ถ้ำลาวาที่ยาวที่สุดในโลก ที่ เกาหลีใต้
ที่เกาหลีใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่เหมือนใครหรือที่ใดในโลกอยู่แห่งหนึ่ง เรียกว่า"เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา"
เครดิตภาพ @tanni.deb
สถานที่แห่งนี้ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก Unesco ภายใต้ชื่อ “เกาะเชจูและถ้ำลาวา” ในการประชุมมรดกโลกครั้งที่ 31 เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์
เครดิตภาพ @llim22
เกาะเชจู ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเกาะภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก และห่างจากชายฝั่งทางใต้ของเกาหลี 130 กิโลเมตร ตัวเกาะมีพื้นที่ 1,846 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีภูเขาที่สูงที่สุด (1,950 เมตร) และเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดของเกาหลีใต้
เครดิตภาพ @evkeme
จังหวัดเชจู หรือก็คือเกาะเชจูนั่นแหละ
มีชื่อทางการว่า "จังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู" เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดในเกาหลีใต้ โดยจัดคั้งเป็นจังหวัดเมื่อปี พ.ศ. 2489
เกาะเชจูเป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของ "ภูเขาไฟฮันลา" ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดเมื่อราว 2 ล้านปีก่อน
เครดิตภาพ @demilmj
ผลการระเบิดในครั้งนั้น ได้สร้างเกาะขึ้นมาใหม่ และทำให้พื้นที่บนเกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุจำนวนมาก ก่อให้เกิดความสมบูรณ์ทางนิเวศน์วิทยาบนเกาะ รวมถึงพื้นที่รอบๆเกาะ มีพืชพรรณหลากหลาย รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำ
ในปัจจุบันก็ยังมีปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วปรากฎอยู่หลายแห่ง
เครดิตภาพ @missysyeann
มาเข้าเรื่องกันเลยนะ
อุโมงค์ลาวา” (Manjanggul Lava Tube)
“อุโมงค์ลาวา” (Manjanggul Lava Tube) ได้รับความสำคัญคู่กับเกาะภูเขาไฟเชจู ถือว่าเป็นของคู่กัน
อุโมงค์แห่งนี้ผ่านของเหล่าลาวาและแม็กมาจากภูเขาไฟ ได้ก่อให้เกิดเป็นช่องทางอุโมงค์ทรงกลวงขึ้น กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาทางธรณีวิทยาที่สำคัญแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้และของโลก
ส่วนจะไปท่องเที่ยวแค่เพียงเพื่อชมความสวยงามหรือความมหัศจรรย์ของอุโมงค์แห่นี้ ก็เอาที่สบายใจ
เครดิตภาพ @tws76725
ถ้ำลาวามานจังกุล หรือ Manjanggul Cave ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เป็นถ้ำที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟบนเกาะเชจูแห่งนี้มีความยาวของอุโมงค์ถึง 8,928 เมตร จัดเป็นอุโมงค์ลาวาที่ยาวที่สุดในโลก แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้กันพื้นที่ส่วนลึกไว้เพื่อการศึกษาค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คงเหลือพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียง 1000 เมตรเท่านั้น
ถ้ำลาวามานจังกุลเป็นถ้ำที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์และยุคน้ำแข็ง จึงถือเป็นแหล่งศึกษาธรณีวิทยาที่สำคัญ
และเป็นแหล่งศึกษาชีวิตสัตว์กลางคืน เช่น ค้างค้าวปีกงอ (Miniopterus schreibersii) ซึ่งมีอยู่ราว 30,000 ตัว มากที่สุดในเกาหลีใต้ สิ่งมีชีวิตในถ้ำมีอยู่ประมาณ 38 ชนิด ซึ่งพบมากที่สุดคือแมงมุมถ้ำเชจู ( Nesticella quelpartensis )
ภายในถ้ำเย็นสบาย มีหินงอก หินย้อย อยู่ทั่วบริเวณ รวมถึงมีหินรูปร่างแปลกตา
เครดิตภาพ @tiu_seagypsy
📌 อุโมงค์ลาวาแห่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
อุโมงค์แห่งนี้จัดว่าเป็นระบบท่อทางธรณีวิทยาจากธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์
ต้นกำเนิดเกิดจากการไหลของลาวาบะซอลต์ เมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟ ในช่วงระยะเวลาราว 300-200,000 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งภูเขาไฟมีความสูงประมาณ 456 เมตร โดยลาวาจะไหลลงสู่ชายฝั่งห่างออกไปประมาณ 13 กิโลเมตร โดนขณะที่ลาวาไหลไปก็ได้ทำการกัดกร่อนและสร้างอุโมงค์ท่อดังกล่าวขึ้น
เป็นช่องทางซับซ้อนหลายช่องทาง มีลักษณะคล้ายกับอุโมงค์ท่อระบายน้ำ กลายเป็นระบบถ้ำตามธรรมชาติ ยาว 8,928 เมตร มีความสูงประมาณ 30 เมตร และกว้าง 23 เมตร
แผนที่ภายในถ้ำ @darrenyuanzhiying
ภายในอุโมงค์ยังมีการก่อตัวของหินรูปแบบหลากหลายต่างๆทั้งหินงอกหินย้อย ที่เกิดจากการหลอมละลายของลาวา เมื่อลาวาเย็นตัวลงก็เกิดเป็นนรูปทรงแปลกๆ ดึดดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวไปชมความงดงามและศึกษาหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆกัน
เครดิตภาพ @nessaaa5
ลักษณะอากาศ
เกาะเชจูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ทุกฤดูกาล มีบรรยากาศแบบประเทศในเขตร้อน โดยมีสี่ฤดูและอากาศอบอุ่นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปีและในฤดูร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยคือ 22-26 องศาเซลเซียส
เครดิต @kstanno
บนเกาะ มีเซเว่นด้วยนะเธอ เครดิตภาพ@acemitok
อ้างอิง
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
18.04.2019
- 67
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
