13 พ.ค. 2019 เวลา 02:14 • สุขภาพ
ไอเดียการกินเพื่อนสุขภาพ ไดเดียการใช้เพื่อสุขภาพ
น้ำตะไคร้.....ดักหวัด ดักไข้
ข้อควรระวัง !!
ทำให้เสี่ยงแท้งได้ หญิงให้นมบุตรไม่ควรทาน
(สามารถกดอ่าน​โพสต์​ได้น้าา)​
เครื่องดื่มสมุนไพรโบราณ ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ชนิดหนึ่งก็คือ น้ำตะไคร้ ซึ่งมีทั้งความอร่อย หอม
รวมถึงประโยชน์ที่ผู้ดื่มได้รับนั้น ถือได้ว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ แถมยังหาวัตถุดิบในการทำก็ง่ายแสนง่าย
ต้มดื่มได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus จัดอยู่ในวงศ์หญ้า (POACEAE)
ตะไคร้จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม
เป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด
ได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปในบ้านเรา
มีถื่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ศรีลังกา และไทย
ตะไคร้เป็นทั้งยารักษาโรคและยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ฯลฯ
ช่วงนี้ อากาศเริ่มเปลี่ยน ชวนทุกท่านมาทำเครื่องดื่มสมุนไพร เก็บเอาไว้ดื่มรับประทานเพื่อใช้ดักโรค เสริมภูมิคุ้มกันไว้ก่อน ดีกว่าปล่อยให้เป็นแล้ว ค่อยทานยาเสียอีก....ว่ามั้ยคะ?
ตะไคร้ เป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยเรารู้จักกันดี มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย นอกจากนำมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารแล้ว
ยังเป็นส่วนผสมของเครื่องแกงต่าง ๆ สุดโอชะ เช่น ต้มยำ , ต้มโคล้ง , แกงไตปลา , ยำตะไคร้ แทบทุกส่วนของตะไคร้ สามารถนำมาใช้งาน
- หัวตะไคร้..... ขับเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด แก้นิ่ว แก้อาการปัสสาวะขัด
- ราก.... เป็นยาแก้ไข้ ท้องเสีย หรือปวดท้อง
- ใบสด..... ช่วยลดความดันโลหิตสูง หรือตัดเอาแต่ใบมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำ ฉีดพ่นต้นไม้ สามารถไล่แมลงได้เป็นอย่างดี
- ลำต้น..... เป็นยาขับเหงื่อ ขับลมในลำไส้ แก้ผมแตกปลาย แก้เบื่ออาหาร อีกทั้งยังแก้โรคทางเดินปัสสาวะได้ดีอีกด้วย
ส่วนสำคัญที่สุดที่เราจะได้รับจากตะไคร้....ก็คือ น้ำมันหอมระเหยเนี่ยแระค่ะ ที่เป็นตัวดับ ดัก และไล่โรคต่าง ๆ ได้ชะงัดทีเดียวเชียว
แทบทุกปี...ตะไคร้ที่ปลูกเอาไว้ สามารถตัดเก็บมาได้มากมาย พออากาศเริ่มเปลี่ยนทีไร.เป็นได้จัดการต้มน้ำตะไคร้หม้อใหญ่
เพื่อบังคับให้คนในบ้านได้ดื่มรับประทานดักหวัดกันไว้ก่อนเป็นประจำ แต่จะต้มเฉพาะเป็นครั้ง ๆ ไปนะคะ
ไม่นิยมต้มแล้วเก็บแช่ตู้เย็นเอาไว้นานหลาย ๆ วัน เพราะสรรพคุณทางยาจะลดลงไปเรื่อย ๆนะ
สรรพคุณของตะไคร้
1. มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ
2. เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร้)
3. มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร
4. ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (ต้น)
5. สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
6. แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
7. ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด)
8. ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)
9. น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้สามารถบรรเทาอาการปวดได้
10. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
11. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)
12. ใช้เป็นยาแก้อาเจียนหากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ (หัวตะไคร้)
13. ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)
14. รักษาโรคหอบหืดด้วยการใช้ต้นตะไคร้
15. ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)
16. ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)
17. ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง
18. ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)
19. ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร
20. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้
21. มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ
22. ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการและรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)
23. ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)
24. ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)
25. ช่วยรักษาอหิวาตกโรค
26. ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)
27. ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)
28. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
29. ช่วยแก้โรคหนองใน หากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ
ประโยชน์ของตะไคร้
1. นำมาใช้ทำเป็นน้ำตะไคร้หอม น้ำตะไคร้ใบเตย ช่วยดับร้อนแก้กระหายได้เป็นอย่างดี
2. ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
3. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
4. มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มสมาธิ
5. สามารถนำมาใช้ทำเป็นยานวดได้
6. ช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลาย (ต้น)
7. มีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการนอนหลับ
8. การปลูกตะไคร้ร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ จะช่วยป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี
9. นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของสารระงับกลิ่นต่าง ๆ
10. ต้นตะไคร้ช่วยดับกลิ่นคาวหรือกลิ่นคาวของปลาได้เป็นอย่างดี
11. กลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไล่ยุงและกำจัดยุงได้เป็นอย่างดี
12. เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จำพวกยากันยุงชนิดต่าง ๆ เช่น ยากันยุงตะไคร้หอม
13. สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น เครื่องปรุงอบแห้ง ตะไคร้แห้งสำหรับชงดื่ม นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น
14. มักนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ต้มยำ และอาหารไทยอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ
ไอเดียการใช้ตะไคร้เพื่อสุขภาพ
ประโยชน์ของตะไคร้เราสามารถนำมาใช้เพื่อบำบัดอาการทางร่างกายได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้บำบัดอาการต่างๆ ได้ดังนี้
1. ซ่อมแซมระบบประสาท หากนำตะไคร้มาทำเป็นน้ำมันหอมระเหยโดยผสมกับน้ำมัน Carrier oil แล้วนำมาใช้ทาลงบนผิวจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย หายจากการเป็นตะคริว เป็นการซ่อมแซมและบำรุงระบบประสาทได้เป็นอย่างดี
2. ช่วยรักษาอาการอักเสบ หากมีอาการอักเสบเกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ให้นำน้ำมันหอมระเหยตะไคร้มาทาบริเวณที่เกิดอาการปวด คุณสมบัติของตะไคร้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาอาการอักเสบจากอาการปวดต่างๆ ได้ เช่น ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ นับเป็นประโยชน์ของตะไคร้อีกข้อที่ไม่ควรมองข้าม
3. แก้อาเจียน วิธีทำให้นำตะไคร้มาตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำมาดื่ม น้ำตะไคร้จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ลดอาการเมาและช่วยแก้อาการอาเจียนลงได้ นอกจากนี้ ยังเป็นน้ำสมุนไพรที่ช่วยดับร้อน แก้กระหายน้ำได้ดี โดยอาจแปรรูปให้น่ารับประทานหรือทานง่ายมากขึ้น เช่น การนำไปอบแห้ง เพื่อใช้สำหรับเป็นเครื่องดื่มดื่มต่างน้ำชา
4. ไล่ยุงและแมลง ตะไคร้เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมไปทั้งต้น อีกทั้งเป็นกลิ่นที่ยุงและแมลงอย่างเช่นตัวริ้นไม่ชอบ ดังนั้น จึงสามารถนำมาไล่ยุงและแมลงได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ ตะไคร้ยังมีฤทธิ์ในการกำจัดลูกน้ำได้ดี หากนำไปปลูกรวมกับพืชชนิดอื่นจะสามารถไล่แมลงได้ ไม่เพียงเท่านั้น การนำน้ำตะไคร้มาผสมกับน้ำสะเดา แล้วนำไปฉีดพ่นพืชผักก็จะสามารถไล่แมลงที่จะมาทำลายพืชพรรณหรือต้นไม้ได้เช่นเดียวกัน
ไอเดียการกินตะไคร้เพื่อสุขภาพ
1. ชาตะไคร้ สามารถดื่มเพื่อลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็ง เริ่มจากนำตะไคร้และใบเตยมาล้างให้สะอาด หลังจากนั้นนำทั้งหมดลงใส่หม้อต้มจนเดือดซึ่งก็สามารถที่จะเติมน้ำตาลลงไปได้ หลังจากนั้นก็ลดไฟลงและต้มอีก 15 นาที แล้วจึงทิ้งเอาไว้ให้เย็น ก็สามารถนำมาดื่มเป็นชาตะไคร้เพื่อสุขภาพได้
2. น้ำตะไคร้แอปเปิ้ลเขียว เป็นเครื่องดื่มแก้อาการปวดตามข้อต่างๆ อย่างแรกต้มน้ำเปล่าพร้อมผสมเกลือ จากนั้นล้างตะไคร้และแอปเปิ้ลเขียว เมื่อล้างเสร็จแล้วต้องทุบบริเวณปลายโคนให้แตก และหั่นแอปเปิ้ลเป็นซีก เมื่อน้ำเดือดจึงใส่ลงไปพร้อมกันต้มจนเดือดอีกรอบ แต่สามารถที่จะปรุงน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติได้
3. เมี่ยงข่า เครื่องเคียงที่คล้ายคลึงกับน้ำพริก โดยโขลกข่า ตะไคร้ พริกแห้ง ใบมะกรูด หอมแดง เมื่อโขลกจนเข้ากัน ก็ปรุงรสโดยใส่น้ำปลาร้า น้ำมะขามเปียก น้ำตาล ผงชูรส คลุกจนเข้ากัน ก็สามารถนำมากินกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวได้เลย
4. ไก่คั่วตะไคร้ เมนูง่ายๆ กินได้ทั้งครอบครัว อย่างแรกเริ่มจากการโขลกรากผักชี พริกไทย ตะไคร้ กระเทียม หลังจากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมัน เมื่อร้อนแล้ว จึงใส่ตะไคร้ซอยลงไปคั่วจนมีสีเหลืองกรอบแล้วจึงตักขึ้น นำไก่ลงไปผัด ปรุงรสโดยใส่น้ำตาลทราย และสมุนไพรที่โขลกเตรียมเอาไว้ หลังจากนั้นผัดจนมีกลิ่น ตักใส่จานเสิร์ฟโรยด้วยตะไคร้ที่นำลงไปทอดครั้งแรก
5. ยำตะไคร้กุ้งสด เมนูสุดแซ่บที่ทำได้ง่ายๆ อย่างแรกเริ่มจากการลวกกุ้ง เสร็จแล้วเตรียมน้ำยำ โดยละลายน้ำตาลปี๊บด้วยไฟอ่อน หลังจากนั้นเติมน้ำปลา หอมแดง และกุ้งแห้ง เคี่ยวจนเข้ากันยกขึ้นใส่ถ้วย เสร็จแล้วนำพริก หอมแดง มะนาว และน้ำปลาหวานที่ปรุงไว้ เมื่อคนจนเข้ากันใส่ตะไคร้ซอย กุ้งแห้งทอด และกุ้งลวกลงไปคลุกให้เข้ากันค่อยตักเสิร์ฟ
