Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Read 10 minutes ⏱
•
ติดตาม
20 เม.ย. 2019 เวลา 09:47 • การศึกษา
ไม่เข้าใจ "เงินเฟ้อ" อย่าริอาจ...คิดการใหญ่
การออมไม่ได้ทำให้คนรวยขึ้น เก็บเงินไว้เยอะก็ไม่ใช่สิ่งบ่งบอกว่าเขามีความฉลาดทางด้านการเงิน แต่เป็น "สินทรัพย์"ต่างหากที่ทำให้เกิดความมั่งคั่ง คือรวยแบบจริงๆนั่นเอง ...การออมมันไม่ดีตรงไหน?..ใครๆก็ออมกัน...อย่ามาตลกน่าพ่อแม่ฉันสอนให้ฝากเงินธนาคาร....สินทรัพย์มันอะไร!?.
ถ้าจะให้เล่าประวัติศาตร์ ย้อนไปเรื่อง Gold Standard พรุ่งนี้ก็ไม่จบแน่ๆ เอาแบบรวบลัด ได้เสียกันไปเลย....
อยากได้เงินต้องพูดภาษาเงิน... เรามีความเข้าใจเรื่อง money and currency แค่ไหน?
money อธิบายง่ายๆคือค่าจริงๆของมันซึ่ง สมัยก่อนแต่ละประเทศอ้างอิงด้วยทองคำในคลัง แต่หากเป็นตัวบุคคล money จริงก็เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดรายได้ และความมั่งคั่ง หรือ "สินทรัพย์" นั่นเอง
สินทรัพย์คืออะไร?
ตอบแบบง่ายๆคือ คือ 1. สิ่งที่ทุกคนต้องการ 2. มีจำนวนจำกัด 3.มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา 4.เครื่องมือหากินเชิง logistic เช่นมีรถธรรมดาเอาไว้ขับไปทำงานไปเที่ยวแบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นสินทรัพย์ แต่ถ้านำรถมาปล่อยให้เช่าทำเป็นแท้กซี่ สร้างรายได้จากมัน อันนี้นับเป็นสินทรัพย์เช่นกัน หรือมี iphone 6 สักเครื่องใช้แชตคุยกับกิ๊ก ใช้ตามอินสตาร์แกรมดารา อันนี้ไม่เรียกเป็นสินทรัพย์ แต่หากใช้เป็นเครื่องมือซื้อขายส่งข้อมูลสินค้า พรีเซ้นท์งาน ขายของ ebay ก็นับเป็นสินทรัพย์ได้เช่นกัน
ส่วน Currency คือเงินตรา ก็แบงค์และเหรีญยที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้แหละครับ ดูจริงๆมันคืออะไร? กระดาษและโลหะนั่นเอง แต่เราสมมติค่ามันเพื่อนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยน พกพา ได้ ใช้แทน Money นั่นเอง คงไม่มีใครแบกคอนโดไปแลกทองคำหนักหลายร้อยกิโล หรือเดินถือถุงเพชรเดินไปใช้จ่ายซื้อผักซื้อหมูในตลาด ดังนั้น Currency จึงถูกกำหนดให้ใช้แลกเปลี่ยนแทน Money ด้วยเหตุผลฉะนี้นี่เอง
แล้วทำไมออมเงินไม่ดี?
ออมเงิน "อย่างเดียว" ต่างหากที่ไม่ดี เพราะคนเหล่านี้ไม่รู้ถึงหายนะที่เรียกว่า "เงินเฟ้อ" และเข้าใจว่าเงินเฟ้อคือของแพงขึ้นอย่างเดียว แต่ไม่ได้เอะใจเลยว่าของน่ะไม่ได้แพงขึ้นหรอกแต่ค่าของเงินต่างหากที่ลดลง ซึ่งทุกๆปี(ตั้งแต่ยกเลิก Gold Standard 1971 เงินตรา จะมีค่าลดลงตามอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 3-4% ต่อปี เพราะฉะนัน้หากคุณเก็บเงินไว้100บาท เป็นไปได้ว่าเงิน 100 บาทนี้ ในปีหน้าจะค่าในความรู้สึกแค่ 97 บาท เหมือนกับเมื่อก่อนเรามีเอาเงินไปโรงเรียน 20 บาท ก็พอกินพอใช้แล้ว แต่ปัจจุบัน บอกตามตรง 100 บาท ให้ความรู้สึกเหมือน 20 บาทสมัยก่อน ก็เพราะ เงินเฟ้อนี่แหละครับ
ฝากประจำ?ดอกเบี้ยสูงนะ โบนัสที่ทำงานก็ขึ้นทุกปี?
ถูกครับสูงครับ แต่เมื่อหักลบกับอัตราเงินเฟ้อที่ผันผวนทุกปี บอกได้เลย ว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เอาชนะเงินเฟ้อไม่ได้แน่นอน และโบนัสของคุณแน่ใจหรือว่าพอใกับเงินเฟ้อน่ะครับ ถ้ามันพอจริงๆก็ไม่ต้องขึ้นทุกปีหรอกครับ แต่เขาขึ้นให้ พนง. ตามอัตรเงินเฟ้อต่างหาก คุณจะได้มีเงินไว้จ่ายค่าอาหารค่ารถมาทำงานให้เขาไง
เงินเฟ้อมันเกิดจากอะไร?
จริงๆมันเกิดจากอเมริกานั่นแหละ!! เป็นความลับต่อไปอยากรู้หลังไมค์ครับแหม่...ใครรู้แล้วก็บอกเพื่อนด้วยนะครับ
มาว่ากันที่ระบบของธนาคารในการนำเงินไปหมุนเวียนในระบบนะครับ
หมุนเงินรอบแรก
สมมติว่าเราฝากเงินรอบแรก 1,000 บาท เมื่อธนาคารได้รับเงินมาแล้วก็จะกันสำรองไว้ 10% (คือ 100 บาท) และปล่อยกู้ 90% (คือ 900 บาท) ทำให้มีเงินหมุนในระบบทั้งหมด 1,900 บาท(คือ 1,000 + 900) จากเงินที่ฝาก 1,000 บาท ธนาคารสามารถสร้างเงินขึ้นมา 900 บาท ทั้งที่มีเงินสำรอง 100 บาท
หมุนเงินรอบสอง
นำเงิน 900 บาท เข้ามาในระบบฝากเข้าธนาคาร ทำให้ธนาคารต้องกันสำรองไว้ 10% คือ 90 บาท) และปล่อยกู้ 90%(คือ 810 บาท) ทำให้มีเงินหมุนในระบบทั้งหมด 2,710 บาท(คือ 1,900 + 810) ทั้งที่ธนาคารมีเงินสำรอง 190 บาท (คือ 100+90)
หมุนเงินรอบสาม
นำเงิน 810 บาท เข้ามาในระบบฝากเข้าธนาคาร ทำให้ธนาคารต้องกันสำรองไว้ 10% คือ 81 บาท) และปล่อยกู้ 90%(คือ 729 บาท) ทำให้มีเงินหมุนในระบบทั้งหมด 3,439 บาท(คือ 1,900 + 810+729) ทั้งที่ธนาคารมีเงินสำรอง 271 บาท (คือ 100+90+81)
สรุปว่า จากการที่นำเงินก้อนเดิมไปหมุนในระบบครั้งที่ 3 เงินฝาก 1,000 บาท ธนาคารสามารถสร้างเงินขึ้นได้ 3 เท่าตัวคือ 3,439 บาท ทั้งที่มีทุนสำรอง 271 บาท
ธนาคารนั้นสร้างเงินเข้าระบบผ่าน Credit System 3,439 บาทจากเงินต้น 1,000 บาท เพื่อสร้าง Money Supply ทำให้เิกิดเงินเฟ้อและค่าเงินอ่อนค่า ซึ่งระบบธนาคารจะนำเงินคนอื่่นมาเก็บไว้แล้วนำที่เหลือมาปล่อยกู้ สร้างเิงินเข้าสู่ระบบ จากตัวอย่างนี้เป็นเฉพาะผ่า่นระบบสินเชื่อเท่านั้น ยังไม่รวมสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่านี้
ดังนั้นค่าของเงินจะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นหากคิดจากออมเงินหรือวางแผนเก็บเงินไว้ในอนาคต เราต้องคิดเผื่ออัตราเงินเฟ้อเอาไว้ด้วย นะครับ อย่าลืมว่าเงิน 1 ล้านวันนี้ อีก20 ปีไม่ใช่ 1 ล้านนะครับ
ก่อนจากกันก็ขอทิ้งท้ายง่ายๆ ไว้เป็นแนวคิดนะครับ "ถ้าจะหนีเงินเฟ้อมันต้องเหยียบคลื่นครับ เปลี่ยนเงินเป็นสินทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเลือกลงทุนอย่างชาญฉลาด สิ่งนั้นยิ่งเวลาผ่านไป เงินเฟ้อจะเพิ่มเท่าไหร่ มูลค่าของมันก็จะเพิ่มตาม นี่คือสาเหตุที่เศรษฐีเลือกเก็บสินทรัพย์แทนที่จะเก็บเงินตรายังไงล่ะครับ
33 บันทึก
65
5
47
33
65
5
47
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย