ถ้า "คิดลบ" แล้วมันเวิร์ค ชีวิตคนส่วนใหญ่คงจะดีกันหมดแล้ว
แต่ถ้า "คิดลบ" แล้วมันไม่เวิร์คทำไมไม่ลองเปลี่ยนแผน
มาลองค้นหาสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ล่ะ?
ผมไม่อยากใช้คำว่า "คิดบวก"
เพราะบางคนไม่เข้าใจในคำนี้
คิดว่าคือการหลอกตัวเองไปวันๆ เจ็บปวดก็ต้องแกล้งหัวเราะมั้ง
...ทั้งที่จริงไม่ใช่เลย
ความจริงก็คือ
มีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ในทุกเรื่องราว
ต่อให้เรื่องที่ทำให้เสียน้ำตา ก็ยังมีบางอย่างสอนเราได้
ต่อให้ล้มจนหมดตัว ก็ยังให้บทเรียน
อยู่ที่จะเก็บอะไรมาจากเหตุการณ์นั้น
เพียงแต่ธรรมชาติใจเรามักคิดลบเหมารวม ด่วนสรุป จำแต่แง่ร้าย
ถ้ามีคน 4-5 คนด่าเรา เราจะบอกว่า "มีแต่คนเกลียดฉัน"
แต่ถ้ามีคน 4-5 คนชื่นชมเรา เรากลับไม่บอกว่า "มีแต่คนรักฉัน"
เมื่อมองจากมุมนี้มนุษย์จึงมีนิสัยแปลก
เราพร้อมเหมารวมว่ามีแต่คนเกลียด มากกว่าจะเหมารวมว่ามีแต่คนรัก
นี่ไงเล่า...การคิดลบ
ครั้งต่อไป ก่อนจะเหมารวม
ลองถามตัวเองก่อนว่าข้อสรุปแบบนั้น
มันเป็นความจริง หรือเป็นความเชื่อ?
มันทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือทำให้ชีวิตแย่ลง?
ถ้าไม่แน่ใจว่าจะสรุปอย่างไรดี ให้สรุปไปในทางที่ดีไว้ก่อน อย่างน้อยก็ได้กำไรความคิด
ความสุข ความทุกข์ เมื่อนำมาจับกับกรอบเวลาจะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ
1. ทุกข์วันนี้ เพื่อไปทุกข์วันหน้า
แบบนี้นับว่าน่าสงสาร โศกเศร้าทั้งชีวิต คิดลบเต็ม ๆ
2. สุขวันนี้ เพื่อไปทุกข์วันหน้า แบบนี้นับว่าน่าเป็นห่วง เห็นแก่ความสุขชั่วคราว
3. ทุกข์วันนี้ เพื่อไปสุขวันหน้า แบบนี้นับว่าอดทนพากเพียร แต่ต้องระวังทรมานตัวเองเกินไป
4. สุขวันนี้ เพื่อไปสุขวันหน้า แบบนี้นับว่าวางน้ำหนักได้ลงตัว หาได้ยากยิ่ง
พึงสำรวจตัวเองว่า
1. ณ ตอนนี้กำลังตกอยู่ในข้อไหน?
2. พอใจหรือไม่ ที่ตกอยู่ในข้อปัจจุบัน?
3. ถ้าไม่พอใจ อยากเปลี่ยนไปเป็นข้อไหน?
4. อะไรคือวิธีที่จะเปลี่ยนไปสู่ข้อที่ต้องการได้?
หากใครลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ จะเข้าใจธรรมชาติตนเองมากขึ้น
เพราะอันที่จริง เราไม่จำเป็นต้องอมทุกข์
เราเกิดมาเพื่อมีความสุขได้...ไม่ผิดหรอก
ขอแค่อย่าเดือดร้อนตนเอง อย่าเดือดร้อนผู้อื่นก็พอ
แต่คนมีความทุกข์กับตนเอง มักไม่ยอมให้คนรอบตัวมีความสุข
ส่วนคนที่มีความสุขกับตนเอง เขาจะไม่ยอมให้คนรอบตัวมีความทุกข์
เพราะเราเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง จากนั้นก็พยายาม...ทำให้คนอื่นเหมือนเรา
เราคิดกับตัวเราแบบไหน เราก็จะคิดกับคนอื่นแบบนั้นด้วย
เพราะคนอื่นไม่มีอยู่จริง มีแต่ตัวเราอีกคน ที่เราเห็นว่าเป็นคนอื่นเท่านั้นเอง
หนังสือหลายเล่มจึงพูดตรงกัน ถ้าอยากเปลี่ยนคนอื่น ถ้าอยากเปลี่ยนโลก
ให้เปลี่ยนที่ตัวเราก่อนเสมอ เพราะเมื่อเราเปลี่ยน
เราจะมองโลก มองคนอื่นเปลี่ยนไป
เราจะคิดกับโลก คิดกับคนอื่นเปลี่ยนไป...จากนี้ไป
ทุกครั้งที่ชีวิตเจอปัญหา ให้ถามตัวเองด้วยคำถามนี้เสมอ
"สิ่งนี้สอนอะไรฉันบ้าง?"
