12 พ.ค. 2019 เวลา 11:12 • ประวัติศาสตร์
ในสงครามโลกครั้งที่1 มาจนถึง นกอีมู ปืนกลเบาLewis ถือเป็นปืนกลที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการรบ แต่รู้หรือไม่ว่าการพัฒนาและเสนอขายปืนกลLewisนั้นมีอุปสรรคมากมายจนปืนLewisเกือบจะไม่มีโอกาสได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้แล้ว
ปืนกลLewis ถูกคิดค้นและพัฒนา โดยอดีตนายทหารสหรัฐนามว่า Isaac Newton Lewis ซึ่งเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย West Point ในปี 1880 และจบในปี 1884 ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งร้อยตรีประจำหน่วยป้องกันชายฝั่ง
ด้วยความสามารถที่มีอย่างเหลือล้นทำให้ Lewisได้ไต่เต้าขึ้นรับตำแหน่งสำคัญอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 1898 กองทัพสหรัฐได้พยายามปรับปรุงโครงสร้างและอาวุธในกองทัพ ทำให้พบว่าอาวุธของตัวเองล้าสมัยไปมากแล้วเมื่อเทียบกับทางฝั่งยุโรป
ทางกองทัพได้มอบหมายให้Isaac Lewis ออกเดินทางไปศึกษาวิทยาการต่าง ๆ จากทางยุโรป แล้วนำกลับมาใช้เพื่อปรับปรุงกองทัพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เขายังได้นำความรู้ที่ไปศึกษามาพัฒนาเป็นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การรบง่ายขึ้น เช่น เครื่องตรวจวัดระยะยิงของปืนใหญ่ และเสนอขายสิทธิบัตรเหล่านี้ให้กับทางรัฐบาล
แต่ความหวังของเขาต้องดับลงเมื่อเขาได้เจอกับตอชิ้นยักษ์ คู่อาฆาตที่เป็นก้างแทงคอเขาไปตลอดชีวิตการทำงานในสหรัฐอเมริกา
ข้อเสนอของLewis ถูกปฏิเสธโดย William Crozier เจ้ากรมสรรพาวุธในขณะนั้น ทำให้การเริ่มความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ดีนัก แถมยังแย่ลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเขาถูกCrozierตั้งกรรมสอบว่าหากำไรกับรัฐบาลด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง แต่Lewisก็พ้นจากข้อกล่าวหามาได้
จนกระทั่ง ปี 1910 บริษัท Automatic Arms Co. ได้เสนอให้Lewis ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งพันโท และผู้อำนวยการศูนย์ฝึก โรงเรียนปืนใหญ่ป้องกันชายฝั่ง ณ Fort Monroe รัฐVirginia ให้เข้ามาเพื่อช่วยปรับปรุงปืนกลของทางบริษัทซึ่งออกแบบโดย Samuel Neal McClean ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากความต้องการของบริษัท Automatic Arms Co. คือปืนกลเบาซึ่งสามารถใช้แรงคนแบกได้ แต่การออกแบบของMcCleanที่ใส่ทั้งระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศเข้าไปทำให้ปืนกลหนักเกินไป เกิดไอน้ำจนบังทัศนวิสัยในการยิง นอกจากนี้ยังมีความร้อนสะสมต่อเนื่องจนแหนบสปริงของปืนอ่อนจนยิงไม่ได้ในที่สุด
เมื่อเห็นถึงข้อเสียของปืนกล Lewis จึงเปลี่ยนการระบายความร้อนใหม่โดยการออกแบบครีบอลูมิเนียมให้ระบายความร้อนด้วยอากาศเพียงอย่างเดียว เปลี่ยนแหนบสปริงเป็นแบบนาฬิกา และออกแบบส่วนควบคุมการยิงใหม่จนปืนกระทัดรัดขึ้น ก่อนจะนำเข้าไปสาธิตให้กับทาง พลตรีLeonard Wood เสนาธิการสูงสุดของกองทัพบก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่น ๆ ได้รับชม ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
แต่ในการจะส่งอาวุธเข้าประจำในกองทัพได้นั้นต้องได้รับการทดสอบจากกรมสรรพาวุธและนั่นหมายความว่าปืนกลLewis กระบอกนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากสุดแค้นแสนรักอย่าง William Crozier เสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบคือไม่มีวัน
สุดท้ายนายLewisได้ขอร้องให้พลตรีLeonard Wood ทำการทดสอบปืนกระบอกนี้แทน ด้วยความหวังว่าตำแหน่งหน้าที่ของพลตรีจะกำราบความยโสของ Crozier ได้บ้าง แต่เขาคิดผิด
