14 พ.ค. 2019 เวลา 12:01 • ประวัติศาสตร์
“Make love ,not war” แต่หากยังดึงดันจะ war ก็อาจจะอด make love
แม้เราจะกล่าวกันว่าโลกในปัจจุบันนั้นเป็นโลกที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ บุรุษเพศทั้งหลายคือผู้มีพลัง อำนาจ และควบคุมทรัพยากรทั้งหมดไว้โดยสตรีเพศไม่มีโอกาสได้มีปากมีเสียงจนนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิสตรีอย่างกว้างขวางเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้หญิงที่ถูกกดขี่กีดกันมาแต่โบราณกาลกลับครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีชายใดอาจต้านทานได้ อำนาจในการต่อรองที่รุนแรงและทรงพลังที่สุดตลอดกาลนามว่า Sex และสิ่งนี้ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนโลกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อ Sex นั้นยากเกินจะต้านทาน
ในทางจิตวิทยานั้นความต้องการทางเพศเป็นแรงขับพื้นฐานหนึ่งที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ควบคู่กับความต้องการมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นสัญชาตญาณในการดำรงเผ่าพันธุ์ให้ยังคงดำเนินต่อไป
แตกต่างจากความต้องการอาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัย ที่เป็นความต้องการเพื่อดำรงตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย ความต้องการทางเพศกลับเป็นความต้องการเพื่อถ่ายทอดพันธุกรรมของเราให้คงอยู่ ซึ่งนอกจากจะเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์สืบต่อไปบนโลกใบนี้ตราบนานเท่านานแล้ว ยังเหมือนอนุสรณ์ที่ฝากไว้บนโลกนี้ว่าเคยมีตัวตนของเจ้าของพันธุกรรมมีชีวิตอยู่มาก่อน
Sex จึงเป็นแรงขับที่พลังมหาศาล และหอมหวนเกินกว่าใครจะปฏิเสธไหว กลายเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในตัวของหญิงสาวซึ่งใช้ต่อกรกับโลกที่มีบุรุษเป็นผู้ควบคุมกฏเกณฑ์อยู่มานานนับศตวรรษ และหนึ่งในวิธีการต่อสู้ด้วยSexของผู้หญิงที่ได้ผลดีสามารถสยบบุรุษเพศผู้ดื้อด้านและทรนงได้อย่างชะงัดนักก็คือการ Sex Strike นั่นเอง
Sex Strike จากความพ่ายของชาวเอเธนส์สู่บทละครสุขนาฏกรรม
Sex Strike หรือในอีกชื่อที่รู้จักกันดีว่า Sex Boycott คือ การประท้วงอย่างสันติวิธีหนึ่งที่ฝ่ายหญิงจะไม่ยอมให้คู่ของตัวเองเล่นกิจกรรมจ้ำจี้เข้าจังหวะด้วยจนกว่าสิ่งที่เธอเหล่านั้นเรียกร้องจะได้รับการแก้ไข ซึ่งการ Sex Strike ครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์นั้นสามารถสืบย้อนกลับได้ถึงยุคกรีกโบราณเลยทีเดียว
เมื่อหลังสงครามขับไล่จักรวรรดิเปอร์เซียจบสิ้นลงเอเธนส์ผู้มีกองทัพเรือที่ยิ่งใหญ่ ควบคุมการเดินเรือและค้าขายจนกลายเป็นมหาอำนาจทางทะเล ได้เป็นแกนนำในการก่อตั้งสันนิบาตเดเลียนขึ้นเพื่อต่อต้านกองทัพเปอร์เซียต่อไป พร้อมทั้งขยายอำนาจและแนวคิดการปกครองแบบประชาธิปไตยไปทั่วเขตคามนครกรีก จนทำให้สปาร์ตัน นครรัฐแห่งนักรบที่มีกองทัพบกที่แข็งแกร่งซึ่งใช้การปกครองระบบคณาธิปไตยนั้นเกิดความไม่พอใจ จึงได้ตั้งสันนิบาตเพโลพอนนิเซียนขึ้นเพื่อคานอำนาจสันนิบาตเดเลียน จนกลายเป็นสงครามเย็นบนผืนแผ่นดินกรีกเรื่อยมา
