Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อยากบอกให้โลกรู้
•
ติดตาม
12 พ.ค. 2019 เวลา 02:58 • การศึกษา
อยากบอกให้โลกรู้ โลกร้อน ทำให้เราใกล้ "อดตาย"
พบหมีขาวขั้วโลกเสียชีวิตบนหมู่เกาะอาร์กติก สภาพผอมโซ คาดอดอาหาร-ไร้ที่อยู่หลังพื้นน้ำแข็งลดลงอย่างรวดเร็ว
เดลีเมล สื่อชื่อดังของอังกฤษรายงานว่า มีการค้นพบหมีขาวขั้วโลกในสภาพหนังหุ้มกระดูกบริเวณหมู่เกาะสวาลบาร์ด ในมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งเชื่อกันว่าหมีอดอยากอย่างหนัก จนทำให้เสียชีวิตในที่สุด
ดร. เอียน สเตอร์ลิง จากองค์กรโพล่าร์ แบร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
กล่าวกับ เดอะ การ์เดียนสื่ออังกฤษว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ระดับน้ำแข็งในทะเลที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้หมีไม่สามารถล่าแมวน้ำได้ และไม่สามารถหาอาหารได้เป็นระยะทางไกลถึง 150 ไมล์
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยจากสถาบันขั้วโลกของนอร์เวย์ ได้ทำการสำรวจหมีขาวในพื้นที่ทางใต้ของหมู่เกาะสวาลบาร์ดพบว่า
หมีขาวยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรงดี ทว่าในเดือน ก.ค. นักวิทยาศาสตร์กลับพบ ซากของหมีขาวทางเหนือของหมู่เกาะ ซึ่งห่างจากจุดเดิมที่เคยพบได้ในปีที่แล้วถึง 150 ไมล์ จากหลักฐานข้างต้นแสดงให้เห็นว่า หมีได้เดินทางเป็นระยะทางไกลเพื่อหาอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีรายงานของนักวิจัยในเดือน พ.ค. ระบุว่า ความสำเร็จในการออกลูกของหมีขาวได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำทะเลที่แข็งตัวช้าลง ซึ่งทำให้หมีต้องใช้เวลาอยู่บนพื้นดินมากขึ้น
เมื่อปี 2011 โซมาเลียเพิ่งเผชิญวิกฤตขาดแคลนอาหารครั้งเลวร้ายจากผลพวงของภาวะภัยแล้ง เป็นเหตุให้ประชาชนกว่า 13 ล้านคนได้รับผลกระทบ
ขณะที่เกือบ 260,000 คนต้องเสียชีวิตจากภาวะอดอยากในปีนั้น
คำแถลงล่าสุดขององค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติที่นำโดยกลุ่ม “เวิลด์ วิชัน” ระบุว่า ขณะนี้มีเด็กๆ ชาวโซมาเลียมากกว่า 300,000 คนกำลังล้มป่วยด้วยโรคขาดสารอาหาร
ขณะที่ประชาชนอีกกว่า 2.9 ล้านคนในดินแดนแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารและเวชภัณฑ์เพื่อรักษาชีวิตอย่างเร่งด่วนภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า
เขื่อนแห้งขอด-6 จังหวัดอีสานวิกฤติ
ภัยแล้งจ่อคอคนไทยส่อรุนแรงกว่าปีกลาย เหตุฤดูร้อนจากปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” มาเร็วกว่าทุกปี
ขณะที่ปริมาณฝนตกลดลง ต่ำกว่าค่าปกติเฉลี่ยรอบ 30 ปี ร้อยละ 5 ทำให้ไม่มีน้ำลงเขื่อนเตือน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างมีน้ำใช้การได้แค่ร้อยละ 9
ส่วนภาคอีสานตอนล่างน่าห่วงสุด 6 จังหวัด ไม่มีทั้งฝน และเขื่อนขนาดใหญ่กักเก็บน้ำ แนะประชาชน ใช้น้ำอย่างประหยัด งดทำนาปรังรอบ 2 ด้านนายกฯ ห่วงภัยแล้ง กำชับบริหารน้ำเร่งด่วน ตั้งศูนย์ฝนหลวง 5 ภูมิภาค 12 หน่วยปฏิบัติการปูพรม ทำฝนหลวง 1 มี.ค.-31 ต.ค.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ได้ปรับคาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ว่าหากลากยาวต่อเนื่องออกไปอีก 2 เดือนข้างหน้า คือราวเดือนก.ค. จากที่จะยุติในเดือนพ.ค. โดยผลกระทบก็น่าจะอยู่ในวงจำกัด
เนื่องจากยังไม่ถึงฤดูกาลเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวนาปี รวมถึงระดับความรุนแรงของภัยแล้งน่าจะลดน้อยลงกว่าในช่วงรุนแรงที่สุดในเดือนมี.ค.-เม.ย.
ผนวกกับฝนที่อาจมีมาบ้าง แม้ว่าจะยังเป็นภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนก.ค.-มิ.ย. ทำให้ในภาพรวมแล้วสภาพอากาศต่อจากนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะนับว่ายังคงแห้งแล้ง
ซึ่งแม้ผลจากภัยแล้งจะช่วยดันราคาข้าวและอ้อยให้ขยับขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมรายได้เกษตรกรที่เดิมก็แย่อยู่แล้วให้เผชิญความยากลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม หากเรายังคงคิดถึงตนเอง แต่ภายภาคหน้าการใช้ชีวิตของลูกหลานเราจะเป็นอยุ่อย่างไร
อ้างอิง
https://news.mthai.com/economy-news/729440.html
https://www.thairath.co.th/news/local/1510136
บันทึก
26
2
9
26
2
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย