20 เม.ย. 2019 เวลา 06:16 • สุขภาพ
สินค้าบริโภคที่ราคาเกินจริงใน Japan
ของหลายๆอย่างที่นี่ต้องบอกว่าแพงเป็นธรรมดาอยู่แล้วนะถ้าเทียบเป็นเงินบาท
แต่เห้ย! ถ้ามองให้ลึกกว่านั้นเนี่ย จะเห็นว่า นอกจากจะไม่มีพริกสดขายแล้ว มันมีบางอย่างที่เราเห็นกันที่ไทยเป็นของตาย แต่มาที่นี่กลับมาค่ามากกว่าทอง! (ก็เวอร์ไป 5555)
ลิสท์วันนี้ก็มีตั้งแต่อาหารต่างประเทศไปจนถึงผักสด แล้วมันจะเป็นอะไรกันบ้าง และแพงแค่ไหน วันนี้ผมจะพาไปดูกัน
1
มื้อนี้คนละ 1700 เยน...
1. Dairy product หรือผลิตภัณฑ์จากนม
เนื่องจากภูมิศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะมีขนาดเล็กเป็นทุนอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่หุบเขาซะอีก ซึ่งทำให้พื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์นั้นค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์จากนมมาจากต่างประเทศ
ราคาจึงแพงแบบจะหยิบทีก็ต้องสะดุ้ง ตัวอย่างเช่น เนยแท้ขนาด 200g ราคาเกือบ 500 เยน (150 บาท) ซึ่งถ้าชาวตะวันตกมาอาศัยอยู่ที่นี่คงจะต้องลำบากไม่น้อย 5555
หรือของโปรดของใครหลายๆคนอย่าง “ชีสสส” ก็พบกับจุดจบที่น่าเศร้าเช่นกัน อย่างชีสพาร์เมชานขนาด 100g ราคา 1000 เยน แม่เจ้า! นี่ขนาดเป็นร้านที่ขายของนำเข้าโดยเฉพาะ ราคายังขนาดนี้ ลาก่อนคาร์โบนาร่าเพื่อนรัก T T
Block Cheese ประเภทต่างๆ
2. ผักและผลไม้
เหตุผลเดียวกับข้อก่อนหน้า เนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตรน้อย จึงต้องนำเข้าผักและผลไม้ ซึ่งก็ทำให้ราคาของสินค้าบางอย่างนั้นไม่สมเหตุสมผลสำหรับคนไทยอย่างผม 5555
อยู่ไทยเราเจอมะนาวลูกละ 5 บาท 10 บาท แต่พอมาเจอที่นี่ ขายกันลูกละ… ย้ำชัดๆ ลูกละ 200 เยน (60 บาท) ใครมันจะไปซื้อลงวะ! แต่ยังดี เค้าคัดลูกใหญ่หน่อยมาให้ ไม่งั้นคงต้องฟ้องกรมคุ้มครองผู้บริโภค
อีกหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทยก็คือ “ผักชี” ที่เราเห็นในไทยกันเป็นของตาย ขนาดว่าซื้อมาปาเล่นยังไม่เสียดาย
ก็ได้รับความนิยมที่นี่มากเช่นกัน จนคนญี่ปุ่นเอามากินเปล่าๆก็มี ถ้าไปตามร้านอาหารไทย จะมีผักชีเป็นถ้วยให้สั่งมากินเปล่าๆ ซึ่งผมขอไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ 55555 ราคาเจ้าผักชีก็เบาะๆ ตามซุปเปอร์ฯ แค่ต้นละ 200 เยนเอง!
