29 เม.ย. 2019 เวลา 13:50 • บันเทิง
"ติดไฟแดง"
วลีที่ว่า "ติดไฟแดง" อาจทำให้คุณจินตนาการไปได้มากมายหลายอย่าง อาจเป็นคำพูดของคนที่กำลังพร่ำบ่นกับแฟนในสายเพราะรถติด หรืออาจเป็นคำพูดเชิงเปรียบเทียบว่ามีอุปสรรคบางอย่างในชีวิต หรือแม้กระทั่ง "วันนั้นของเดือน"
ซึ่งคำว่า "ติดไฟแดง" อาจทำให้กระทาชายผู้มีพลังเหลือล้นอาจเป็นบ้าตายได้ง่ายๆ เมื่อได้ยินวลีดังกล่าว จนอาจมีปัญหาตามมาในบางกรณีที่ยังดึงดัน "ฝ่าไฟแดง" ไปจนได้ อืมมมม...
ระหว่างเส้นทางจากบ้านไปถึงที่ทำงานของผม โดยเฉพาะระยะทางบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ด้วยระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แต่มีแยกไฟแดงถึง 6 แยก ขอย้ำว่า...ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์..นะครับ ไม่ใช่ถนนในตัวเมือง ซึ่งถือว่ามีแยกไฟแดงเยอะมากกับถนนที่ต้องใช้เดินทางไกลและมีรถจำนวนมาก แถมวิ่งกันด้วยความเร็วสูงๆ ด้วย นับว่าคงเสียอารมณ์กับการขับๆ หยุดๆ อยู่พอสมควร
เวลาติดไฟแดงตามถนนที่มีรถจำนวนมากแบบนี้ เรามักพบเห็นกิจกรรมข้างๆ ถนนที่ชินตาคือ การขายสินค้าต่างๆ ยอดนิยมสุดคงเป็นพวงมาลัย เช็ดกระจก ขายข้าวหลามบ้างของกินจุกจิกอื่นๆบ้าง ถั่วต้มก็มี
เดี๋ยวนี้ที่แพร่หลายก็พวกไม้กวาดยืดได้ ยืดๆยาวๆแกว่งไกวไปมาเห็นได้แต่ไกลตั้งแต่ติดไฟแดงอยู่หางแถวลิบๆ แต่แค่รถเริ่มเคลื่อนตัวเมื่อไฟเขียวส่งสัญญาณ เหล่านักขายมืออาชีพเหล่านี้ก็จะสลายตัวออกจากท้องถนนไปอย่างรวดเร็ว
จริงๆ แล้วส่วนตัวไม่ค่อยชอบการขายสินค้าตรงแยกไฟแดงแบบนี้เท่าไหร่ โดยเฉพาะการเช็ดกระจก เพราะมักจะถูกกดดันให้รับบริการแม้ว่าเราจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม อันนี้เพลียมากๆ รองลงมาคือการเอาคนพิการมาขายพวงมาลัย เพราะคิดว่ามันค่อนข้างเสี่ยงอันตรายเกินไปหน่อย คนปกติยังเสี่ยงมากอยู่แล้ว คนพิการยิ่งเสี่ยงมากกว่าบนถนนที่มีรถวิ่งมากมายแบบนี้
แต่ผมก็พยายามเข้าใจถึงความจำเป็นของพวกเขาเหล่านี้ เพราะถ้าเราเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ในชีวิต คงไม่มีใครอยากมาตากแดดร้อนๆ ขายของตามแยกถนนต่างๆ ให้เสี่ยงชีวิตเล่นๆ กันหรอกจริงมั้ยครับ แต่ทำไงได้..ชีวิตไม่ได้ออกแบบกันได้ทุกคนเมื่อไหร่
ย้อนกลับไปถึงแยกไฟแดงจำนวนมากในถนนแถวบ้านผม คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่มันจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักดนตรีบางกลุ่มเอาไปแต่งเป็นเพลงน่ารักๆขึ้นมา วงดนตรีที่ว่าชื่อว่า "Time" หลายคนอาจจะคุ้นๆ จริงๆวงนี้มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดบ้านเกิดของผมนี่เอง
ส่วนเพลงที่น่าจะได้แรงบันดาลใจจากแยกไฟแดงที่ว่าคือเพลง "ก่อนมะลิบาน" ซึ่งเนื้อเพลงในส่วนที่น่าสนใจคือ
"~อยากให้ไฟแดง
นานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไฟเขียวบ่อย
ก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อ มะลิบานๆ~"
เนื้อเพลงสะท้อนความรู้สึกของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ขายพวงมาลัยอยู่ที่แยกไฟแดง ซึ่งตัวเธอหวังอยากให้มีไฟแดงนานๆ นานพอที่เธอจะเดินขายพวงมาลัยที่ร้อยมาให้หมดไวๆ การที่ไฟแดงสั้นหรือน้อยเกินไป นั่นหมายถึงโอกาสที่ลดลงของเธอที่จะมีรายได้ในวันนี้ จนอาจจะขาดทุนเพราะมะลิที่บานหมดแล้วจากระยะเวลาที่ต้องรอคอยอย่างมีความหวังอยู่นานสองนาน
เพลงนี้สะท้อนอะไรได้หลายๆ อย่าง อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ ทุกๆอย่างในโลกนี้ล้วนมีหลายแง่หลายมุม จนเราไม่อาจสรุปเอาได้ง่ายๆว่า นี่ดีนี่ร้าย นั่นถูกนั่นผิด มันคงอยู่ที่ว่ามันเป็นมุมมองของใครและจากตำแหน่งไหนของลำดับอนุกรมทางสังคม
"ติดไฟแดง" ของคนที่นั่งตากแอร์เย็นๆในรถ อาจเป็นสิ่งที่ย่ำแย่และน่าเบื่อ ในขณะที่ไฟแดงเดียวกันที่ว่า คือเวลาทำมาหากินของคนทำอาชีพสุจริตอีกหลายๆคน (ถ้าไม่นับว่าผิดกฏจราจร)
การติดไฟแดงของคนบนถนนเส้นหนึ่ง หมายถึงไฟเขียววิ่งฉิ่วของถนนอีกเส้น ไฟแดงรถติดของถนนเส้นหนึ่งอาจเป็นช่วงเวลาเป็นตายของรถพยาบาลที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาวิกฤติของรถกู้ภัยในถนนที่กำลังไฟเขียวในอีกทางหนึ่ง
ชีวิตก็แบบนี้หล่ะครับ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ในร้ายมีดี ในดีมีร้าย อยู่ที่ว่าเราจะมองมันแบบไหนและด้วยจิตใจแบบไหนมากกว่า ที่แน่ๆ มองด้วยใจเป็นกลางๆ ก็จะเห็นและเย็นสบาย
รถติดไฟแดงหน้า คงไม่พาให้หม่นหมอง
เพียงหันออกไปมอง เห็นครรลองชีวิตจริง
หมายเหตุ : "ติดไฟแดง" อาจไม่จำเป็นต้องเป็นวันนั้นของเดือนเสมอไป แต่อาจจะหมายถึง "ขอร้องเหอะ วันนี้งด" ก็เป็นได้....ใช่หรือเปล่าหว่า?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา