The Great Depression ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ตอนที่ 14 (ตอนจบ)
สงครามโลกครั้งที่ 2 และวิกฤตเศรษฐกิจ
ปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
พรรคนาซีในเยอรมนีและพันธมิตร คืออิตาลีและญี่ปุ่น ก็ได้บุกยึดประเทศต่างๆ และมีทีท่าเป็นภัยต่อประเทศทั่วโลก
ชาวอเมริกันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับสงคราม และประธานาธิบดีรูสเวลต์ก็ได้ให้สัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สหรัฐอเมริกาต้องเข้าร่วมสงคราม
แต่ลึกๆ ท่านประธานาธิบดีก็คงรู้ว่ายังไงซะก็ต้องเข้าร่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ทำให้สหรัฐอเมริกาประกาศสงคราม
ที่ผ่านมา แผนการที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์เศรษฐกิจตกต่ำของประธานาธิบดีรูสเวลต์คือการสร้างงานให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างงานได้เยอะพอสำหรับทุกคน
แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมสงคราม คนว่างงานก็หายไปทันที
ผู้ชายต่างเข้าร่วมกับกองทัพ ทำให้ตำแหน่งงานของเหล่าชายที่เข้าร่วมกับกองทัพนั้นว่างลง มีคนมาทำแทนที่ และประเทศก็จำเป็นต้องใช้คนงานจำนวนมากในการสร้างเรือ เครื่องบิน รวมถึงอาวุธ
อู่ต่อเรือบรู๊คลินทำหน้าที่ต่อเรือและซ่อมเรือ ซึ่งอู่นี้รับคนงานกว่า 75,000 คน ผลิตเรือปีละประมาณ 1,500 ลำ
ภายในเวลาไม่นาน ตำแหน่งงานต่างๆ ก็เร่งหาคนงานเนื่องจากภาวะสงคราม แรงงานจำนวนมากเป็นสิ่งที่จำเป็น แม้กระทั่งผู้หญิงและเด็กก็ได้รับโอกาสในการทำงาน
ถึงแม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย แต่มันก็เป็นจุดสิ้นสุดของวิกฤตเศรษฐกิจ
เมื่อสงครามสงบ สหรัฐอเมริกาก็ได้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
ย้อนกลับไปก่อนจะเกิดสงคราม ประธานาธิบดีรูสเวลต์เป็นประธานาธิบดีที่ใช้อำนาจมากที่สุดในยามที่ประเทศสงบ มากยิ่งกว่าประธานาธิบดีคนอื่นๆ
เมื่อเกิดสงคราม รัฐสภาได้ลงมติในการเพิ่มอำนาจให้ท่านประธานาธิบดี เนื่องจากเป็นช่วงวิกฤต ท่านประธานาธิบดีจำเป็นต้องใช้อำนาจสั่งการเพื่อแก้ไข้ปัญหา
นักประวัติศาสตร์บางคนคิดว่าประธานาธิบดีรูสเวลต์ทำเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แม้กระทั่งผู้สนับสนุนบางคนก็ยังเรียกเขาว่า “เผด็จการที่มีประโยชน์”
ประธานาธิบดีรูสเวลต์ได้เปลี่ยนแปลงหลายอย่างแก่สหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีรูสเวลต์จะเป็นประธานาธิบดี ชาวอเมริกันส่วนใหญ่คิดว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับชีวิตพลเมือง
แต่ประธานาธิบดีรูสเวลต์คิดว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อาหาร การศึกษา ที่อยู่อาศัย เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดสรรสิ่งเหล่านี้ให้แก่ประชาชน
วิกฤตการณ์เศรษฐกิจตกต่ำเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์อเมริกัน ผู้คนต่างกลัวว่าประเทศจะพังครืน
ประธานาธิบดีรูสเวลต์ตระหนักดีว่าสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน ในช่วง 100 วันแรกที่ประธานาธิบดีรูสเวลต์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้มีแขกคนหนึ่งเข้าพบท่านประธานาธิบดีและกล่าวว่า
“ท่านประธานาธิบดี ถ้าโครงการของท่านสำเร็จ ท่านจะเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา แต่ถ้าล้มเหลว ท่านก็จะเป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุด”
ท่านประธานาธิบดีก็ได้ตอบกลับด้วยคำตอบที่แซ่บไม่แพ้กัน
“หากพลาด ผมจะเป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายต่างหาก”
หมายถึง หากท่านทำพลาด อเมริกาก็จะล่ม ประธานาธิบดีรูสเวลต์ก็จะเป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหรัฐอเมริกา นั่นหมายถึง ท่านประธานาธิบดีเอาทุกอย่างเดิมพัน และก็ทำได้สำเร็จ
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์ชุดนี้ รอติดตามอ่านซีรีย์ชุดต่อไปนะครับ
- 31
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
