14 เม.ย. 2019 เวลา 13:50 • การศึกษา
เรื่องแปลกสถานที่แห้งแล้ง "แอนตาร์กติกา"
ทวีป แอนตาร์กติกา ที่ขั้วโลกใต้
พื้นที่บางส่วนของทวีปนี้ ไม่มีฝนตกมาประมาณ 2 ล้านปีแล้ว พื้นที่บางส่วนของที่นี่ไม่มีหิมะ ปราศจากน้ำแข็งและไม่มีฝนตกมาเลย เรียกว่า หุบเขาแห้ง( Dry Valley )เรียกได้ว่าแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่า 250 % เลยทีเดียว
1
ในโลกของเรามีสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สุดต่างๆ ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ แล้วทราบกันหรือไม่ว่า สถานที่แห่งใดแห้งแล้งที่สุดในโลก ซึ่งสถานที่แห่งนั้นคือ "ทวีปแอนตาร์กติกา" ที่บริเวณขั้วโลกใต้ ซึ่งพื้นที่บางส่วนของทวีปแห่งนี้ไม่เคยมีฝนตกมาเป็นเวลา 2 ล้านปีแล้ว
1
ในทางเทคนิคแล้ว คำจำกัดความของทะเลทราย คือ สถานที่ที่ได้รับน้ำฝนในปริมาณไม่ถึง 10 นิ้วต่อปี
ทะเลทรายซาฮาร่าเป็นสถานที่ที่ได้รับปริมาณน้ำฝนไม่ถึง 1 นิ้ว ในแต่ละปี ซึ่งปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยของทวีปแอนตาร์กติกาก็ไม่ต่างออกไปสักเท่าไหร่ แต่ก็มีพื้นที่ 2 เปอร์เซ็นต์ ของทวีปนี้ที่ปราศจากน้ำแข็ง และหิมะ รวมทั้งไม่มีฝนตกลงมาเลย พื้นที่บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า "หุบเขาแห้ง" (Dry Valley)
Dry Valley หรือหุบเขาแห่งแล้งแห่งนี้ เป็นทะเลทรายแห้งแล้ง มีขนาดพื้นที่กว่า 4800 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเอนตาร์กติกา แถบขั้วโลกใต้ โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งมากๆ ไม่มีความชื้น และเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ไม่หิมะ ไม่มีน้ำแข็งปกคลุม ชั้นของหินปกคลุมไปด้วยก้อนกรวด ที่เต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็กซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง ทำให้น้ำตกที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้นมีสีเหมือนเลือด จนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดทั้งสิ้นอยู่ในบริเวณนี้ แต่กระนั้นทัศนียภาพในสถานที่แห่งนี้ ช่างเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ เพราะเสมือนว่าอยู่ดาวอังคาร ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามศึกษาเปรียบเทียบบริเวณนี้ ว่าหากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ ก็แสดงว่าดาวอังคารน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน (โดยส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นเจอก็มีเพียงแบคทีเรียบางชนิด) เท่านั้น
สถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกอันดับรองลงมาคือ "ทะเลทรายอะตากาม่า" ในประเทศชิลี ซึ่งในบางพื้นที่ไม่มีฝนตกมานานกว่า 400 ปีแล้ว และปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีก็น้อยกว่า 0.004 นิ้ว ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับทะเลทรายทั้งหมดแล้ว มันจึงครองตำแหน่งทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลกไปโดยปริยาย เรียกได้ว่าแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่ามากถึง 250 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากแอนตาร์กติกาจะเป็นสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกแล้ว มันยังเป็นสถานที่ที่มีน้ำมากที่สุด และมีลมกระโชกรุนแรงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยคุณจะพบน้ำจืด 70 เปอร์เซ็นต์ ของโลกได้ที่นี่ในรูปของน้ำแข็ง และความเร็วลมที่นี่ก็รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกกันมาเลยทีเดียว
ลักษณะพิเศษของหุบเขาแห้งของแอนตาร์กติกาเกิดขึ้นจากสายลมพัดลงเขา (katabatic wind) ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่ออากาศที่หนาวเหน็บ และหนาแน่นถูกพัดลงมาจากภูเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วง ความเร็วลมดังกล่าวอาจรุนแรงได้ถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ความชื้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของน้ำ น้ำแข็ง และหิมะ ระเหยไปจนหมด
โฆษณา