Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อยู่ญี่ปุ่นกับคนอินเดีย
•
ติดตาม
24 เม.ย. 2019 เวลา 12:59 • สุขภาพ
ว่าด้วยเรื่องแกงกะหรี่
Part 2: Japanese Curry vs Indian Curry
ในตอนที่แล้วผมได้เล่าความเป็นมาของ Japanese Curry (คาเร) ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก Indian Curry ผ่านทางคนอังกฤษ
1
แต่ว่าในปัจจุบันแกงกะหรี่ของ 2 ชาตินั้น เรียกได้ว่าต่างกันอย่างสุดขั้ว ชาตินึงหลงรัก “เครื่องเทศ” และ “ความเผ็ดร้อน” อย่างหัวปักหัวปำ
แล้วอีกชาติที่ไม่กินเผ็ดเลยนี่ มันกลับมี “คาเร ไรสึ” (แกงกะหรี่ราดข้าว) ให้หากินได้ง่ายๆ ทั่ว Japan ได้อย่างไรกัน? เค้าปรับอะไรในสูตร หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น? ไปดูกันครับ
Vegan Japanese Curry
Indian Curry
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประเทศอินเดียนั้นคือเจ้าพ่อแห่งวงการ “Spices” เพราะฉะนั้นจุดเด่นของแกงกะหรี่อินเดียจึงมาจากการ mix & match เครื่องเทศนานาชนิด (เกินสิบ!) จึงรับรองได้ว่าความซับซ้อนนุ่มลึกของรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวของเครื่องเทศเนี่ย ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ง่ายๆเลยทีเดียว
แต่ด้วยการใช้ Spices หลากชนิดขนาดนี้ ก็สร้างกลิ่นที่ทำให้ใครหลายคนไม่ชอบได้เช่นกัน แต่ว่าผมค่อนข้างชินแล้ว.. เรียกได้ว่าหลงรักความหอมของเครื่องเทศอินเดียไปแล้วก็ว่าได้ เพราะโดนสหายอินเดียพาไปกินบ่อยเหลือเกิน ผมพูดได้แค่ว่า ถ้าได้ลองแล้วจะติดใจครับ 55555 อาจเปรียบได้กับทุเรียนที่ผมเคยไม่ชอบกลิ่น แต่พอได้กินเท่านั้นแหล่ะ! กลิ่นทุเรียนอันร้ายแรงก็กลายเป็นหอมได้ในบัดดล
เนื่องจากแกงอินเดียใช้เครื่องเทศเยอะมากๆ เค้าจึงคิดค้น Spice blend ขึ้นมา จะได้ไม่ต้องมานั่งคั่วนั่งผสมเครื่องเทศใหม่ทุกรอบ (ลักษณะเดียวกับพริกแกงไทย)
ซึ่งหนึ่งใน blend ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของอินเดียมีชื่อว่า “Garam Masala” ซึ่งมักประกอบด้วยเครื่องเทศประมาณสิบชนิด แล้วยังไม่พอ มันยังถูกใช้ร่วมกับ Coriander (ผงเมล็ดผักชี), Cumin (ผงยี่หร่า), Turmeric (ผงขมิ้น), Chili powder (ผงพริก) และอีกหลายชนิดตามเมนูที่ต่างไป
ผง Garam Masala
โดยตัว “เนื้อแกง” จะเริ่มจากผัดหัวหอมจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ที่ ตามด้วยมะเขือเทศและเครื่องเทศ แล้วเคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกัน ทางด้านเนื้อสัตว์มักจะใช้เนื้อไก่หรือแกะ (วัวคือหาไม่ได้ง่ายๆ 5555) ใส่ลงไปผัดด้วยกันหรือไม่ก็นำไปเข้าเตาอบก่อน แล้วปิดท้ายด้วย heavy cream หรือ yogurt เพื่อเพิ่มความมันละมุนให้กับแกง ทำให้โทนสีที่แดงก่ำจากมะเขือเทศนั้นจางลง
ปิดท้ายด้วยด้วยผักชีสดโรยหน้าเพื่อกลิ่นโดยเฉพาะ กินคู่กับแผ่นแป้งบางๆอบในเตาถ่านร้อนๆที่เรียกกันว่า “Naan (นาน)” (แต่ด้วยความที่ผักชีที่นี่แพง ทางร้านจึงลักไก่ใช้ต้นหอม เวรจริงๆ 55555)
แกงกะหรี่อินเดีย พร้อมโรตี(ซ้าย) และชีสนาน(ขวา)
Japanese Curry
1
