10 พ.ค. 2019 เวลา 12:03 • กีฬา
แรงบันดาลใจจากทีมแห่งปาฏิหารย์
ในที่สุด คู่ชิงชนะเลิศถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ประจำปี 2019 ก็ถูกมอบหน้าที่ให้ "ทีมแห่งปาฏิหาริย์" บรรเลงความมันที่ สังเวียนหมีแพนด้าแห่งใหม่ "วานด้า" หรือ "ว่านต๋า เมโตรโปรลิตาโน ณ กรุงมาดริด (ว่านต๋า สำเนียงจีน มาจาก ว่านต๋ากรุ๊ป สปอนเซอร์จีนรายใหญ่ของสโมสรแอตเลติโก มาดริด)
ทั้งท็อตแนม ฮอตสเปอร์สและลิเวอร์พูลอาจไม่ใช่คู่ในฝันของแฟนบอลยุโรป โดยเฉพาะแฟนบอลสเปน แต่พวกเขาคือฮีโร่ของชาวอังกฤษและสมาคมฟุตบอลที่คงนั่งหน้าบานอยู่ในเวลานี้
เส้นทางจากเกาะอังกฤษสู่สเปนของทั้งคู่ไม่ถูกโรยด้วยดอกคาร์เนชั่นสีแดง พวกเขาคือ "ทีมกลางตาราง" ระดับยุโรป ที่ต้องใช้ความเชื่ออย่างมากที่จะบอกว่าพวกเขาจะกรุยทางผ่านทีมอย่าง บาร์เซโลน่า อินเตอร์มิลาน ปารีสฯ นาโปลี ดอร์ทมุนด์ บาเยิร์นมิวนิค แมนซิตี้ ปอร์โต้ อาหยักซ์ สู่รอบชิงชนะเลิศ
แต่ที่สุดแล้ว พวกเขาก็ทำได้ ชนิดดราม่าเรียกเรตติ้งสุด ๆ
**********
บางคนเรียกพวกเขาว่า คู่ชิงปาฏิหารย์ บางคนบอกว่า เพราะพวกเขาใจสู้ต่างหาก จะด้วยหัวใจ โชคชะตา ความศรัทธา หรืออะไรก็แล้วแต่ การมายืนอยู่ ณ ตรงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
และเส้นทางฟุตบอลของพวกเขากำลังมอบคุณค่าแห่งชีวิตให้แฟนบอลอย่างเราโดยไม่รู้ตัว
**********
จงอย่าละทิ้งตัวตน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่ลิเวอร์พูลก้าวมาลุ้นดับเบิ้ลแชมป์ใหญ่ได้ เกิดจากการปฏิวัติแนวรับของ Jurgen Klopp แต่ก็ปฏิเสธไม่ลงอีกเช่นกันว่า แชมป์พรีเมียร์ลีกของเขามีโอกาสจะหลุดมือไปอีกครั้ง เป็นเพราะความไม่กล้า "เป็นตัวเอง" ในบางเกม ที่ชัดที่สุดคือเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาไม่กล้าสั่งลูกทีมเปิดเกมรุกใส่ปีศาจแดงที่กำลังไร้เรี่ยวแรงและอยู่ในช่วงขาลง เกมจบแบบแกงจืดเก็บได้แค่ 3+1 คะแนน ในขณะที่คู่แข่งแย่งแชมป์ไม่สนใจ เปิดเกมรุกลุยแหลก เก็บ 6 คะแนนเต็มจากอริร่วมเมือง พร้อมลูกได้เสียตุนไว้อีก 4 ประตู
เช่นเดียวกับถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกเลกแรก Jurgen Klopp เลือกที่จะให้โอกาส Joe Gomez หนึ่งคือให้เวลาลงสนาม สองคือไอเดียเรื่องเกมรับที่แน่นอนกว่า ผลคือ Jordi Alba เติมเกมสบายเท้าจนทำแอสซิสต์ได้
ต่อมาเจ้าหนู Trent ถูกส่งลงสนามใน Impossible เกม เลกสอง เขาวิ่งกดดันในพื้นที่ของ Alba จนเกิดความลนลาน ทำพลาดไปสู่การเสียประตูถึงสองครั้ง
ฝั่งบาร์เซโลน่านั้นน่าเจ็บใจกว่า พวกเขาต้องการเพียงประตูเดียวเพื่อเข้ารอบ แต่กลับใจอ่อนแอ ส่งแบ็กขวาลงมาเพิ่มในขณะที่ลิเวอร์พูลต้องยิงเพิ่ม 2-3 ประตู หวังให้พระเจ้า Messi ดลบันดาลในขณะที่อีก 7-8 คนเล่นเกมรับ พระเจ้านี่มันบาร์เซโลน่าหรืออาร์เจนติน่า
ลิเวอร์พูลเสมอมากเกินไปในเกมที่บุกไม่เต็มที่ บาร์เซโลน่าตกรอบแบบเดิมสองปีติดแล้ว
"เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แต่เราไม่สามารถละทิ้งอัตลักษณ์ได้" นี่คือบทเรียนแรกจาก ลิเวอร์พูล - บาร์เซโลน่า
**********
จงทำหน้าที่ แม้ในวันที่ชีวิตบัดซบที่สุด
Sturridge เจ็บยันนิ้วโป้ง Trent เด็กเก็บบอล Origi ศูนย์หน้ายอดแย่บุนเดสลีกา Gini กองกลางตกชั้น Shaqiri เมสซี่สวิสแต่ยุโรปเมิน Matip ผู้ถูก Gomez เด็กที่เจ็บเป็นปีผลักไปเป็นตัวเลือกที่ 3 Salah ปีกล้มเหลวพรีเมียร์ลีก Robertson นักเตะตกงาน Firmino ทีมชาติไม่รัก โค้ชสโมสรก็ไม่ได้อยากได้ และ Henderson กัปตันแฟนบอลยี้เคยถูกบอกให้ย้ายทีม
ทั้งหมดนี้กำลังเล่นให้ลิเวอร์พูล สโมสรที่เคยเกือบล้มละลาย และโดนงาบตัวที่ปั้นจนเก่งไปทุกที
ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกครั้งสุดท้ายปี 1990 ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ที่ไม่มีพรีเมียร์ลีกปี 2001 ได้ถ้วยยุโรปใหญ่ปี 2005 ในรอบ 21 ปี พลิกตายได้เอฟเอคัพปี 2006 หลังจากนั้นก็ไปจนถึงจุดเกือบตกชั้นและล้มละลาย FSG ให้ King Kenny Dalgish มากู้ทีมจนได้แชมป์ลีกคัพในปี 2012 และนั่นคือถ้วยรางวัลสุดท้ายล่าสุดของหงส์แดง
ในวันที่ Jurgen Klopp เข้ามาคุมทีม ความเชื่อมั่นของนักเตะลิเวอร์พูลและแฟนบอลตกต่ำมาก ไม่มี Luis Suarez ไม่มี Steven Gerrard ไม่มี Daniel Agger เหลือความหวังแค่ Lucas Leiva Daniel Sturridge ร่างเปราะ และดาวรุ่ง Phillipe Coutinho
แต่ Klopp ที่ยังไม่ได้ซื้อใคร กลับบอกว่าเขาเลือกเพราะลิเวอร์พูลมี Roberto Firmino Christian Benteke Emre Can นักฟุตบอลที่เขาเคยอยากได้ มี Adam Lallana และ Lucas Leiva ที่เข้าใจการเพรสซิ่ง และมีกัปตันที่ดีอย่าง Jordan Henderson
การเข้าชิงลีกคัพและยูโรป้าในปี 2016 เกิดจากหัวจิตหัวใจที่เชื่อมั่นในผู้จัดการทีม ทั้ง ๆ ที่ต้นฤดูกาล ทีมยังต้องให้ความหวังตัวเองไปวัน ๆ กับความไม่แน่นอนของ Mario Balotelli อยู่เลย
Klopp เองก็เคยช่วงเวลาที่แสนบัดซบก่อนอำลาสโมสรดอร์ทมุนด์ จากฮีโร่กลายเป็นซีโร่ของทีม ผู้จัดการทีมที่กำลังพักใจก็รับงานร้อนคุมสโมสรที่ต้องการพลังใจ ไม่น่าเชื่อว่า กลุ่มคนที่เคยมีชีวิตบัดซบเมื่อรวมตัวกันแล้ว จะสร้างประวัติศาสตร์ให้ทีมได้
"รักษาร่างกาย รักษาทัศนคติ สะสมทักษะ และอดทน" จะช่วยให้เราเอาตัวรอดจากชีวิตที่ล้มเหลว นั่นคือสิ่งที่ Klopp และลูกทีมของเขาแสดงให้เราเห็น
**********
เมื่อโอกาสมา ใจบอกว่าใช่แล้ว อย่าปล่อยมันไปง่าย ๆ
เป็นเรื่องน่าภูมิใจสำหรับ the COYS ที่ทีมรักของพวกเขามาถึงจุดสูงสุดของยุโรป หลังจากที่ต้องเก็บหอมรอมริบงดซื้อนักเตะใหม่เพื่อไปลงทุนกับ Tottenham Hotspur Stadium (ความจุกว่า 62,000 ที่นั่ง)
แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องของการมี Mauricio Pochettino อยู่ในทีม ผลมันเกิดเพราะรากฐานที่พวกเขาสร้างมาหลายปีก่อน เป็นช่วงเวลาที่น่าอิจฉาเลยทีเดียว
ค่าตัวสูงสุดที่ท็อตแน่มเคยจ่ายคือ 36 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาสามารถปล่อย Kyle Walker ได้ถึง 50 ล้านปอนด์ แถมยังวางแผนสร้างตัวแทนอย่าง Kieran Trippier ได้ทันทีเลย
และเมื่อมองไปที่นักเตะอย่าง Christian Eriksen, Dele Alli, Hugo Lloris, Son Heung-min, Jan Vertonghen, Toby Alderweirald, Kieran Trippier, Fernando Llorente, Erik Lamela, Lucas Mura, Davinson Sanchez เราก็พูดได้ว่า โอ้โห พวกเขาสะสมนักเตะดี ๆ ไว้ขนาดนี้ได้ยังไง
ความไม่ลังเล เดินเกมเงียบแต่จับโอกาสอยู่หมัด คือคีย์ของทีมซื้อขายไก่เดือยทอง ถ้าจำกันได้ แฟนบอลทีมอื่นเคยบ่นงึมงำในวันที่มีข่าวว่า Eriksen ย้ายไปสเปอร์สด้วยราคา 11 ล้านปอนด์ และควัก 6 ล้านปอนด์จ่ายให้เอ็มเค ดอนส์เพื่อลงทุนกับอนาคตของ Alli ในขณะที่ทีม TC ของลิเวอร์พูลทำให้ Brendan Rodgers ต้องหัวเสีย ส่วน Arsene Wengers ก็ได้แต่ออกมาพูดทีหลังว่า เคยเกือบได้ CR7 หรือ Ronaldinho แต่ก็แค่เกือบ
การที่ลิเวอร์พูลของ Jurgen Klopp เข้าถึงรอบชิง UCL ได้ปีแรก ก็เป็นเพราะว่าพวกเขากล้าจ่ายสูงสุดให้ Virgil van Dijk (ที่ใจลอยมาก่อนแล้ว) และปีที่สอง การคว้า Alisson Becker ในวันที่เรอัล มาดริดไม่เอาและเชลซีลังเล ก็ช่วยเซฟจนเก็บคลีนชีตจากทีมอย่างบาร์เซโลน่าได้สำเร็จ
ที่สำคัญ หากสเปอร์สไม่เซ็น Poch และลิเวอร์พูลไม่คว้า Klopp ปัจจุบันของทั้งสองทีมจะอยู่ตรงจุดไหน ใครจะไปกล้าเดา
"เวลาจะจีบสาว ดูท่าทีแล้วพอมีใจก็ลุยไป ถึงจะแห้วก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว (ดูไม่ดี สามีเธอต่อยร่วง) - ท่อนนี้ Klopp ไม่ได้สอนไว้
**********
รู้จักจังหวะชีวิต
ทำไมวิศวกรถึงใส่เบรกเคียงข้างคันเร่งในรถยนต์ คำตอบง่าย ๆ เพื่อไม่ให้คนขับตายก่อนถึงที่หมาย
