Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MR.BOB
•
ติดตาม
12 พ.ค. 2019 เวลา 11:48 • ประวัติศาสตร์
บิดาแห่งการรถไฟ
ปัจจุบันการเดินทางด้วยรถไฟถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยมากที่สุดวิธีหนึ่งไม่เพียงแต่การเดินทางเท่านั้น รถไฟ ยังมีประโยชน์ในกิจการขนส่งอีกด้วย
ในปัจจุบันรถไฟสามารถวิ่งเร็วได้กว่า 300 ไมล์ ต่อชั่วโมง แต่รถไฟคันแรกที่สร้างขึ้นโดย จอร์จ สตีเฟนสัน วิ่งได้เพียง 29 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
จอร์จ สตีเฟนสัน เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1781 ที่เมืองนิวคลาสเซิล ประเทศอังกฤษ บิดาของเขาชื่อ โรเบิร์ต สตีเฟนสัน เป็นกรรมกรในเหมืองแร่ที่ยากจน ทำให้สตีเฟนสันไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนในโรงเรียนเลย อีกทั้งต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว โดยการรับจ้างดูแลฝูงวัว
ต่อมาเมื่อเขาอายุได้ 14 ปี ได้เข้าไปทำงานเป็นกรรมในเหมืองถ่ายหิน โดยมี หน้าที่คัดแยกถ่านหิน และเป็นผู้ช่วยของบิดาในอัตราค่าแรง 1 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ในระหว่างที่เขาทำงานในเหมือนถ่านหิน เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ ที่ใช้ภายในเหลืองซึ่งเป็นสิ่งที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ เขายังใช้เวลาในตอนกลางคืนไปเรียนหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีวิศวกรรมเบื้องต้นอีกด้วย
วันหนึ่ง เมื่อเครื่องสูบน้ำภายในเหมืองเกิดเสีย นายช่างของเหมืองหลายคนได้พยายามหาวิธีแก้ไข แต่ไม่สามารถทำได้ แม้แต่หัวหน้าวิศวกรรมของเหมืองก็ไม่สามารถซ่อมได้ สตีเฟนสันรับอาสาซ่อมเครื่องสูบน้ำ และเขาก็สามารถซ่อมได้
เขาได้รับ รางวัลจากผู้จัดการเหมืองจำนวน 10 ปอนด์ และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นคนคุมเครื่องจักร ได้รับเงินเดือนปีละ 100 ปอนด์ ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้นอย่างมาก
ต่อมาในปี ค.ศ. 1800 วิชาร์ด ทราวิค วิศวกรชาวอังกฤษได้สร้างรถจักรไอน้ำเป็นผลสำเร็จ ทางเหมืองแร่ที่สตีเฟนสันทำงานอยู่ได้นำรถจักรชนิดนี้มาใช้งานขนถ่านหินภายในเหมือง แต่รถจักรไอน้ำของทราวิคมีข้อเสียหลายอย่าง ทั้งวิ่งได้ช้า และน้ำหนักมากก็ทำให้ถนนได้รับความเสียหาย จึงมีการสร้างราง (คล้ายรางรถไฟ) สำหรับรถจักรวิ่ง แต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ คือ รถมักตกรางอยู่บ่อย ๆ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมนัก
ต่อมาจึงมีผู้ปรับเปลี่ยนล้อของรถให้เป็นเหล็ก และมีร่องสำหรับวิ่งบนรางเหล็กที่สร้างขึ้น แต่ปัญหาที่รถวิ่งได้ช้ามากก็ยังคงมีปัญหา สตีเฟนสันรับอาสาเจ้าของเหมืองว่าจะปรับปรุง ให้รถจักรมีความเร็วและประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งเจ้าของเหมืองก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
สตีเฟนสันใช้เวลานานถึง 10 เดือน ในที่สุดรถจักรของเตาก็เป็นผลสำเร็จ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1814 รถจักรของสตีเฟนสัน มีตัวถังเป็นไม้ มีล้อเหล็ก 4 ล้อ วิ่งได้ 4 ไมล์ต่อชั่วโมง
สามารถลากรถถ่านหินได้ถึง 30 ตัน สตีเฟนสันตั้งชื่อรถไฟของเขาว่า บลูเซอร์
ในระหว่างนั้น เอ็ดเวิร์ด พิส ได้สร้างทางรถไฟจากเมืองสตอคตัน ไปยังเมืองดาร์ลิงตัน สำหรับให้รถบรรทุกสินค้าวิ่งได้สะดวกรวดเร็วขึ้น นับว่าเป็นทางรถไฟสายแรกของโลก สตีเฟนสันได้เดินทาง
มาหาพิส เพื่อให้พิสสนับสนุนเขา ในการสร้างรถจักรไอน้ำ โดยสตีเฟนสันได้นำรถจักรที่เขาสร้างมาด้วย
พิสได้เห็นถึงความสามารถของสตีเฟนสันจึงตกลงให้การสนับสนุนสตีเฟนสัน ในการสร้างหัวรถจักร โดยสตีเฟนสันได้รับค่าจ้างเป็นเงินปีละ
300 ปอนด์
เขาทำงานอย่างหนักตลอดเวลา อีกทั้งได้จ้างผู้ช่วยด้วยเงินส่วนตัวของเขามาช่วยทำงาน และในปี ค.ศ. 1825 หัวรถจักรคันแรกของโลกก็เกิดขึ้น โดยมีอัตราความเร็ว 15 ไมล์ต่อชั่วโมง
แต่ถึงอย่างนั้น รถไฟก็ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก เพราะคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า รถไฟวิ่งได้ช้า จนกระทั่งคนทั่วไปเริ่มรู้ว่ารถไฟของสตีเฟนสันสามารถวิ่งได้เร็ว และสะดวกสบายกว่า รถม้า อีกทั้งก็ไม่ต้องหยุดพักเวลาเดินทางไกล ๆ
แม้ว่ากิจการรถไฟจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ก็ถูกขัดขวางในการสร้างทางรถไฟ จากเจ้าของกิจการรถม้าที่เสียผลประโยชน์ เจ้าของที่ดิน เป็นต้น
แต่ทางรัฐบาลอังกฤษได้เล็งเห็นประโยชน์ของกิจการรถไฟจึงประกาศใช้กฤษฎีกาใช้สร้างทางรถไฟขึ้นในปี ค.ศ. 1826 ระหว่างเมืองแมนเชสเตอร์ การสร้างทางรถไฟสายนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องสร้างสะพานถึง 36 แห่ง ตัดผ่านภูเขาสูงเจาะ
อุโมงค์ รวมถึงต้องถมบึงบางแห่งด้วย แต่ในที่สุดทุกอย่างก็เป็นได้ด้วยความเรียบร้อย
ในปี ค.ศ. 1872 ทางรถไฟสายนี้ได้เปิดทำการเป็นครั้งแรก สตีเฟนสันได้นำหัวรถจักรคันใหม่ที่เขาได้พัฒนาปรับปรุงจนมี ประสิทธิภาพมากขึ้น และวิ่งได้เร็วถึง 29 ไมล์ต่อชั่วโมง และนายกรัฐมนตรีของอังกฤษดยุคแห่งเวลลิงตัน เดินทางมาเป็นเกียรติในงานเปิดทำการเส้นทางรถไฟนี้
สตีเฟนสัน ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญที่ทำการบุกเบิกกิจการรถไฟให้มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่เป็นผู้สร้างหัวรถจักรเท่านั้น เขายังเป็นผู้คุมงานสร้างทาง
รถไฟอีกด้วย
กิจการรถไฟในประเทศอังกฤษมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ และขยายเส้นทางไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศ ไม่เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น กิจการรถไฟยังได้ขยายตัวไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย แม้ว่าในปัจจุบันการเดินทางจะมีให้เลือกมากมายหลายทาง ทั้งทางรถยนต์ เครื่องบิน และเรือ แต่การเดินทางด้วยรถไฟก็ยังคงเป็นที่นิยมกันอยู่ เพราะสะดวก ประหยัด และปลอดภัย
สตีเฟนสันเสียชีวิตในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1848 ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์
แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่กิจการรถไฟก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยผู้ที่สืบทอดกิจการต่อจากเขาก็คือ ริชาร์ด สตีเฟนสัน ซึ่งถือได้ว่าคือผู้ที่บุกเบิกกิจการรถไฟจนมีความก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้
ขอบคุณบทความดีๆจาก
http://siweb.dss.go.th/Scientist/Scientist_1/George%20Stephenson.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F
บันทึก
7
1
3
7
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย