การคิดหาสาเหตุ ปรัชญาในหนังสือ "รีพับลิค" กล่าวว่า "คนส่วนใหญ่
จะมองเห็นแค่กลุ่มภาพและเงาที่เห็นบนผนังถ้ำ แต่จะไม่มี
ผู้ใดใส่ใจที่มองหาดันกำเนิดแห่งภาพ การเข้าใจโลกแห่งความ
เป็นจริงต้องมองหารูปแบบ (forms) ซึ่งอาจอยู่นอกเหนือประสบการณ์ที่เคยได้รับ" แนวคิดเช่นนี้มีอิทธิพลต่อปรัชญาตะวันตกอย่างมาก สิ่งต่างๆที่มองเห็นอาจไม่ไช่สิงที่เป็นจริง จึงอาจใช้ทฤษฎีเพื่ออธิบาย
ส่งผลให้เกิดวิชาวิทยาศาสตร์แยกตัวออกจากปรัชญา
สำหรับเพลโต ความรู้นั้นคือการสามารถเข้าถึงธรรมชาติอันเป็นที่มาที่สำคัญของสรรพสิ่งที่เขาเรียกว่า“แบบ” (Forms) ได้ โดยนักปรัชญานั้นเป็นผู้ที่เข้าถึง “แบบ” และเป็นผู้ที่มีความรู้ที่แท้จริง สำหรับพวกช่างต่างๆ เช่น ช่างทำเตียงนั้นก็มีความรู้ แต่เป็นความรู้ที่เลือนราง คือในทางปฏิบัติพวกช่างก็จะมีความรู้ในสิ่งที่เขาทำ คือรู้ว่าจะต่อเตียงได้อย่างไร แต่พวกเขาไม่ได้มีความรู้ในลักษณะที่จะอธิบายและให้เหตุผลได้ว่าเพราะเหตุใดทำไมจึงต้องทำในลักษณะนั้น สำหรับศิลปินนั้นยิ่งรู้น้อยกว่าพวกช่าง เพราะเขาเพียงแต่เลียนแบบหรือทำให้ดูเหมือนสิ่งที่ช่างไปเลียนแบบมา หากดูตามผังข้างล่างที่เพลโตพูดถึงความรู้ 3 ระดับ คือ
1. นักปรัชญา เข้าถึง “แบบของเตียง”
2. ช่างทำเตียง สร้างเตียง ด้วยการเลียนแบบ “แบบของเตียง”
3. ศิลปิน วาดภาพเตียง ด้วยการเลียนแบบเตียงที่ช่างทำเตียงสร้างขึ้นด้วยการ เลียนแบบ “แบบของเตียง” ซึ่งเป็นการเลียนแบบสิ่งที่เลียนแบบมาอีกทีหนึ่ง (imitation of imitation)