3 พ.ค. 2019 เวลา 11:19 • การศึกษา
"Katie Stubblefield " หญิงสาวชาวสหรัฐอเมริกาที่รับการปลูกถ่ายใบหน้า ในวัย21 ปี (2017)
ชีวิตก่อนเเละหลังผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าของเธอจะเป็นอย่างไรติดตามได้ครับ...
ใบหน้าก่อน,หลัง ผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าใหม่
Katie Stubblefield เป็นหญิงสาวชาว สหรัฐอเมริกา ในปี 2014 เธอมีอายุได้ 18 ปี เธอเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวยก่อนลงมือฆ่าตัวตาย ด้วยอาวุธปืนของพี่ชายจ่อเข้าที่ใต้คางเเล้วชี้ขึ้นเหนี่ยวไก ด้วยเพราะอารมณ์ชั่ววูบจากการอกหัก กับเเฟนหนุ่ม
หน้าตาของ Katie ก่อนลงมือฆ่าตัวตาย
หลังจากลั่นปืน ไม่รู้ว่าเป็นปาฏิหาริย์หรือ
คำสาปกันเเน่ ที่ทำให้เธอรอดตายด้วยอาการสาหัส หลังจากพี่ชายมาพบเธอในสภาพจมกองเลือดก็รีบส่งตัวเธอ เข้าโรงพยาบาล หมอเเละพยาบาลต่างเร่งช่วยชีวิตเธออย่างสุดกำลัง เเต่ทว่าในหน้าของเธอเเทบไม่เหลือเค้าเดิมเเล้ว ทั้งโพลงจมูก กรามขากรรไกร เเละโหนกเเก้มต่างเเหลกเเละหลุดหายไป ดวงตาก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน จากนั้นหมอได้ทำการใช้ชิ้นเนื้อจากร่างกายส่วนอื่น มาเเปะเชื่อมต่อเนื้อเยื่อให้ใบหน้า่ของเธอ คืนสภาพได้ดีที่สุด
2
ในช่วงปี 2014-2016 เธอต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องเเละต้องย้ายโรงพยาบาลถึง3 โรงด้วยกัน หมอเเนะนำครอบครัวของ Katieว่า สภาพใบหน้าของเธอเสียหายอย่างรุนเเรงเเละไม่สามารถเเก้ไขให้ใช้งานได้อย่างปกติได้ จึงขอเเนะนำให้ทางครอบครัวยื่นคำร้องขอปลูกถ่ายใบหน้าใหม่ เเละเเน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครทราบเท่าไร เเต่ทางครอบครัวก็ตกลง จนในปี 2017 Katie ได้รับการ
บริจากใบหน้าที่สามารถเข้ากับเธอได้...
ผู้ให้บริจากใบหน้าคือ Adrea Schneider หญิงวัย 31ปี เธอมีลูกเเล้วหนึ่งคน เเละลงทะเบียนบริจาคอวัยวะภายในไว้ เเต่Sandra ผู้เป็นยายของเธอตัดสินใจยกใบหน้าของหลานสาว ผู้เสียชีวิตจากการกินยาเกินขนาดให้ Katie
Adrea Schneiderผู้บริจาคใบหน้า
Sandraยายของผู้บริจาก
เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่น่านับถืออย่างยิ่ง เมื่อร่างกายของเธอได้ช่วยชีวิตผู้คนมาเเล้วถึง8 คนรวมถึงKatie ด้วย
หลังจากรับบริจาคใบหน้าของ Adrea เเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ทำการวิเคราะห์ส่วนใบหน้าส่วนที่เสียหายของ Katie อีกครั้ง ด้วยรูปเเบบจำลอง 3มิติ เเละหล่อขึ้นรูปโครงสร้างให้เหมือนใบหน้าของเธอให้มากที่สุด โดยเหมือน90% จากรูปเเบบจำลองของใบหน้าพี่สาวของเธอ เเต่ทั้งนี้ใบหน้าของเธอจะไม่เหมือนของ adrea เพราะต้องจำลองให้เข้ากับใบหน้าของเธอนั่นเอง...
ซึ่งก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาได้ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จมาเเล้ว 7ครั้ง เเต่เป็นเพียงการทดลองเท่านั้น ไม่มีผลการรับรองว่าจะสำเร็จได้ 100% ซึ่งในการผ่าตัดครั้งนี้ื ต้องใช้ศัลยเเพทย์ ผู้เชี่ยวชาญถึง 15คน ที่มีความถนัดในด้านต่างๆเช่น ศัลยกรรมพลาสติก, ประสาทวิทยา, ระบบต่อมไร้ท่อ,ศัลยกรรมปลูกถ่าย, ทันตแพทย์, วิสัญญีแพทย์ เมื่อการเตรียมพร้อมทั้งรูปเเบบการผ่าตัดเเละ จิตใจของKatieก็พร้อมเเล้ว การศัลยกรรมปลูกถ่ายใบหน้าให้เเก่หญิงสาว จึงเริ่มขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2017
2
ศัลยเเพทย์ได้ทำการร่างโครงหน้าที่ต้องได้รับการผ่าตัด
หลังจากนั้นเเพทย์ได้ทำการผ่าตัดใบหน้าของ adrea ออกมาตามรูปเเบบที่วางไว้
ใบหน้าของ adrea
การผ่าตัดกินเวลากว่า 31ชั่วโมง ซึ่งผมก็นับถือความพยายาม เเละอดทนในการทำหน้าที่ของเเพทย์มาก
เเละเมื่อถึงชั่วโมงที่ 31 ผลการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าใหม่ของ Katie ถึงสำเร็จด้วยดี สร้างความปลาบปลื้มในให้เเก่เเพทย์เเละครอบครัวของKatie เป็นอย่างมาก
เเละหลังจากการผ่าตัดเธอก็ต้องพักฟื้นอยู่ช่วงระยะให้เนื้อเยื้อ เเละเส้นประสาทผสานเข้ากันดี
หลังจากฟื้นจากการผ่าตัดKatie สามารถกลับมาเคี้ยวอาหาร หายใจ ได้เหมือนคนปกติอีกครั้ง
ภาพก่อน,หลังการผ่าตัดเผยให้เห็นการเปลี่ยน
เเปลงบนใบหน้าของเธอ
หลังจากพักหายดีเเล้ว Katie ได้มีโอกาสพบกับยายของ adrea ซึ่งปฏิกิริยาเเรกที่ Sandra ได้พบKatie เธอรู้สึกดีใจที่ใบหน้าของหลานสาวเธอได้มอบชีวิตใหม่ให้กับหญิงสาวผู้นี้ เธอเข้าไปใกล้จับมือ เเละพูดคุยถึงชีวิตใหม่ของ Katie ซึ่งKatie ก็ขอบคุณ Sandra ด้วยความปลาบปลื้ม นับเป็นภาพที่ทำให้ผมน้ำตาซึมเลยทีเดียวครับ
ภาพครอบครัวของ Katie เเละSandra นับเป็นภาพที่ผมประทับใจเช่นเดียวกัน
ภาพคุณยายเเละหลานสาว...🙏🙏🙏
การผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าครั้งนี้นับเป็นรายที่ 40 ของโลก เเละนับว่าKatie เป็นผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้าที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย
ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินนดีกับKatie เเละครอบครัวKatie โดย Katieวางเเผนการใช้ชีวิตต่อไปว่า เธอจะฝึกเป็นนักพูดสร้างเเรงบันดาลใจ เเละเป็นกระบอกเสียงว่า การฆ่าตัวตายมีผลเสียมากขนาดไหน จากหญิงสาวผู้มีหน้าตาสะสวย กลับต้องมาเผชิญชีวิต ที่ทำให้เธอเเละครอบครัวต้องเสียใจ เเต่ก็นับว่าในวิกฤตเราก็ได้เห็นน้ำใจของเพื่อนมนุษย์อย่าง adrea เเละยายของเธอที่ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า การเสียสละร่างกายของตนหลังเสียชีวิตนั้นสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขนาดไหน...
ต้องขอยอมรับว่า การเขียนบทความครั้งนี้ ทำให้ผมทั้งทึ่งเเละปลาบปลื้มจนน้ำตาซึม ทั้งความก้าวหน้าของเเพทย์เเละน้ำใจของมนุษย์หากใครอยากอ่านฉบับเต็มสามารถหาได้ที่
นิตยสาร National geographic
เเละลิ้งค์วิดีโอด้านล่างนี้เลย
บทความนี้เขียนโดย @น๊อต
ถ้าชอบบทความของพวกเราก็กดติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
อ้างอิงข้อมูลเเละภาพประกอบจาก
-นิตยสาร national geogarphic ฉบับภาษาไทย
โฆษณา