จุดแตกหักของเอเธนส์และสปาร์ตันได้เกิดขึ้นเมื่อคอรินท์สมาชิกแห่งสันนิบาตเพโลพอนนิเซียน เกิดขัดแย้งกับคอร์ไซร่าสมาชิกแห่งสันนิบาตเดเลียน ทำให้นครรัฐแกนนำทั้งสองต้องออกมาช่วยเหลือสมาชิกในสันนิบาตของตัวเองจนสุดท้ายจากความขัดแย้งระหว่างเมืองก็ลุกลามกลายเป็นสงครามเพโลพอนนีเชียนในที่สุด
จน 411ปีก่อนคริสตกาล สงครามเพโลพอนนีเชียนดำเนินเข้าสู่ปีที่11 เหล่าหญิงสาวต่างหวาดกลัวและเริ่มเบื่อหน่ายกับสงครามที่ไร้จุดสิ้นสุดนี้ เมื่อบรรดาชายหนุ่มล้วนแต่หมกมุ่นอยู่กับการรบโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยาในบ้าน ปฏิบัติการเพื่อดัดหลังพ่อบ้านใจกล้าโดยมีผู้นำคือไลซิสตราต้าจึงเริ่มขึ้น
ไลซิสตราต้าได้ออกประชุมลับเฉพาะกับหญิงสาวจากนครรัฐต่าง ๆ เพื่อหาทางหยุดเหล่าชายหนุ่มที่แสนดื้อดึง จนสุดท้ายได้ผลสรุปว่าผู้หญิงทั้งหมดไม่ว่าจะเอเธนส์ หรือสปาร์ตัน จะSex Strikeเหล่าชายชาตินักรบจนกว่าแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา
ผลจากการประท้วงของเหล่าสตรีผู้กล้าหาญ ส่งผลให้ผู้ชายที่อดอยากหลายคนเริ่มกลับมาร้องหาภรรยาสุดที่รัก พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามอีกขอเพียงคนรักของเขายอมกลับมาร่วมกิจกรรมเข้าจังหวะกันเช่นเก่าก่อน และเมื่อความอดทนของชายทั้งสองนครรัฐพังทลายการเจรจาสงบศึกจึงเกิดขึ้น และเป็นไปอย่างรวดเร็ว ราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงบทสรุปของสงครามเพโลพอนนิเซียนจากบทละครแนวสุขนาฏกรรมของ อริสโตเฟนิส เรื่อง ไลซิสตราต้า (Lysistrata) เพราะว่าในความเป็นจริงนั้นการรบดำเนินต่อไปจนถึงจุดสิ้นสุดจนเอเธนส์กลายเป็นผู้แพ้สงครามอยู่ใต้การปกครองของสปาร์ตัน แต่ไลซิสตราต้าก็กลายเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของการ Sex Strike ทั้งหลายในปัจจุบันเลยทีเดียว
ไลซิสตราต้า บทละครแนวสุขนาฏกรรมของ อริสโตเฟนิส
จากบทละครสู่การต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
ต่างจากที่ปรากฏในบทละครไลซิสตราต้า Sex Strikeที่เกิดขึ้นจริงทั่วโลกไม่ได้ใช้เพียงเพื่อการหยุดสงครามเท่านั้น แต่เป็นการใช้เพื่อแสดงพลังของผู้หญิงในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของสังคม เช่นที่ตุรกีในปี 2001
เกิดเหตุระบบประปาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ ๆ เมืองซีร์ต(Siirt) เสียหายทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีน้ำประปาใช้นานนับเดือน เมื่อความอดทนถึงที่สุดผู้หญิงในหมู่บ้านจึงประกาศ Sex Strike เพื่อกดดันให้ผู้ชายมาช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังการประท้วงผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน สุดท้ายกระทาชายผู้อดอยากปากแห้งจึงรวมตัวกันร้องเรียนไปที่รัฐบาลท้องถิ่นให้แก้ปัญหาประปาที่เกิดขึ้นจนระบบประปาได้รับการซ่อมแซมและชาวเมืองกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อีกครั้ง