6. ดับกลิ่นคาวปลาและเนื้อสัตว์ ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำไปประกอบอาหารจำพวกเนื้อปลาก็จะช่วยลดกลิ่นคาวปลาได้เป็นอย่างดี เช่น เมนูปลานึ่ง ปลาต้ม ดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์อื่นๆ เพิ่มความหอมให้เมนูจานนั้น และยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้เจริญอาหารมากขึ้น จัดว่าเป็นยาบำรุงธาตุอีกตัวหนึ่งที่ดีเลยทีเดียว
ข้อควรระวังของตะไคร้
1.ทำให้เสี่ยงแท้งได้
เพราะตะไคร้มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว ดังนั้นคนที่กำลังตั้งครรภ์จึงไม่ควรกินตะไคร้เด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบตัวอย่างรุนแรงจนเสี่ยงต่อการแท้งได้ในที่สุด โดยเฉพาะในคนที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ และท้องแก่ใกล้คลอด นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ก็ไม่ควรใช้เช่นกัน
2.อันตรายกับผู้ป่วยโรคบางชนิด
ในผู้ที่ป่วยโรคประจำตัวบางชนิด ก็อาจเป็นอันตรายจากการกินตะไคร้ได้เช่นกัน ดังนั้นสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังป่วย ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนว่าสามารถกินตะไคร้ได้หรือไม่ จะได้ไม่เกิดอันตรายจากการกินตะไคร้โดยไม่รู้นั่นเอง
3.หญิงให้นมบุตรไม่ควรทาน
ความจริงแล้วยังไม่มีการวิจัยที่แน่ชัด ว่าการกินตะไคร้ในหญิงที่ให้นมบุตร จะก่อให้เกิดผลเสียใดๆ หรือไม่ ดังนั้นแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกินตะไคร้ในระหว่างที่กำลังให้นมบุตร
ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณแม่เองและทารกที่จะได้รับสารอาหารต่างๆ ผ่านทางน้ำนมแม่ด้วย
ตะไคร้เป็นพืชผักสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ใส่คู่กับเมนูอาหารจานไหนก็ทำให้เมนูนั้นๆ ยิ่งทวีรสชาติและมีกลิ่นหอมเย้ายวนชวนน่าทาน
นอกจากนี้ ประโยชน์ของตะไคร้ยังมีดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการกินตะไคร้ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน โดยเฉพาะในคนท้องที่อาจเป็นอันตรายจากการกินตะไคร้ได้ง่าย เพราะฉะนั้นในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการกินตะไคร้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคนท้อง แม่ให้นมลูก
หรือผู้ป่วยด้วยโรคบางชนิด เป็นต้น
วิธีทําน้ําตะไคร้ใบเตย (หอมด้วยกินง่ายอีกน่ะ)
น้ำตะไคร้​ใบเตย
1. น้ำตะไคร้การทําน้ําตะไคร้ใบเตยนั้นอย่างแรกให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ ตะไคร้ 2 ต้น / ใบเตย 3 ใบ / น้ำ 1-2 ลิตร / น้ำตาลแดง 2 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ก็ได้)
2. นำตะไคร้มาทุบให้แหลกพอประมาณ แล้วใช้ใบเตยมัดตะไคร้ไว้ให้เป็นก้อน
3. ใส่ตะไคร้และใบเตยลงไปในหม้อแล้วเติมน้ำ 1 ถึง 2 ลิตร แล้วต้มให้เดือดสักประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จสำหรับวิธีการทําน้ํา ตะไคร้
4. โดยตะไคร้และใบเตยชุดเดียวกัน สามารถเติมน้ำต้มใหม่ได้ 2-3 รอบ แต่รสอาจจืดจางลงไปบ้าง นำมาดื่มแทนน้ำช่วยเพิ่มความสดชื่น แถมช่วยบำรุงสุขภาพอีกด้วย
สามารถ​อ่านสรรพคุณ​ของใบเตยได้ที่นี่​ https://www.blockdit.com/articles/5cd5a6c91b34812546ff0696
ดูแลรักษา​สุขภาพ​ด้วยนะค่ะ
ปรารถนาดี​จาก "มนุษย์​ขาดผัก"
#นิสัยรักสุขภาพทำให้คนข้างๆสุขภาพดีไปด้วย
#นิสัยรักสุขภาพ เป็นโรคติดต่อชนิดใหม่
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)
โฆษณา