ผักชี (Coriander) 200 เยนต่อถุง
ส่วนผลไม้ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกในประเทศ หรือนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องได้รับการคัดคุณภาพมาอย่างดี ตามห้างร้านต่างๆ จะเห็นแต่ผลไม้หน้าตาสวยงามและรสชาติดีเป็นพิเศษ ซึ่ง… ราคาก็นับว่าคบไม่ได้ เพราะผมคงกินเมล่อนลูกละพันกว่าเยนไม่ไหว 55555 ที่เห็นถูกสุดก็คือกล้วยหวีละ 200 เยนก็ถือว่ารับได้เมื่อเทียบกับของอื่นๆ ส่วนแอปเปิ้ลธรรมดา ต้องเน้นย้ำว่าเกรดธรรมดา! จะอยู่ที่ลูกละ 100 - 150 เยน (30 - 50 บาท)
ทำไมถึงต้องเน้นว่าเกรดธรรมดา เพราะผลไม้ที่นี่มีหลายเกรดมากตั้งแต่เมล่อนหลักพันไปจนถึงหมื่นๆ เยน เช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่มาผมก็ยังไม่เคยกล้าไปซื้อผลไม้เกรดแพงซักที (ต้องรวยจริงครับ)
เมล่อนลูกละ 1000 เยน
3. อาหารประเภทเส้น
ภาพก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 บาท พิเศษ 50 ที่ประเทศไทย ซึ่งติดหัวผมมาตั้งแต่เด็กถูกทำลายลงไปด้วยราคาของเมนู
ราเมงและผองเพื่อนที่ญี่ปุ่นนี่ โดยร้านถูกๆก็จะเริ่มที่ 500 เยน (หรือมากกว่า) ถ้าเป็นร้านระดับกลางๆ ชามนึงก็ราคาเหยียบ 1000 เยน (300 บาท) ให้มาแต่ซุปกับเส้น เนื้อกูหล่ะอยู่ไหน!
อย่าง Ichiran ramen หรือที่เรารู้จักกันในชื่อราเมงข้อสอบ ราคาเริ่มที่ 900 เยน ให้ซุปกับเส้น แล้วก็หมู 1 ชิ้น! 55555 ถ้าอยากได้เนื้อเพิ่มก็ต้องสั่งเพิ่มเอาเอง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่บาลานซ์มากๆ ทั้งคุณค่าทางโภชนาการและราคา
จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเอาอะไรมาแพง ถ้าลองเทียบกับอาหารประเภทอื่นแล้ว เส้นก็สำเร็จรูป เนื้อสัตว์ก็น้อยกว่า แต่ยอมให้อยู่อย่างนึง อร่อยมาก! 55555
Ichiran Ramen, Kyoto, Kawaramachi
4. อาหารไทย
จริงๆไม่ใช่แค่อาหารไทย แต่อาหารอินเดียของโปรดผมก็เช่นกัน คงเป็นอารมณ์คล้ายๆบ้านเรา ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือเกาหลีมักจะต้องราคาแพงเป็นพิเศษ เหมือนมีพลังลึกลับมาดึงราคาขึ้น แต่จากความแรร์และราคาวัตถุดิบไทยที่นี่ก็พอเข้าใจได้ว่าต้นทุนมันคงสูงกว่าปกติจริงๆ
อย่างส้มตำจานเล็กๆ ก็จะราคาประมาณ 500 เยนเป็นเรื่องปกติ (150 บาท) แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับ เพราะค่าครองชีพมันสูงกว่าที่ไทย ราคาเลยออกมาเป็นแบบนี้
จริงๆ คือแค่ราคาสูงกว่าร้านอาหารทั่วไปเล็กน้อย เมื่อเทียบกันด้วยปริมาณ
กับข้าวส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่จานละ 500 - 1000 เยน ซึ่งถ้ากินเอาอิ่มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรืออินเดีย ก็จะตกมื้อละ 1500 - 2000 เยนได้ (300 - 400 บาท)
2
ผมเคยถามเพื่อนคนญี่ปุ่นอยู่ว่า “เห้ย อาหารมื้อนึงเนี่ย เกินเท่าไหร่ถึงเรียกว่าแพงวะ” ก็ได้คำคอบมาว่า 800 - 1000 เยน
แต่ผมและสหายอินเดียก็เห็นตรงกันว่า ให้จ่ายเพื่ออาหารรสชาติแบบบ้านเกิดเนี่ย ให้จ่ายเทา่ไหร่ก็ยอม! (แต่นานๆทีนะ 5555)
อาหารไทยที่รัก มื้อนี้ 2500 เยน (ข้าวสวยจานละ 300 เยน)
และนี่ก็เป็นราคาสินค้าบริโภคในญี่ปุ่นที่ก็ต้องเรียกว่า “ปกติ” สำหรับชาวญี่ปุ่น แต่สำหรับคนไทยอย่างผมและสหายอินเดียนั้น… “แพง” และ “โหดร้าย” คือนิยามของค่าครองชีพประเทศนี้
สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานสามารถติดตามได้ทางเพจ facebook "อยู่ญี่ปุ่นกับคนอินเดีย" กันอีกทางนะครับ
#AdminKusatsu
โฆษณา