Movietalk: Green Book
มิตรภาพบนถนนเหยียดผิว
Green Book (2018)
การันตีด้วย 3 รางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
Green Book ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของชายสองคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว แฟรงค์ วาลเลลองกา หรือรู้จักกันในนาม "โทนี่ ลิป" ขาใหญ่คุมบาร์ ในวันที่บาร์ปิดโทนี่ตกงานแต่จับพลัดจับผลูได้งานขับรถให้แก่ ดร.ดอน เชอร์ลีย์ นักจิตวิทยาและอัจฉริยะด้านเปียโน เป็นนักเปียโนผิวสีที่ได้รับการยอมรับจากคนผิวขาว
ทั้งสองออกเดินทางล่องใต้ไปจนใต้สุดของอเมริกาเพื่อแสดงดนตรี ในยุคที่คนผิวสียังเป็นเบี้ยล่าง ถูกชิงชังและกดขี่ การเดินทางของชายสองคนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวพร้อมสมุดคู่มือปกเขียวสำหรับคนผิวดำที่เดินทางแดนใต้อีกหนึ่งเล่ม การผจญภัยที่นำไปสู่การเรียนรู้ซึ่งกันและกันก่อนจะพบความหมายในชีวิตและมิตรภาพที่แตกต่างกัน
ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ ที่มีเครดิตหนังตลกห่ามสุดติ่งอย่าง There 's Something About Mary ซึ่งถือเป็นงานดีที่สุด ก่อจะเลือนหายไปกับการเวลา และคนดูมีภาพจำของฟาร์เรลลี่ในฐานะผู้กำกับหนังตลกห่ามทะลึ่งสุดติ่ง
ใครเลยจะคิดว่า การกลับมาของฟาร์เรลลี่จะกลายเป็นคนทำหนังระดับล่ารงวัลไปได้
Green Book กลายเป็นหนังครบรสที่ตลกก็มี สาระก็ได้ ดูให้จบแล้วดีต่อใจ พร้อมการแสดงเข้าขากันของสองนักแสดงนำ
วิกโก มอเทนเซน "โทนี่ ลิป"
โทนี่ วาลเลลองกา "โทนี่ ลิป" ที่ได้ วิกโก มอร์เทนเซน มาสวมบทขาใหญ่คุมบาร์ นักแก้ปัญหาร้อยแปด พูดคำสบถคำ โทนี่สามารถกิน, สูบบุหรี่ และพล่ามได้ตลอดการเดินทาง เช่นเดียวกับเมื่อปัญหาเกิดขึ้น โทนี่คือคนประเภทคิดเร็ว ทำเร็ว แก้ให้ไว จบให้ลง ทั้งหมดคือการสร้างสรรค์ของมอร์เทนเซนผ่านการแสดงแบบเมามัน แถมอัพไซส์ตัวเองจนอ้วนฉุ ชนิดคนดูลืมภาพ อาราก้อน นักรบกู้แผ่นดินใน Lord of the Ring ไปเลย
มาเฮอร์ชาลา อาลี "ดร.ดอน เชอร์ลีย์"
ดร.ดอน เชอร์ลีย์ "ด็อก" ชายผิวสี การศึกษาดีมีรสนิยม อัจฉริยะด้านดนตรี นี่คือชายที่ทุกอย่างในชีวิตต้องสมบูรณ์แบบ หรือ คนแบบโทนี่เรียกว่า "พวกเรื่องเยอะ" ซึ่งผู้สวมบทคือ มาเฮอร์ชาลา อาลี โดยอาศัยฟุตเตจสารคดีที่เล่าเรื่องราวของดร.ดอน เชอร์ลี่ย์ ควบคู่กับการฟังผลงานเพลงของด็อกเพื่อซึมซับวิธีคิด อารมณ์ ความรู้สึก ที่สำคัญเมื่ออาลีนั่งบรรเลงเปียโน ด้วยลีลาท่าทางทำให้คนดูเชือสนิทใจตรงหน้าคือดร.ดอน เชอร์ลีย์
Green Book เป็นมากกว่างานฟีลกู้ดด้วยการนำเสนออารมณ์ขันแบบมีชั้นเชิง ตามสถานการณ์พาไป ไม่โฉ่งฉ่างหรือฮาน้ำตาเล็ด แต่ก็ทำให้เรื่องปกติเรียกเสียงหัวเราะได้
เช่นเดียวกับหนังสร้างโลกกลับข้างที่คนขาวไร้รสนิยม และการศึกษาน้อย แถมมีนายจ้างเป็นคนผิวดำที่รักความสมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้วซึ่งต้องไม่ลืมว่าบรรยากาศในหนังเป็นยุค 70 ที่กระแสเหยียดผิวยังแผ่ซ่านทั่วอเมริกา
Green Book ยังจัดเป็นหนัง Road Movie ที่ตัวละครออกเดินทางร่วมกันแบบไม่ลงรอย ก่อนที่จะค้นพบมิตรภาพ และเรียนรู้ชีวิตอีกมุมจากอีกฝ่าย
และการเดินทางนี่ล่ะคือสีสันและหัวใจของหนัง
นี่คือหนังที่อยากแนะนำให้หาโอกาสดูสักครั้ง เพื่อให้เราเห็นและเรียนรู้ที่จะเปิดใจยอมรับเพื่ออยู่ร่วมกับความแตกต่างของแต่ละคน
(ซ้าย) โทนี่ ลิป ตัวจริง
(ขวา) ดร.ดอน เชอร์ลีย์ ตัวจริง
ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นคนแบบไหน สุดยอดเพียงใด สิ่งสำคัญคือคุณเปิดใจยอมรับความแตกต่างของบุคคลอื่นได้มากแค่ไหน เพราะสังคมที่ดีคือการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างอย่างเปิดใจ
ถ้าคุณรักหนัง ชอบดูหนัง อยากรู้เกร็ดหนังหลังฉาก โปรดกด Like, กดแชร์, กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจแก่ คนคอหนัง Movietalk ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
May the Force be with you.
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, OKNation
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: CGTN, Movie Corner, Collier, Metro US, lifestyles-bus.com, Popsugar, Vanity Fair, History vs. Hollywood
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