คำถามนี้จะฝึกให้เราเป็นคนมองหาสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่
เมื่อได้คำตอบก็เก็บมาเป็นบทเรียน พกติดใจไว้
จะได้ไม่ล้มท่าเดิม พร้อมเริ่มท่าใหม่ ถึงจะล้มอีกที...ก็ไม่เป็นไร
เพราะได้อะไรทุกครั้ง...ที่ล้มลง
ถ้า “คิดลบ" แล้วไม่เวิร์ค
ทำไมไม่ลองเปลี่ยนแผนดูบ้างล่ะครับ?
ขอขอบคุณเนื้อหาจากบล็อก Boywisoot
.
.
If negative thinking worked, most people’s lives would be great by now.
But if negative thoughts don’t work, why not change your approach?
Perhaps try looking for good things that lie hidden.
I don’t want to use the phrase ‘positive thinking’, as not everyone understands its meaning.
They see it as restraining emotion by forcing a laugh while suffering on the inside.
The truth is quite the opposite.
The truth is…
There are good things hidden in every story.
Even sad stories that make us cry have something to teach us.
Or even when we fail and are left with nothing, there’s always some lesson to be learned.
It depends on what we choose to learn from each situation.
Naturally, our minds gravitate towards negativity, are quick to judge, and focus on the negative.
If several people criticize us, we’ll say, “Everyone hates me.”
But if those people compliment us, we won’t say, “Everyone loves me.”
When viewed from this angle, humans are a little strange.
We are more ready to accept that everyone hates than loves us.
This is… negative thinking.
Next time before generalizing and jumping to conclusions… ask yourself whether it is a fact or merely a belief at issue.
Will it make your life better or worse?
If you are unsure, look on the bright side first. At least you will profit from that thought.
How we view happiness and misery over time falls into 4 categories:
1. Be miserable today for a miserable life tomorrow.
It’s a shame that sadness is present your entire life. You’re a downright pessimist.
2. Be happy today for a miserable life tomorrow.
This thought is worrying. You only seek short-lived pleasure.
3. Be miserable today for a happy life tomorrow.
This attitude is seen as patience and diligence. But be careful not to torture yourself too much.
4. Be happy today for a happy life tomorrow.
This is seen as harmony, which is rare.
Always observe yourself.
1. Currently what category do you fall into?
2. Are you satisfied with your current category?
3. If not, which one would you like to change to?
4. What process will bring you to your desired category?
Anyone who follows this instruction will have a better understanding of their true self.
In fact, no one has to dwell in misery.
It isn’t wrong to be happy as long as what you do doesn’t harm you and others.
People who are unhappy within themselves are inclined to restrict the happiness of those around them.
People who are happy within themselves will never allow those around them to be miserable.
This is because we place ourselves at the center of gravity, and then try to influence others to become like us.
How we see ourselves is how we see others.
Because no one else is real but our other selves who see ourselves as other people
A lot of books suggest the same, that if we want to change others or the world, we must change ourselves first. Because when we change…
We will look at the world and others differently.
We will think of the world and others differently.
From now on when faced with problems, always ask yourself this question: “What does this thing teach me?”
This question will train you to always look for the latent good.
When you have your answers, keep them as lessons. Carry them in your mind.
So you don’t repeat the same mistake and are ready to start anew. If you should fall again… it will be okay.
Because you learn from every fall that, if you think negatively and it doesn’t work, why not change your plan?
#DTGO #AddingValueInEverythingWeDo #NewHeartNewWorld #Inspiration #Boywisoot
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
