คำว่า เล่นบอลแบบ "จอดรถบัส" ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แท้จริงแล้วมันมาจากไหนกันแน่ วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
กลยุทธ์การอุดแบบแพ็กเกมรับแน่น ในปัจจุบัน จะเรียกกันว่า "จอดรถบัส" (Parking the bus)
ลองนึกภาพตาม คือถ้ามีคนเอารถบัสไป ขวางหน้าปากประตู แล้วคุณจะยิงเข้ายังไง?
รถบัสนั้น มันมีนัยยะบางอย่าง หมายถึงตามปกติเวลาทีมฟุตบอลจะเดินทางไปแข่งสนามไหน พวกเขาจะรวมตัวกันก่อน แล้วนั่งรถบัสไปพร้อมกัน ดังนั้น รถบัสมันเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางไปสู่ชัยชนะ
แต่ถ้ารถบัสคันนั้น ตัดสินใจใส่เกียร์ P แล้วจอดนิ่งๆหน้าโกล์ฝั่งตัวเอง มันก็หมายถึง นักเตะทุกคนพร้อมใจกันเล่นเกมอุด ไม่ต้องเดินทางไปสู่ชัยชนะที่ไหนแล้ว แต่ต้องยันสกอร์เอาไว้ให้ได้ ด้วยการเล่นเกมรับเต็มรูปแบบ
จริงๆแล้วกลยุทธ์การจอดรถบัสนี้ มีใช้กันแพร่หลายมายาวนานมากแล้ว ไม่มีใครทราบว่า ใครคิดค้นมาใช้เป็นคนแรก มันก็คือการอุดเต็มรูปแบบ โดยไม่คิดจะบุกนั่นแหละ
อย่างไรก็ตาม คนที่ทำให้ทั้งโลกได้รู้จัก สำนวนว่า "จอดรถบัส" จะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจาก โชเซ่ มูรินโญ่
มูรินโญ่เป็นโค้ชที่โดนแฟนบอลวิจารณ์เสมอว่า ชอบเล่นกลยุทธ์จอดรถบัส คือไม่ว่าจะคุมทีมไหนก็ตาม มูรินโญ่สามารถวางหมากเล่นรถบัสได้ ถ้าในกรณีที่ต้องการผลการแข่งขันเป็นสำคัญ
มันสำคัญสำหรับเขาที่ทีมต้องชนะ จะเล่นสวยหรือไม่สวยก็แล้วแต่ แต่ทีมต้องชนะ
อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่ ว่า ตอนที่มูรินโญ่ พูดถึง "จอดรถบัส" ครั้งแรก เขาไม่ได้ด่าตัวเอง แต่เขาไปด่าผู้จัดการทีมอีกคนหนึ่ง ที่มาเล่นเกมอุดใส่เขา จนกลายมาเป็นประโยคเด็ด ที่คนเอามาใช้กันถึงวันนี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2004 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
ในซีซั่น 2004-05 โชเซ่ มูรินโญ่ คุมเชลซีรอบแรก และทีมทำผลงานได้ดีทีเดียว ตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาล ลงสนาม 5 เกมแรก ชนะ 4 เสมอ 1 มีลุ้นแชมป์เต็มตัว
เกมที่ 6 ของฤดูกาล 19 กันยายน 2004 เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอกับทีมใหญ่ด้วยกันอย่างทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
ฌัคส์ ซ็องตินี่ อดีตกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส มาคุมสเปอร์ส และมีกลยุทธ์คือเน้นเกมรับไว้ก่อน
5 เกมแรกของซ็องตินี่ กับสเปอร์ส มีสกอร์ดังนี้ 1-1,1-0,1-1,1-0,0-0
ไม่เคยยิงคู่แข่งเกิน 1 ลูก และไม่เคยเสียประตูเกิน 1 ลูก และการมาเยือนเชลซีเกมนี้ เขาอาจจะจัดทัพ 4-4-2 ก็จริง แต่พอเล่นจริงๆ กลายเป็นระบบ 10-0-0 แทน นั่นคือนักเตะทุกคนมาอัดแน่นในเขตโทษเต็มไปหมด
เกมนั้น มูรินโญ่ ส่งตัวรุกลงมาลุยเพียบ ทั้งดิดิเยร์ ดร็อกบา, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ โจ โคล กะมายิงสเปอร์สให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้ เสมอกันไป 0-0
หลังจบเกมมูรินโญ่ให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นที่มาของ Parking the bus
"ที่โปรตุเกส เราเรียกการกระทำแบบนี้ ว่าพวกเขาเอารถบัสมา แล้วจอดรถบัสทิ้งไว้หน้าประตู"
"บางครั้งเวลาคุณเป็นทีมใหญ่ สโมสรที่เล็กมากๆ จะมาเยือนสนามของคุณและเล่นเกมอุดแบบนี้"
ซึ่งแน่นอน มูรินโญ่จิกกัดสเปอร์สว่าเป็นทีมเล็ก
"มีแต่เราที่ต้องการจะเล่นฟุตบอล พวกเขาไม่อยากจะเล่น มีแต่เราที่อยากยิงประตู แต่พวกเขาไม่คิดจะยิง ทุกครั้งที่พวกเขาได้บอล ก็จะเคลียร์ทิ้งอย่างเดียว ไม่มีต่อเกมอะไรทั้งนั้น มันทำให้ผมหงุดหงิดมาก เพราะแฟนๆเชลซีที่มาดูฟุตบอล คงไม่อยากเสียเงิน 50 ปอนด์ เพื่อมาดูทีมเดียวพยายามเอาชนะ ส่วนอีกทีมเอะอะก็จะล้ม จะถ่วงเวลา เอาแต่ขอเรียกแพทย์เข้ามาในสนาม"
"ผมสงสารปีเตอร์ เช็ก เขาสามารถหยิบเก้าอี้ เอามานั่งหน้าประตูได้เลย เพราะตลอดเกมเขาไม่ได้บอลเลย"
หลังจากนั้น สำนวนว่า Parking the bus จึงถูกหยิบนำมาใช้ ในวงการฟุตบอลอังกฤษ และนำมาใช้ทั่วโลก ในเวลาต่อมา
มันแปลว่า การอุดเต็มรูปแบบ ยืนเป็นแถวซ้อนๆกัน ไม่เปิดพื้นที่ให้ฝ่ายตรงข้ามเจาะเข้าประตูได้ ลองคิดดูถ้าในเขตโทษมีนักเตะฝ่ายตรงข้ามรวมกันอยู่ 11 คน คุณจะเจาะเข้าทำได้อย่างไร?
ด้วยสไตล์การเล่นเกมรับเต็มตัว ขัดกับบุคลิกของสเปอร์ส เป็นอย่างมาก ทำให้ฌัคส์ ซ็องตินี่ มีความขัดแย้งกับผู้บริหารของทีมไก่เดือยทอง และประกาศลาออก หลังคุมทีมได้แค่ 13 แมตช์เท่านั้น
สิ่งที่แฟนบอลอังกฤษ จดจำเขาได้ ไม่ใช่ผลงานในสนาม แต่เป็นวีรกรรมการอุดเต็มที่ จนแชร์แต้มจากสแตมฟอร์ด บริดจ์นี่แหละ
และคำพูดจากมูรินโญ่ ถึงซ็องตินี่ ก็เป็นที่มาของ สำนวน Parking the bus ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันด้วย
อย่างไรก็ตาม มันดูมีความย้อนแย้งในเรื่องนี้กับมูรินโญ่ เพราะในอดีต เขาเป็นคนวิจารณ์โค้ชทีมอื่น เรื่องการจอดรถบัส แต่ทว่าในยุคหลักๆ คำว่าจอดรถบัส มันดันมาหมายถึงเขาเองซะอย่างนั้น
เป็นเรื่องที่แปลกพิลึกดีเหมือนกันนะ
#Mourinho #Santini
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