ลิเวอร์พูลในอดีตนั้น แม้แต่ในช่วงแรกที่ Klopp มาคุมทีม เป็นทีมที่ควบคุมจังหวะได้ห่วยแตก จนทำให้พลาดแชมป์อย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ ในเกมชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกกับเซบีญ่า พวกเขาใส่ทุกอย่างและสามารถซัดขึ้นนำได้ตั้งแค่ครึ่งแรก
โมเมนตัมนั้น ใครก็คิดว่าครึ่งหลังจะไหลเพิ่ม ยูโรป้าลีก แชมป์แรกในรอบ 4 ปีกำลังจะมาพร้อม Jurgen Klopp
แล้วนรกก็มาเยือนพวกเขาในครึ่งหลัง เซบีญ่าของ Unai Emery ตีเสมอ ลิเวอร์พูลช็อตและแรงหมดจนโดนเอาคืนม้วนเดียวจบ Heavy Metal มั้ยล่ะครับ
เกมระหว่าง ท็อตแนมป์และอาหยักซ์ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่มีเหตุผลเลยที่นักรบสีส้มจะตกรอบ พวกเขาเก็บอะเวย์โกล์ได้ในเลกแรก เลกสองก็ขึ้นนำถึง 2 ประตู
แต่พวกเขาอาจยังเด็กเกินไป ประสบการณ์น้อยเกินไป เมื่อขึ้นนำ ก็อัดพลังหนุ่มใส่เข้าไปอีก เมื่อไม่สามารถยืนระยะทางกายและใจได้ถึง 90 นาที สเปอร์สก็พลิกนรกแซงเข้ารอบเฉย
ตัว Klopp นั้นแสดงออกถึงประสบการณ์ด้านนี้ในเกมเลกสองกับบาร์เซโลน่า แม้จะขึ้นเร็วตั้งแต่นาทีที่ 7 เขาก็รู้ว่า เกมยุโรปไม่ได้จบใน 45 นาที เห็นได้ชัดว่านักเตะลิเวอร์พูลเริ่มผ่อนเกมก่อนหมดครึ่งแรก ให้เกมมันช้าลงเพื่อลดโอกาสที่จะโดนฤทธิ์เดชของบาร์เซโลน่า
ต้นครึ่งหลังพวกเขาเร่งเกม และ Gini ก็ทำให้โมเมนตัมเปลี่ยน หลังจากประตูที่สาม พวกเขาลดความเร็วลง ลดความเสี่ยงที่จะเสียบอลลง และเริ่มหาวิธีทำประตูแบบเน้น ๆ
"ประเมินตนเองอยู่เสมอ เร่งเมื่อเห็นโอกาส ช้าลงบ้างเมื่อต้องการความแน่นอน" ชีวิตจะไปได้อีกยาว
**********
จงบินขึ้นฟ้าอย่างเครื่องบิน อย่าสว่างวาบแล้วดับไปอย่างดอกไม้ไฟ
มันดูเป็นเรื่องแปลก แต่มันคือความจริงอันน่าสะพรึง ตารางคะแนนบอกไว้ว่า หลังจากได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ปีถัดไปลิเวอร์พูลจะหลุดท็อปโฟร์
เป็นเรื่องยากที่จะชี้ชัดถึงสาเหตุของสถิตินั้น บางทีอาจจะมีคนทำวิจัยไว้ เราจะไปดูเรื่องที่ตื้นและง่ายที่สุด "การซื้อ-ขายนักเตะ"
เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อสโมสรมีโอกาสจะขึ้นสู่จุดสูงสุดแต่ทำไม่ได้ พวกเขาจะมองไปที่การปรับทัพเพื่อทำให้ทีมบินสูงกว่าเดิม หลังจากได้รองแชมป์ปี 2002, 2009, 2014 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในซัมเมอร์หลังสิ้นสุดฤดูกาล
ปี 2002 (จบที่ 5) - ปล่อย Nick Barmby, Jari Litmanen, Stephen Wright
