😲 คิดยังไงให้ได้ไอเดียทำ Tech Startup ระดับ Disruption 😙😙😙
====================
ปัจจัยพื้นฐาน (แบบสุดๆ) ที่จะทำให้คุณสามารถ Generate ไอเดียในระดับ Disruption เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์ของการทำ Tech Startup ที่ยิ่งใหญ่ ... คือ ... คุณต้องเป็นคนที่คิดบวก บวก บวก แบบซุปเปอร์บวก+++
.
ทำยังไงถึงจะเป็นคนคิดบวก ... ออนไลน์แมน จะเล่าให้ฟัง ...
ออนไลน์แมน เชื่อครับว่าหลายๆคนอยากอยากหลุดพ้นจาก "คุกลูกจ้าง" ... อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ... แต่พอคิดอย่างลาออกจากงานและก้าวออกจาก Comfort Zone ... ไอ้ตัวดำ ( ความคิดลบ + ความกลัว) มันก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที ... แสดงพลังจนแทบทุกคนก็ยอมกลับไปอยู่ใน "คุกลูกจ้าง" เหมือนเดิม
.
จริงไหมครับ ? ...
.
ตราบเท่าที่คุณยังมีความคิดลบ ... คิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้ คิดว่าตัวเองคงทำไม่สำเร็จ และ ความกลัว ... กลัวว่าตัวเองและครอบครัวจะลำบาก กลัวการสูญเสียในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ (งาน เงิน ตำแหน่งหน้าที่) ... ความคิดลบ + ความกลัวเหล่านี้มันก็จะทำให้คุณต้องตั้งหน้าตั้งตาเป็นลูกจ้างต่อไปเรื่อยๆ ... แล้วมันก็จะปิดโอกาสเริ่มต้นทำ Tech Startup ครับ ... จริงไหม ?
.
ความกลัวคืออาหารชูกำลังของความคิดลบ ... ถ้าคุณยิ่งกลัว ... คุณก็จะยิ่งคิดลบ ... จนไม่เหลือพื้นที่ให้ความคิดบวก
.
นอกจากความคิดลบยังเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายด้วยนะ ... ไม่เชื่อคุณลองไปอยู่ใกล้ๆคนที่คิดลบซิ ... ไม่นานหรอกคุณก็จะเป็นคนคิดลบ
.
ทำยังไงที่จะจัดการลดพื้นที่ให้ความคิดลบ และ เพิ่มพื้นที่ให้กับความคิดบวก
.
อย่างแรกเลย ... คุณต้องทำตัวออกห่างจากคนคิดลบ ... ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ หรือเพื่อนๆ ของคุณ ต้องออกห่างใหม่หมด ... เชื่อไหมว่าคนที่อยู่รอบๆตัวคุณทั้งหมดนิแหละที่ทำให้คุณคิดลบและไม่ประสบความสำเร็จ
.
ถ้าคุณมีไอเดียเกี่ยวกับโปรเจกส์อะไรล้ำๆ ดีๆ ไม่ต้องปรึกษาหรือขอความเห็นคนพวกนี้ครับ ... รับรองเค้าจะบอกว่า "จะทำไปทำไม ... ทำไม่สำเร็จหรอก" ... แล้วก็ยุให้คุณล้มเลิกความคิด ... แล้วคุณก็เสร็จเค้า ... แค่คิดก็แพ้แล้ว ... แล้วก็ต้องก้มหน้าก้มตาเป็นลูกจ้างต่อไป ... เห็นไหมไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับที่จะไปขอคำแนะนำหรือปรึกษาคนรอบตัว
.
อย่างที่ 2 ... ต้องพยายามมองโลกนี้แบบมีสติ อย่าใช้อารมณ์ พยายามเรียนรู้และเข้าใจที่มาที่ไปและความเป็นไปของโลกนี้ เพื่อล้าง ข้อมูล "ประสบการณ์อันเลวร้าย" ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณ พร้อมกับตั้งเป้าหมายของชีวิตที่เราต้องการจะเป็นแบบแน่วแน่และวัดผลได้ ... ถ้าคุณทำได้คุณก็จะเป็นคนที่สามารถปรับเปลี่ยน Mindset ของตัวเองได้โดยไม่ต้องไปพึ่งอาจารย์ NLP ที่ต้องไปเสียเงินคอร์สทีละหลายๆหมื่นถึงเหยียบแสน
.
การปรับ Mindset มีความสำคัญมาก ... เพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความคิดลบ เพิ่มพลังความคิดบวก สามารถเอาความคิดบวกไปหยุดการแพร่พันธุ์และจัดการกับความคิดลบในหัวของคุณได้และทำให้คุณสามารถฝ่าความกลัวไปได้ในที่สุด ... เท่านี้แหละคุณก็จะสามารถบริหารจัดการความกลัวได้แล้ว
.
ลำดับต่อไปคือ ... ต้องพยายามเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ + แบ่งปันสิ่งต่างๆให้กับผู้อื่น ... ถ้าคุณยิ่งเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ + แบ่งปันสิ่งต่างให้กับคนอื่นได้มากเท่าไร ... คุณจะสามารถที่จะสามารถเรียนรู้มุมมองผู้คนในสังคม + เปิดโลกในภาพใหญ่ได้มากขึ้นเท่านั้น ... และสิ่งนี้แหละที่จะทำให้คุณมองเห็นและเข้าใจ Social Problem ในระดับ Macro ซึ่งจะเป็นตัวจุดประกายให้คุณปิ้งไอเดียในระดับ Disruption ครับ
.
✅ สรุป : หลักการข้อที่ 2 ของการเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้านจาก Digital Asset คือ ต้องปรับ Mindset และพยายามมองและเข้าใจ Social Problem ในระดับ Macro ซึ่งจะเป็นตัวจุดประกายให้คุณปิ้งไอเดียในการทำ Tech Startup ในระดับ Disruption
*** คนแพ้มองแต่ปัญหา ... คนชนะมองหาทางออก ***
😘 เด่ววันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ ... ครั้งหน้า (Part 3) คุณเอกจะมาเล่าให้ฟังว่าไอเดียในลักษณะไหนที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิด Disruption และเอาไปทำ Tech Startup ได้ครับ ... คอยติดตาม Part 3 กันต่อนะ 😍😍😍
#ออนไลน์แมน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
