราก็ซื้อ...
โดยเรายังหวังว่าอีก 30 ปีข้างหน้ามันจะเติบโตขึ้น
บริษัทที่ใหญ่เป็นเกือบอันดับ 1 ของประเทศยังไงมันก็ต้องขึ้นรึป่าว? อันนี้ผมเดานะ
ทั้งหมดที่เล่ามามาจากข้างบนอาจงงๆหน่อยแต่นั่นก็คือการวางแผนอนาคตที่ดีในวันข้างหน้าโดยเราไม่ต้องไปหวังพึ่งลูกหลาน
"จากการเก็บเงินที่มีสไตล์ของเราเอง"
แต่ๆ บางคนกลัวว่าหุ้นมันจะล้มหรือว่ามันจะขาดทุน (ผมก็กลัว)
มันมีวิธีแก้ครับ
เราก็รู้กันดีนะว่าหุ้นบางตัวมันมีความเสี่ยงสูงแต่มันก็มีผลตอบแทนเป็นกำไรได้กลับมาเยอะ
แต่ถ้าคุณไปลงทุนกับอะไรที่มันมีความเสี่ยงต่ำแน่นอนเราก็ได้อะไรที่มันตอบกลับมาในระดับที่ต่ำเช่นกัน
สัจธรรมก็คือ คุณลงทุนไปเท่าไหร่ก็ตามคุณก็มีสิทธิ์ที่จะขาดทุนเท่านั้นเหมือนกัน
วิธีการแก้ไขก็คือคุณสามารถหาข้อมูลเองได้นี่ครับ
บริษัทไหนบ้างที่ 10 ปีย้อนหลังมียอดการเติบโตที่ดี
ไปศึกษาการเติบโตของแต่ละบริษัทซะ
หรือดูที่ลงทุนแมนเอามาให้อ่านก็ได้....
โอเค เมื่อคุณรู้แล้วว่าบริษัทไหนดีไม่ดี
แต่คุณอย่าลืมว่า"อย่าไปซื้อหุ้นแค่ตัวเดียว"
มันจะยากอะไร เราก็ซื้อไปหลายๆธุรกิจมันจะต้องมีอันนึงที่มันเติบโตขึ้นแหละ
ลองกระจายสัก 4 5 6 ตัวเพราะคุณไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น
นี่ไงครับ เหมือนที่ผมพูดตอนแรกเลย "เราต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง"
ซึ่งเอาจริงนะไอ้การลงทุนแบบนี้หน่ะ
มันมีโอกาสได้เยอะกว่าการเล่นหวยอีกนะครับคุณ
เห็นวิธีรึยังครับว่าควรทำยังไงกับชีวิตการเก็บเงินหลังสงกรานต์
โอเค บางคนอาจไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนหุ้นพวกนี้เลย ดังนั้นก็ลองไปหาดูบ้างนะ
ผมก็ไม่เก่งครับ
แค่พอรู้ว่าคนที่เค้าลุยกันจริงๆพอจะมีแนวโน้มการคิดไปแบบไหน รู้พอเอาไว้เวลาเข้าสังคมไรงี้
แต่ถ้าคุณไม่อยากลองเก็บเงินด้วยการลองลงทุนกับหุ้นนะ (แบบอารมณ์มันไม่ใช่แนวหว่ะ)
ก็ลองสร้างรายรับจากช่องทางอื่นเพิ่มครับ
อย่างที่ผมบอกไปหลายๆโพสต์แหละ
เงินเก็บไว้เฉยๆมันเขย่งเองไม่ได้
ควรรู้จักเก็บให้ได้ หาให้เป็น บริหารให้ถูก
แล้วคุณจะได้คำว่าอิสระที่แท้จริง
1
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรยังไงกับเงินเก็บดีผมก็แนะนำให้ไปลองไล่อ่านโพสต์ก่อนๆของผมดูครับ
คุณได้ไอเดียแน่ แหะๆ😆
ยังไงๆก็ขอให้มีความสุขกับวันสงกรานต์นะครับผม
ขอตัวไปไล่ทาแป้งสาวก่อนแล้ว บ๊ายบาย
I'm sam ครับ
โฆษณา