อด Sex จนกลับใจ
นอกจากการSex Strike เพื่อสาธารณูปโภคที่ดีขึ้นเช่นในตุรกีแล้ว การ Sex Strike อีกครั้งหนึ่งที่น่าประทับใจเกิดขึ้นที่โคลัมเบีย ในปี2006 เมื่อหญิงชาวโคลัมเบียพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าหากผู้หญิงเอาจริงแม้แต่โจรใจทมิฬยังต้องวางปืนกลับใจ
ณ เมืองเปเรย์รา (Pereira) แฟนและภรรยาของเหล่าแก็งส์เตอร์(Gangsters) ร่วมมือกับเทศบาลเมืองปฏิบัติการ Sex Strike บรรดาหนุ่มนักเลงหัวไม้ เรียกร้องให้เหล่าวายร้ายวางอาวุธและเข้ารับการฝึกอาชีพเพื่อกลับตัวกลับใจเป็นพลเมืองดีของโคลัมเบีย
ผลจากแคมเปญงดทำรักนักลั่นปืนทำให้เมืองเปเรย์ราที่เคยมีคดีฆาตกรรมถึง 488 คดีในปี2005 ลดลงไปถึง 26.5% ในปี2010 เรียกว่านารีพิฆาตอาชญากรรมโดยแท้จริง
เมื่อผู้นำประเทศถูกภรรยาบอยคอร์ต
แน่นอนว่าการต่อสู้ของสาว ๆ โคลัมเบียเพื่อทวงคืนคนรักที่เคยเดินผิดทางให้กลับมาเป็นคนดีของสังคมนั้น เป็นการประท้วงที่ทั้งน่ารักและสุดแสนประทับใจ แต่ยังมีการ Sex Strike อีกครั้งหนึ่งในเคนยาที่น่าจดจำ เมื่อแม้แต่คนใหญ่คนโตของประเทศเช่น นายกและประธานาธิบดี ก็ยังไม่อาจรอดพ้นจากSex Strikeโดยภรรยาตัวเอง
เท้าความกลับไปในปี2002 ประเทศเคนยาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อนายอึมไว คิบากิ (Mwai Kibaki) นำพรรค Democratic Party โค่นอำนาจพรรคKANU (Kenya African National Union)ซึ่งปกครองประเทศมาถึง 40 ปีนับตั้งแต่เคนยาได้รับเอกราช ซึ่งเบื้องหลังชัยชนะของผู้มาใหม่ครั้งนี้มีนายไรลา โอดิงก้า(Raila Odinga) นักธุกิจคนดังและผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองคอยหนุนอยู่ ด้วยข้อตกลงว่าจะแบ่งปันอำนาจในการบริหารประเทศให้แก่กัน
แต่ความแน่นอนก็คือความไม่นอนเพราะใจคนนั้นยากแท้หยั่งถึง หลังชนะการเลือกตั้งนายคิบากิกลับไม่ได้ทำตามสัญญาที่ลั่นเอาไว้ สร้างความเจ็บแค้นให้นายโอดิงกาอย่างยิ่ง จนไปร่วมกับฝ่ายค้านต่อต้านนโยบายของรัฐบาลคิบากิแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังคงดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนี้อยู่
นายโอดิงกาได้เดินหน้าโจมตีประธานาธิบดีคิบากิอย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาการคอรัปชั่น ความยากจนในประเทศ อัตราการว่างงานที่สูง จนในที่สุดในปี2007 รัฐบาลของประธานาธิบดีคิบากิก็หมดวาระลง และการรอคอยอันยาวนานของโอดิงกาเพื่อทวงบัลลังก์ในการบริหารประเทศก็สิ้นสุดลงเช่นกัน
การเลือกตั้งครั้งใหม่เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2007 การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างเข้มข้นเมื่อต่างฝ่ายต่างก็แพ้ไม่ได้ ผลปรากฏว่าเกิดการทุจริตขึ้นเป็นจำนวนมากจนผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรปประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เป็นไปตามหลักสากล เกิดบัตรเขย่งขึ้นในหลายพื้นที่ บางแห่งมีผู้ใช้สิทธิถึง 115% มีรายงานว่าผลคะแนนที่ประกาศในท้องที่เมื่อนับคะแนนเสร็จและผลคะแนนเมื่อเข้าสู่ส่วนกลางไม่ตรงกัน ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้อดีตประธานาธิบดีคิบากิเฉือนชนะคะแนนนายโอดิงกาไปแบบหืดขึ้นคอ และรีบสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้มีการร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่นัก
เมื่อเกิดความรู้สึกว่าฝ่ายของตนถูกปฏิบัติอย่างอยุติธรรม บรรยากาศทางการเมืองที่คุกรุ่นอยู่แล้วก็ปะทุออกอย่างรุนแรง กลุ่มสนับสนุนนายโอดิงก้าเช่น ชนเผ่าลัวและกลุ่มชุมชนสลัมในเมืองหลวงไนโรบีก่อการจลาจล ไล่ฆ่าและเผาชนเผ่าคิคูยูซึ่งสนับสนุนประธานาธิบดีราวกับเป็นมิคสัญญียุค จนนานาชาติต้องเข้ามากดดันและเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อให้ความขัดแย้งจบลง ซึ่งหลังการจลาจลจลพบว่ามีคนตายถึง 1,500คน ในขณะที่อีกถึง 600,000คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย จากการนองเลือดครั้งนี้
ผลการเจราจาทำให้เกิดการแบ่งอำนาจในการปกครองขึ้น โดยนายอึมไว คิบากิได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนนายไรลา โอดิงก้าได้รับตำแหย่งนายกรัฐมนตรีไป แต่สันติที่เกิดขึ้นก็เป็นเพียงลมที่สงบก่อนพายุจะมา
Mwai Kibaki และ Raila Odinga
ในปี 2009 เมื่อความเห็นในการบริหารประเทศของประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรีไม่ตรงกันและไม่มีฝ่ายใดยอมลดราวาศอกความตึงเครียดทางการเมืองจึงก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ความขัดแย้งทางความคิดค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมจะระเบิดออกได้ทุกเวลา สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนจำนวนมากว่าประวัติศาสตร์จะกลับไปซ้ำรอยการจลาจลในปี2008อีกครั้ง ทำให้เหล่าหญิงสาวเคนยาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพของตัวเองและเด็ก ๆ โดยมีองค์กรเพื่อการพัฒนาสตรี (Women’s Development Organization) เป็นแกนนำ
เหล่าหญิงสาวต่างประกาศงดมีเพศสัมพันธ์กับชายคนรัก เพื่อกดดันให้ชายหนุ่มร่วมกันเรียกร้องให้เกิดการเจรจาของทั้งฝ่ายก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่ความโกลาหล ซึ่งการประกาศSex Strikeครั้งนี้ถือเป็นการประท้วงที่กล้าหาญและสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วแอฟริกาอย่างมาก เพราะหลาย ๆ ประเทศในแอฟริกานั้นยังขาดการคำนึงถึงสิทธิสตรี และความเท่าเทียมทางเพศการที่ผู้หญิงจะพูดเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ถือเป็นเรื่องน่าละอาย และไม่ควรทำอย่างยิ่ง
แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมาก(โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชาย)โจมตีการกระทำของเหล่าหญิงสาวที่ร่วมกันประกาศ Sex Strike เพื่อความปรองดอง แต่แคมเปญนี้กลับเป็นที่สนใจและกระจายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ
แต่ที่สร้างความฮือฮาให้กับการประท้วงงดกิจกรรมเข้าจังหวะครั้งนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ภรรยาของประธานาธิบดีและภรรยาของนายกรัฐมนตรีประกาศเข้าร่วมการบอยคอตสามีตัวเองที่กำลังทะเลาะกันอย่างหนัก พร้อมทั้งขนสื่อที่มีมาสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเต็มที่
และสิ่งที่ก้าวล้ำไปไกลกว่าการ Sex Strike ที่เคยมีมาคือการต่อสู้ครั้งนี้ลุกลามไปถึงเหล่าหญิงขายบริการ เมื่อองค์กรเพื่อการพัฒนาสตรีประกาศจ่ายค่าชดรายได้ที่เสียไปให้กับกลุ่มผู้หญิงขายบริการทุกคนที่ร่วมต่อสู้เพื่อสันติภาพในครั้งนี้ ทำให้ความฝันของชายหนุ่มที่หวังอาศัยการกินนอกบ้านแก้ขัดในระหว่างถูกบอยคอตถูกดับลงในทันที
การประท้วงของหญิงสาวชาวเคนยา
สุดท้ายเมื่อไร้หนทางออกสุดยอดบุรษย่อมแพ้มนุษย์เมียหลังการ Sex Strike จากบรรดาเมีย ๆ ทั้งหลายตลอดสัปดาห์ การเจรจาของเพื่อหาทางออกของประเทศระหว่างประธานาธิบดีคิบากิและนายกโอดิงก้าจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้เคนยารอดพ้นจากการจลาจลไปได้อีกครั้ง
เมื่อ Sex Strike ถึงคราวล้มเหลว
ถึงแม้ว่า Sex Strike จะเป็นการประท้วงที่ดูมีอัตราสำเร็จสูง สามารถจัดการกับปัญหาที่เรื้องรังมานานได้เป็นอย่างดี แต่การต่อสู้ที่ทรงพลังนี้ก็สามารถพบกับความล้มเหลวได้เหมือนกัน เช่นที่อิตาลี ในปี2008
ณ เมืองเนเปิลส์ (Naples) มักเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเพราะพลุระเบิดในคืนวันส่งท้ายปีเก่าจำนวนมาก และถึงแม้พลุเหล่านี้จะผิดกฏหมาย แม้จะมีคนตายให้เห็นอยู่เป็นประจำแต่ความตื่นเต้นสวยงามของพลุนั้นก็เย้ายวนเกินกว่าชายหนุ่มเนเปิ้ลส์จะหักห้ามใจ
เมื่อความตายและกฏหมายไม่อาจหยุดพฤติกรรมสุดห่ามของชายฉกรรจ์แดนมักกะโรนีเหล่านี้ได้ บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่จึงต้องออกมาหยุดคนรักของตัวเองด้วยแคมเปญ “make love, not explosions”
ในวันที่31 ธันวาคม 2008 หญิงเนเปิลส์ประกาศ Sex Strike ผู้ชายที่คิดจะเล่นพลุในคืนส่งท้ายปีเก่า โดยหากใครที่ยังดื้อดึงไม่ยอมเลิกนอกจากจะอดทำการบ้านสุดหรรษาแล้ว ยังโดนไสศีรษะไปนอนที่โซฟารับแขกเป็นของแถมด้วย
แน่นอนว่าหากเกิดในประเทศไทยเรื่องนี้คงจบลงอย่างสงบสุข เหล่าพ่อบ้านใจกล้าคงได้แต่นั่งหงอยเหงาเฝ้าบ้านจิบเบียร์โดยไม่มีปากเสียงแม้แต่น้อย แต่ที่นี่เนเปิลส์ เหล่าชายหนุ่มผู้กินดีหมีหัวใจเสือกลับต่อต้านคำสั่งภรรยา แล้วเลือกเล่นพลุไฟในอากาศหนาวมากกว่านอนกอดเมียในเตียงอุ่น ๆ
