15 พ.ค. 2019 เวลา 04:15 • การศึกษา
ลูกจำไว้นะก่อนจะตำหนิคนอื่นให้มองตัวเองก่อน
พ่อเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน ในวันที่พ่อสั่งของมาลงที่ร้าน วันนั้นจะวุ่นวายเป็นพิเศษ พ่อตัดสินใจจ้างน้องชายของแม่มาดูแลร้านช่วยอีกแรง
และถึงจะมีคนมาเพิ่มแต่ภาระที่พ่อแบกกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว ของในร้านพ่อฉันยังต้องจัดเองแทบทุกอย่าง ส่วนน้องชายของแม่ ปัดกวาดหน้าร้าน เก็บของเล็กๆน้อยๆแล้วหนีไปนอน
แม่เห็นแต่แม่พูดอะไรมากไม่ได้ ส่วนพ่อไม่พูดอะไรเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงต้องจ้างน้ามาแพงๆ โดยที่น้าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ฉันเด็กกว่าทุกคน ในหัวตอนนั้นคิดแค่ว่า เราเป็นนายจ้างทำไมต้องมาทำทุกอย่างเอง ทำไมลูกน้องไม่ยอมทำอะไรเลย
ด้วยความโกรธและความคิดโง่ๆในสมอง ฉันเลยทำตัวตามน้า เป็นเจ้านายทำไมเราต้องทำ เขาเป็นลูกจ้างเขายังไม่ทำเลย...
ในวันหนึ่งฉันทนไม่ไหว เอ่ยปากถามพ่าว่า "พ่อจ้างน้ามาทำไม หาจ้างคนอื่นไม่ดีกว่าหรอ งานก็ไม่ทำ"
พ่อตอบมาว่า "ขนาดลูกยังไม่อยากทำเลย แล้วจะมาเอาอะไรกับคนอื่น "
"ก่อนที่ลูกจะตำหนิคนอื่น ลูกก้มมองตัวเองแล้วหรือยัง"
"ลูกอย่าคิดสิว่าเป็นเจ้านายไม่ต้องทำอะไร ถ้าเจ้านายไม่ทำ ร้านเราก็พังสิ การเป็นเจ้านายคือการที่ต้องทำทุกอย่างเอง ทำให้ลูกจ้างเห็น ส่วนเขาจะทำตามหรือไม่นั้นมันอีกเรื่อง"
"ถ้าเขาไม่ทำ เราก็แค่ต้องทำเอง ถ้าลูกเอาอย่างน้าลูก ไม่ยอมทำ พ่อกับแม่นี่แหล่ะที่จะได้ทำงานกันสองคน"
พ่อพูดถูก ถ้าฉันยังไม่ยอมทำคงมีแค่พ่อกับแม่ฉันเองที่ต้องทำ แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมแม่ต้องจ้างน้าด้วย จ้างคนอื่นคงดีกว่านี้
"ไม่ว่าน้าจะเป็นอย่างไร น้าก็คือน้องชายของแม่ แม่เป็นพี่สาว แม่ไม่สามารถทิ้งน้องตัวเองให้อดๆอยากๆได้ ถ้าลูกโตขึ้นลูกจะเข้าใจความหมายนี้"
ตอนนี้ฉันเข้าใจคำพูดนั้นแล้ว ฉันมีน้องชาย และฉันคงไม่สามารถทำใจทิ้งน้องชายของตัวเองได้
และอีกอย่าง ฉันไม่ตำหนิใครอีกเลยหลังจากวันนั้น เพราฉันไม่มั่นใจว่าตัวเองทำดีพอที่จะไปตำหนิใครได้ ฉันแค่ทำให้หน้าที่ของตัวเองให้ดีในแบบของฉันเท่านั้น...
โฆษณา