นำเข้า El Hadji Diouf, Salif Diao, Bruno Cheyrou, Alou Diarra
ปี 2009 (จบที่ 7) - ปล่อย Xabi Alonso, Alvaro Arbeloa, Samu Hyypia, Jermaine Pennant, Dossena, Voronin
นำเข้า Alberto Aquilani, Glen Johnson, Sotirios Kyrgiakos, Maxi Rodríguez
ปี 2014 (จบที่ 6) - ปล่อย Luis Suarez, Conor Coady, Pepe Reina, Daniel Agger, Suso
นำเข้า - Adam Lallana, Rickie Rambert, Emre Can, Lazar Markovic, Dejan Lovren, Divock Origi, Alberto Moreno และ Mario Balotelli
ความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อของทั้ง 3 ปีกับ 3 ผู้จัดการทีมคือ ไม่มีความสมดุลระหว่างการนำเข้าและปล่อยนักฟุตบอล นั่นทำให้เครื่องที่มันควรจะร้อนได้ที่ เกิดอาการกระตุก เกียร์ค้าง เครื่องสะดุด เพลาหัก สลักหาย
ทีมที่เคยพุ่งขึ้นจุดสูงสุดอย่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส(หล่นไปที่ 7) และ เลสเตอร์ ซิตี้(ที่ 12) ก็เจอปัญหาเดียวกัน พวกเขามีโคตรคีย์แมนที่แบกทีมสู่ยอดเขา และเมื่อต้องเสียคนเหล่านั้นไป ก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงให้กลับขึ้นไปอีกรอบแล้ว
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเหล่านี้มีสภาพเป็นดอกไม้ไฟก็คือ รากฐานที่ไม่แข็งแรงพอจะรับมือกับฟุตบอลยุโรป ไม่มีทีมใดหรอกที่จะขอไปลองสนามในการแข่งขัน เมื่อได้ลงแข่งในระดับสูงสุดของโลกแล้ว ก็ต้องทำให้มันเต็มที่สักครั้ง และขนาดทีมที่ไม่ใหญ่พอย่อมส่งผลกระทบกันเป็นทอด ๆ
สำหรับ Klopp และ Pochettino หนึ่งสิ่งที่พวกเขาพยายามทำมาตลอดหลายปีที่ลุ้นแชมป์แรก คือการสร้างทีมที่จะไม่เสียตัวหลักไป ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เขาทั้งคู่ก็สามารถคงไว้ซึ่งระบบทีมได้ตลอดมา (ไม่ใช่ว่าเสียกองหน้า หาคนแทนไม่ได้ เปลี่ยนระบบใหม่)
มนุษย์เรามักมองเป้าหมายแบบกราฟเส้นตรง ความร่ำรวย สุขภาพ ความสำเร็จ เราล้วนอวางเป้าหมายให้ทุกสิ่งอย่างพุ่งขึ้นจุดสูงสุดให้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว คนที่จะยืนอยู่บนที่สูงอย่างมั่นคง คือคนที่มองรากฐานและความต่อเนื่องมาก่อน เหมือนกับเครื่องบินที่ต้องค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงเพื่อที่จะบินบนท้องฟ้าได้ตลอดเส้นทาง ไม่พุ่งขึ้นสูง สวยงาม แล้วร่วงหล่นแบบดอกไม้ไฟ
การพลิกเกมจากท็อตแนมป์และลิเวอร์พูล เรียกว่า ปาฏิหารย์ ได้เต็มปาก แต่ปาฏิหารย์นั้นจะไม่คงอยู่สำหรับพวกเขาเลย หากยอมยกธงขาวไปตั้งแต่วันที่รู้ว่า "เป็นไปไม่ได้"
โฆษณา