15 เม.ย. 2019 เวลา 10:31 • การศึกษา
หมู่เกาะแฟโร ของเดนมาร์ก เกิดภาวะขาดแคลนประชากรหญิงอย่างหนัก และสาวไทยเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายที่นี่!!
เรียกได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสดีสำหรับสาวแถบเอเชียเลยก็ว่าได้ ที่มีความประสงค์อยากจะย้ายถิ่นฐานลองไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาบนเกาะแฟโร อันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเดนมาร์ก เพราะล่าสุดทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า ปัจจุบันหมู่เกาะแฟโรต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สมดุลกันระหว่างประชากรชายที่มีจำนวนมากกว่าประชากรหญิงหลายเท่าตัว
โดยเมื่อช่วงหลายปีก่อนหน้านี้หมู่เกาะแฟโร ก็ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนประชากรอันมากแล้ว เนื่องมาจากการกระจายตัวของคนรุ่นใหม่ ที่มักจะเข้าไปแสวงหาชีวิตและการศึกษาในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะผู้หญิงมักจะย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่ต่างประเทศ ทำให้ประชากรเกิดความไม่สมดุลกันระหว่างเพศ มีสัดส่วนจำนวนผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชายถึง 2,000 คน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ชายบนเกาะแฟโรมีภาวะขาดแคลนประชากรหญิง ทำให้บรรดาผู้ชายท้องถิ่นต้องมองหาภรรยาจากแดนไกลอย่างแถบเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เป็นเป้าหมายของหนุ่มชาวเกาะแฟโรเลยทีเดียว
จากรายงานระบุว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงจากประเทศไทยและฟิลิปปินส์อาศัยอยู่ที่เกาะแฟโรมากถึง 300 คน ซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนไม่มากมาย แต่หากเทียบกับประชากรบนเกาะที่มีทั้งหมดประมาณ 50,000 คน ถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
2
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ อาจจะรู้สึกตกใจกับวัฒนธรรมที่แตกต่างของชาวแฟโร โดยที่เกาะแฟโรจะมีภาษาของตัวเอง มีวัฒนธรรมเรื่องอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เนื้อแกะหมัก ปลาค็อดตากแห้ง รวมไปถึงการรับประทานเนื้อวาฬ หรือไขมันวาฬ และแมวน้ำเป็นบางโอกาส
อีกทั้งจะไม่มีการใส่สมุนไพรและเครื่องเทศในอาหารแบบชาวเอเชียเลย รวมไปถึงเรื่องสภาพอากาศ ความเย็นก็เป็นสิ่งท้าทายสำหรับหลายคน โดยอุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียส
1
อัธยา สเลทาลิด หนึ่งในหญิงไทยที่ได้มีโอกาสพบรักกับยาน สามีชาวแฟโร และได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่น ปัจจุบันเธอและสามีอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ริมตลิ่งฟยอร์ด ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และทำงานอยู่ในร้านอาหารที่กรุงทอร์สเฮาน์ เมืองหลวงของแฟโร โดยเธอได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ให้ฟังว่า เธอได้พบกับสามีในขณะที่เขากับเพื่อนมาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งในตอนนั้น สามีของเธอทราบดีว่าการพาภรรยาย้ายไปอยู่ที่บ้านของเขาในแดนไกลที่แตกต่างทั้งวัฒนธรรม สภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศเป็นเรื่องยากลำบากและท้าทายมาก ๆ แต่เขามั่นใจว่า เธอจะสามารถรับมือได้
อัธยา เล่าว่า ตอนที่ย้ายมาอยู่ใหม่ เธออยู่บ้านคนเดียวทั้งวันไม่ได้พูดกับใครเลย เนื่องจากชาวบ้านคนอื่นส่วนมากพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ อีกทั้งยาค็อบ ลูกชาย ก็ไม่มีเพื่อนเล่น จนผ่านไปประมาณ 2-3 ปี ลูกชายเข้าโรงเรียนอนุบาล เธอก็พอมีเวลาไปทำงานเกี่ยวกับธุรกิจจัดเลี้ยงอาหาร ทำให้เธอได้มีโอกาสพบกับหญิงไทยคนอื่น ๆ
ตอนนี้ฉันมีความสุขกับที่นี่ มันไม่ใช่แค่การอยู่เพื่อมีชีวิตรอด แต่เป็นการอยู่สร้างชีวิตครอบครัว ยาค็อบ ได้เล่นริมทะเล ห้อมล้อมไปด้วยเนินเขา ที่เต็มไปด้วยฝูงแกะท่ามกลางธรรมชาติ ที่นี่ไม่มีมลภาวะ ไม่มีอาชญากรรม ทุกวันนี้มีเด็กจำนวนไม่มากนัก ที่จะได้มีโอกาสอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ที่นี่อาจจะเป็นสวรรค์แห่งสุดท้ายบนโลกก็เป็นได้ อัธยา กล่าว
2
By juicy frog
โฆษณา