ในทางกลับกัน คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้อยากกินอะไรออริจินอลแบบนั้น โดยเฉพาะถ้าพูดถึงระดับความเผ็ดเนี่ย แน่นอนว่าแกงกะหรี่อินเดียรสชาติร้อนแรงกว่าอยู่แล้วครับ เพราะว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่กินอาหารเผ็ด(เลย)
มีอยู่คราวนึง เพื่อนผมกินไก่ทอดพริกไทยเข้าไปสักพัก ก็ลุกไปหาน้ำเติมไม่หยุด ไอเราก็งง โห คงเผ็ดมากแน่เลย! สุดท้ายมันก็ยกให้ผมกิน เพราะอยากรู้ว่า “คนไทย” ที่ขึ้นชื่อเรื่องกินเผ็ดจะมีความเห็นอย่างไร พอผมคีบมากัดปุ๊ป! “เห้ย! อะไรของมึงเนี่ย แถวบ้านกูเรียกความเผ็ดติดลบเว่ย” wtf 555555
ในขณะที่แกงกะหรี่ญี่ปุ่นจะใช้ Curry powder ซึ่งเป็น Spice blend เหมือน Garam Masala แต่เอ๊ะ! ทำไมอินเดียไม่ใช้ Curry powder บ้างหล่ะง่ายดี? ความจริงคือ ผงกะหรี่นี่คนอังกฤษคิดต่างหาก 5555
ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญของอาหาร 2 จานในวันนี้ เนื่องจาก Curry powder จะมีส่วนผสมหลักเป็น Turmeric (ขมิ้น) ซึ่งมีจุดเด่นในการให้สีเหลืองทอง ชนิดที่ว่ายังติดอยู่ที่ผ้าเช็ดเท้าผม จนมาถึงวันนี้ก็ยังซักไม่ออก 5555 ทำให้สีของคาเรญี่ปุ่นจะออกโทนเหลืองๆหน่อย
Curry powder (cr: canva.com)
เพราะว่า Spice blend ที่ใช้ต่างกัน ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างกันด้วย แต่ทีเด็ดของคนญี่ปุ่นคือการใส่ “แป้ง” ลงไปในตัวคาเร ทำให้ได้ซอสที่ “ข้น” กว่าต้นตำรับ
โดยปกติเค้าจะเคี่ยวคาเรกับเนื้อสัตว์ (เนื้อวัว หมู ไก่) หัวหอม แอปเปิ้ล มันฝรั่ง และแครอท ซึ่งทำให้ได้คาเรที่เนื้อละมุนๆ พร้อมรสหวานจากธรรมชาติ และมักไม่มีการเพิ่มความเผ็ดด้วยพริกใดๆ เสิร์ฟราดบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ คู่กับ “ทงคัตสึ” หรือหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดซิกเนเจอร์ของคนญี่ปุ่น กินคู่กับหัวไชเท้าดองเพื่อตัดเลี่ยน
Vegan Japanese Curry
และเพื่อลดจำนวนส่วนผสมและขั้นตอนในการทำ เลยมีก้อนคาเรสำเร็จรูป (Curry Roux) ออกมาให้ได้ซื้อใช้กัน ซึ่งมีทุกอย่างที่เราต้องการในก้อนเดียว (แต่แถมผงชูรสด้วย 5555) เพียงแค่ผัดเนื้อสัตว์ ใส่ผัก แล้วตามด้วยก้อน Roux แล้วก็เคี่ยวสักพักเป็นก็อันเสร็จ
ก้อนคาเรสำเร็จรูป S&B cr: www.sbfoods-worldwide.com
สรุปง่ายๆ คาเรญี่ปุ่น เผ็ดร้อนน้อยกว่า ข้นกว่า แล้วก็ไม่ได้เน้นไปที่เครื่องเทศมากนัก อีกทั้งยังเปลี่ยนไปกินคาเรกับ “ข้าวญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่นี่ จึงทำให้ Curry กลายเป็นอีกหนึ่งอาหารคู่คนญี่ปุ่นไปแล้วก็ว่าได้
ส่วนกลิ่นเครื่องเทศอันเข้มข้น จะทำให้หลายคนเบ้ปากให้กับ Indian Curry ทันทีที่ได้กลิ่น แต่มันก็ทำให้แกงกะหรี่อินเดียเต็มไปด้วยรสชาติที่ลึกลับซับซ้อน มีความหอมเตะจมูก (สำหรับคนที่ชอบ 5555) ซ่อนมาด้วยความเผ็ดร้อน หลังจากกินไปได้ 2-3 คำก็จะพบว่าถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว
แล้วเพื่อนๆหล่ะ ชอบแกงกะหรี่ของชาติไหนมากกว่ากันครับ?
1
#AdminKusatsu
สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานสามารถติดตามได้ทางเพจ facebook "อยู่ญี่ปุ่นกับคนอินเดีย" กันอีกทางนะครับ
link:
https://bit.ly/2VMGSru
13 บันทึก
83
14
17
13
83
14
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย