10 พ.ค. 2019 เวลา 06:08 • ไลฟ์สไตล์
ระดับของกล้อง DSLR และ มิเรอร์เลส
แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย
1. กล้องระดับเริ่มต้น (Entry level) สำหรับมือใหม่ทั่วๆไป น้ำหนักเบา ฟังก์ชั่น​ครอบคลุมครบครันสำหรับการถ่ายภาพพื้นฐานทั่วไป มีราคาที่ค่อนข้าง​ถูก
www.google.com
ในรูปคือ Canon EOS 1100D ราคาค่อนข้าง​ถูก ใช้งานได้ดี น้ำหนักเบา ส่วนมิเรอร์​เลส​ก็จะมีอาทิเช่น Fujifilm X-A2, Olympus OM-D EM10 เป็นต้น
2. กล้องระดับกึ่งมืออาชีพ (Semi-pro level) ประสิทธิภาพจะสูงกว่ากล้องระดับเริ่มต้น โครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น มีน้ำหนักมากกว่า ความเร็วดีกว่า โหมดการทำงานใกล้เคียงกล้องโปร มีระบบการทำงานหลากหลาย ราคาแพงกว่ารุ่นที่เป็น New Entry Level อยู่เกือบ 1 เท่า
www.google.com​
ในรูปคือกล้อง Canon EOS 80D เป็น DSLR ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย และมีน้ำหนักมากกว่าตัว 1100D เมื่อข้างต้น มีเซนเซอร์​ที่มีความละเอียดที่สูงกว่า และวัสดุที่มีความแข็งแรงมากกว่า ฝั่งมิเรอร์​เลส​ก็มีเป็น Olympus OM-D​ EM5 เป็นต้น
3. กล้องระดับมืออาชีพ (Pro level) ประสิทธิภาพสูง บอดี้ใหญ่ แข็งแรง มีชีลกันน้ำกันฝุ่น สามารถลุยได้ทุกงาน ระบบการทำงานเต็มรูปแบบ เหมาะกับการใช้งานแบบมืออาชีพ เซนเซอร์มีขนาดใหญ่ เท่ากล้อง 35mm (Full rame) เซนเซอร์​จะมีความละเอียดสูง มีการปรระมวลผลที่รวดเร็ว จะมีราคาสูงที่สุดในกลุ่ม
www.google.com​
ในรูปเป็นกล้อง Canon 1DX ซึ่งราคาสูงมาก แต่ฟังก์ชั่น​การทำงาน​ถึงว่าจัดเต็ม เหมาะกับอาชีพช่างภาพในทุกๆรูปแบบ ฝั่งของทางมิเรอร์​เลส​ก็จะมี เช่น Sony a7r, Olympus OM-D EM1x เป็น​ต้น
ไม่ว่าจะใช้กล้องรุ่นไหน หรือกำลังมีแพลนจะซื้อกล้อง อยากให้คำนึงถึงงบประมาณ​และการใช้งานที่เหมาะสมกับตัวผู้ใช้งานเองมากกว่า เพราะปัจจุบัน​นี้ไม่ว่าจะกล้องประเภทไหน ระดับใด ก็ได้ภาพออกมาดีมากอยู่แล้ว ประสิทธิภาพ​ก็อยู่ในเกณฑ์​ที่ดีมาก แต่อาจจะต่างที่วัสดุ​ในการประกอบ เซนเซอร์​ และฟังก์ชั่นการใช้บางตัวเท่านั้น
โฆษณา