25 เม.ย. 2019 เวลา 01:53 • บันเทิง
"Avengers: Endgame" ศึกหนักที่แข่งกันเดือดระหว่าง "SF" และ "Major"
จากกระแสความแรงจนฉุดไม่อยู่ของภาพยนตร์เรื่อง "Avengers: Endgame" นั้น ส่งผลให้สองผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ประเทศไทยอย่าง "SF Cinema" และ "Major Cineplex" ต่างตอบรับกับกระแสผู้ชมอันแรงกล้าชนิดที่ต้านทานไม่อยู่จนต้องให้บริการรอบฉาย 24 ชั่วโมง
นอกจากการแข่งขันในเรื่องรอบให้บริการชนิดที่ว่าสะดวกดูเวลาไหนก็สามารถเข้ามารับชมได้ทั้งวันทั้งคืนแล้ว อีกหนึ่งการแข่งขันที่ต้องบอกว่าทั้ง "เอสเอฟ" และ "เมเจอร์" ต่างแข่งขันกันดุเดือดราวกับแกร่งแย้งชิงมณี อินฟินิตี้ สโตน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอดใครก็คือ "เซตป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม"
แน่นอนว่าป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มนอกจากจะบรรเทาอาการหิวตลอด 3 ชั่วโมงที่รับชม "Avengers: Endgame" และช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์แล้ว
การที่ผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์จำหน่ายเซตสุดพิเศษที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างความน่าสนใจที่จะกระตุ้นยอดจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครือ่งดื่มได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นถังใส่ป๊อปคอร์นหรือแก้วน้ำที่ผลิตออกมาเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะ แถมยังมีออกมาจำหน่ายหลากหลายรูปแบบโดยอิงจากตัวละครเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ให้เป็นของที่ระลึกติดมือกลับบ้านไป
ต้องบอกว่ากระแสการจัดจำหน่ายเซตป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มของ "Avengers: Endgame" ร้อนแรงพอตามกระแสผู้ชมอย่างมาก จนทำให้ "เอสเอฟ" และ "เมเจอร์" ต่างจัดโปรโมชั่นออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด
รวมถึงการจัดจำหน่ายรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน จนผู้ที่มาชมภาพยนตร์เห็นแล้วรู้สึกว่าอยากได้เป็นเจ้าของ
ถึงแม้ว่ายอดจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มในโรงภาพยนตร์นั้น จะไม่สามารถจำหน่ายผู้ชมได้ทุกที่นั่ง แต่ต้องยอมรับว่าเซต "Avengers: Endgame" นั้นสามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่มาใช้บริการโรงภาพยนตร์ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้มาครอบครอง จนทำให้บางเซตสินค้าขาดตลาดเลยทีเดียว
ตรงนี้ยังไม่นับรวมยอดจากนักล่านักสะสมที่มีอยู่ทั่วฟ้าเมืองไทย ที่ซื้อกลับบ้านเพื่อสะสมให้ครบทุกแบบอีกจำนวนมาก
รายได้ของป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มนั้นเรียกได้ว่าเป็นรายได้สำคัญของโรงภาพยนตร์ที่สร้างมูลค่าเป็นอันดับสองของผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์รองจากรายได้จากการจำหน่ายตั๋วหนัง และมากกว่ารายได้โฆษณาที่เรานั่งชมในโรงภาพยนตร์
แถมยังเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า 10% ด้วยซ้ำไป ในหนึ่งปีการจำหน่ายป๊อปคอร์นของทั้งสองผู้ให้บริการนั้น สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท
เมื่อป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มสร้างรายได้มาเป็นอันดับที่สอง แถมยังมีการเติบโตขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงไม่น่าแปลกใจที่สองผู้ให้บริการจะแข่งขันกันดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ รสชาติ โปรโมชั่น ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
โฆษณา