William Crozier ประกาศว่ากองทัพบกไม่มีอำนาจในการทดสอบอาวุธเอง การจะเอาอาวุธเข้าประจำการต้องผ่านการทดสอบและรับรองจากกรมสรรพาวุธเท่านั้น
แต่ความหวังของพันโทยังไม่หมดลงเมื่อ เจ้ากรมทหารสื่อสาร พลจัตวาJames Allen ได้รับอาสานำปืนกลเบาไปทดสอบเองอีกครั้ง โดยนำไปทดลองติดตั้งเป็นอาวุธหลักบนเครื่องบิน แต่Crozierก็ยังคงประกาศว่าการทดสอบต้องมาจากกรมสรรพวุธเท่านั้น เป็นอันว่าไม่ว่าจะบิ๊กคนไหนก็ไม่อาจทำให้นกแก้วCrozierพูดคำอื่นได้แม้แต่น้อย
เมื่อไม่สามารถเข็นปืนกลของตัวเองเข้ากองทัพได้ พันโทLewisพกพาความเจ็บช้ำและปืนรุ่นทดลอง 4 กระบอกมาเปิดตลาดยุโรปแทนโดยตั้งต้นที่เมือง Liege, Belgium แต่คนที่สนใจปืนของLewisอย่างจริงจังกลับเป็นรัฐบาลอังกฤษ
หลังการทดสอบปืนเสร็จสิ้นรัฐบาลอังกฤษเสนอให้Lewisย้ายฐานการผลิต มาที่Birmingham และสนับสนุนเครื่องจักรและการตั้งโรงงานให้ ทำให้ปืนกลเบาLewisได้กำเนิดขึ้นและเฉิดฉายในสงครามโลกครั้งที่1 ในที่สุด
ต่อมาในปี 1915-1916ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้มีคำสั่งให้จัดหาปืนLewisเพื่อเข้าสู่สงคราม ทำให้พันโทเดินทางกลับสู่มาตุภูมิและนำปืนเข้าทดสอบแต่ก็ยังไม่วายโดนเจ้ากรมสรรพาวุธคู่แค้นขัดขวางอีกครั้ง ทำให้พันโทLewisร้องเรียนถึงสภาคองเกรส แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุด Crozierได้
ราวกับ Crozier กำลังบ้าคลั่ง เขาไม่ฟังเสียงคัดค้ายจากใครอีกและใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การจัดสรรอาวุธ ซึ่งสามารถจัดหาอาวุธโดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากสภาคองเกรส เขาเมินปืนกลเบาLewis ไปเลือก ปืนกลเบา Benet-Merci ซึ่งมีปัญหาขัดลำกล้องบ่อยในการรบ และปืนกลหนักVickers จนในที่สุดสื่อต่าง ๆ เริ่มหันมาโจมตีการกระทำที่มีลับลมคมในของเขา
เมื่อCrozierถูกโจมตี เขากลับบ้าคลั่งขึ้นไปอีกขั้น เขาหันไปประนามพลตรีLeonard Woodว่าเป็นต้นเหตุให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้จนพลตรีส่งจดหมายถึงกระทรวงกลาโหมและCrozierก็ถูกสอบเรื่องการจัดหาปืนกลในที่สุด
หลังจากโดนหลายฝ่ายกดดันอย่างหนักปืนกลLewisก็ได้เขารับการทดสอบและประจำการในกองทัพสหรัฐ ส่วนCrozierถูกสภาคองเกรสต้ังคณะกรรมการสอบสวนอีกครั้ง
และถึงแม้จะโดนสอบ Crozierก็ยังคงเป็น Crozier เขากล่าวหาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะสภาคองเกรสไม่ให้การสนับสนุน พลตรีWoodและกระทรวงกลาโหมแทรกแทรงการทำงาน อุตสาหกรรมผลิตอาวุธไม่ดี ลามไปถึงฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาอาวุธให้อยู่แล้วไม่ต้องจัดหาเองอีก โดยไม่เคยโทษตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว
สุดท้ายการทำงานแบบCrozierนี้ก็โดนลงดาบ เขาถูกปลดจากตำแหน่งที่มีทั้งหมด แต่แม้เห็นโลงศพแล้วCrozierก็ยังคงไม่หลั่งน้ำตา เขาพยายามเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพันโทLewisด้วยเรื่องไร้สาระถึง3ครั้ง จนโดนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปรามในที่สุด
แต่นั่นก็ยังไม่จบ เมื่อไม่รู้จะหาทางโจมตีคู่แค้นได้ยังไง Crozier จึงเขียนหนังสือเกี่ยวกับการบริหารจัดการกรมสรรพาวุธโดยมีเนื้อหาโจมตีพันตรีLewisอยู่ในนั้น
ส่วนชะตากรรมของปืนกลLewisนั้นก็ไม่ต่างกันมากนักเพราะหลังจบสงครามโลกครั้งที่1ลง สหรัฐได้ออกแบบปืนกลชนิดใหม่ขึ้นมาแทนที่ และนำปืนLewisทั้งหมดเก็บเข้าคลัง ก่อนจะถูกนำออกมาใช้อีกครั้งในสงครามโลกครั้งที่2เพราะการสูญเสียปืนกลเบาไปกว่า60%ของอังกฤษที่Dunkrik นั่นเอง
โฆษณา