สุดท้ายการทำSex Strike ในเมืองเนเปิลส์ครั้งนี้จึงไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรและยังมีคนตายจากพลุระเบิดอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่วนผู้ชายที่รอดจากพลุระเบิดมาได้ในปีนั้นจนปัจจุบันก็ยังไม่มีรายงานว่าจะกลับมาเสียชีวิตด้วยมือภรรยาที่บ้านแทนหรือไม่
บทละครสู่แรงบันดาลใจ
จากบทละครสุขนาฏกรรม เพื่อเสียดสีการทำสงครามสมัยกรีก จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกยืนหยัดต่อสู้เพื่อสังคมที่ดีกว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไลซิสตราต้ากลายเป็นเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของหญิงสาวที่กำลังหมดหนทางจะต่อกรกับบุรุษผู้กดขี่และเพิกเฉยต่อเสียงของพวกเธอมาอย่างยาวนาน
การSex Strike ทั้งหมดในหน้าประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เราได้เห็นว่าทุกคนล้วนมีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกหลับใหลอยู่ในตัวด้วยกันทุกคน เหล่าหญิงสาวผู้กล้าหาญได้สอนให้เรารู้ว่าพลังอำนาจที่แท้จริงนั้นไม่ใช่อำนาจของผู้แข็งแกร่งที่กดขี่ผู้อื่นอยู่ แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ภายในมือของคนตัวเล็ก ๆ ที่อ่อนแอ เพราะวันหนึ่งที่คนอ่อนแอรวมตัวกันเพื่อต่อสู้แล้วแม้บัลลังก์พญาราชสีห์ก็อาจพังทลายลงอย่างง่ายดาย
หมายเหตุ : การSex Strike ทั่วโลกเรียงตามปีที่เกิดมีดังนี้
1530 นิการากัว ประท้วงการล่าอาณานิคมของสเปน
1600 ชนพื้นเมืองเมริกัน ประท้วงการทำสงครามระหว่างเผ่า
1920 สหภาพโซเวียต ประท้วงเพื่อเรียกร้องการดูแลที่ดีขึ้นจากสามี
ช่วงประมาณ 1940 จีน ประท้วงเพื่อสิทธิในการเลือกตั้งของผู้หญิง
1975 ไอซ์แลนด์ ประท้วงเพื่อกฏหมายความเท่าเทียม
1997 โคลัมเบีย ประท้วงกลุ่มค้ายาและผู้ร้ายให้หยุดการสู้รบ
2001 ตุรกี ประท้วงให้ซ่อมระบบประปาที่เสียหาย
2003 ไลบีเรีย ประท้วงเพื่อหยุดสงครามกลางเมือง
2006 โคลัมเบีย ประท้วงเพื่อให้gangsterวางอาวุธกลับใจ
2008 อิตาลี ประท้วงการเล่นพลุ
2009 เคนยา ประท้วงเพื่อเรียกร้องความสมานฉันท์ทางการเมือง
2011 ฟิลิปปินส์ ประท้วงเพื่อหยุดความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้าน
โคลัมเบีย ประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ปรับปรุงถนน
เบลเยี่ยม ประท้วงเรียกร้องให้มีการตั้งรัฐบาลอำนาจเต็ม
2012 โตโก ประท้วงเพื่อไล่ประธานาธิบดี
สหรัฐอเมริกา ประท้วงต่อต้านคำสั่งการคุมกำเนิด
2014 ญี่ปุ่น ต่อผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงโตเกียว
ยูเครน ประท้วงเรียกร้องให้ยุติการผนวกดินแดนไครเมียของรัสเซีย
ซูดาน ประท้วงเพื่อเรียกร้องสันติภาพในประเทศ
2017 เคนยา ท้วงเพื่อต่อต้านนายเคนยัตตาในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
อ้างอิง
โฆษณา