ข้อมูลที่ระบบได้รับไปจากเรา ทาง Google ไม่ได้ดึงข้อมูลส่วนตัว แต่จะเป็นการแชร์ในส่วนของตำแหน่ง Location
เพื่อให้ข้อมูลแม่นยำมากขึ้น และเป็นแบบ Real time และด้วย ณ ปัจจุบัน คนใช้ Smart phone เยอะขึ้นจะทำให้ความแม่นยำ
ของ Google map ดีขึ้น ครอบคลุมเส้นทางเยอะขึ้นเรื่อยๆ
2
2.ข้อมูลจากผู้ใช้ WAZE
WAZE แอปพลิเคชันแผนที่นำทางรูปแบบเรียลไทม์โดยใช้ข้อมูล crowdsource ในการวิเคราะห์การจราจร ให้ผู้ขับขี่พาหนะสามารถเข้าถึงข้อมูลการจราจรแบบทันต่อเหตุการณ์ เพื่อช่วยค้นหาเส้นทางที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางในเมือง และได้ถูกทาง Google ซื้อไปแล้วเรียบร้อย
หลังจากที่ Google เข้าซื้อแอพนี้ ก็มีการรวมเอาข้อมูลจากผู้ใช้ใน Waze มาแสดงขึ้นบน Google Maps ด้วย ทำให้ผู้ใช้ทั้งสองแอพสามารถรู้ถึงเส้นทางที่กำลังจะขับไปว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างได้ทันที
และอีกตัวช่วยนึง ที่เพิ่มความแม่นยำให้กับถนนในเมือง การหาตำแหน่งด้วยวิธี Observed Time Difference Of Arrival (OTDOA) โดยผ่านระบบผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ โดยคำนวนจากมือถือ ที่จับสัญญาณกับเสาของโทรศัพท์แต่ละต้น เพื่อคำนวนหาตำแห่งของโทรศัพท์นั้นเอง ซึ่งจะทราบถึงการเคลื่อนที่ ความเร็ว ทิศทาง เป็นต้น
ด้วยการรวมการใช้งานจาก Location Service จากผู้ใช้งานในจุดนั้น ๆ นำมาคำนวนความหนาแน่นบนเส้นทางการจราจรในเส้นทางต่างๆ ค่อนข้างที่จะแม่นยำ ได้วิเคราะห์จากตำแหน่งจากผู้ที่อยู่ในจุดนั้นจริงๆ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็เป็นคำตอบที่หลายคนสงสัยว่า Google map ทำงานอย่างไร รู้การจราจร แบบ Real-time ได้ไง