17 พ.ค. 2019 เวลา 12:49 • ความคิดเห็น
เจแปน แดนสวรรค์ของแม่ค้าขายหอย ณ ซอยคาบุกิโจ ตอนที่ 1
มา มา มาว่ากันในเรื่องของการขายหอย แดนปลาดิบ
คือยาวมากค่ะ เขียนไปหลับไปค่ะ พูดเลย
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 30 ปีแล้วนะ คือ พูดได้เลยว่า เจแปนคือแดนสวรรค์ของบรรดาแม่ค้าขายหอยเถื่อน เพราะอะไรอ่ะหรอ ได้เงินต่อรอบเยอะ และไม่ต้องรับแขกหนักแบบฮ่องกงและสิงคโปร์ ว่าง่ายๆ เงินดี งานไม่หนักนั่นเอง สาวไทยจึงนิยมไปขายหอยสดแต่ไม่ซิงแข่งกะปลาดิบไงล่ะจ๊ะ
สมัยก่อนการเข้าประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ง่ายดายเหมือนสมัยนี้นะจ๊ะ จะต้องมีการขอวีซ่า แหกตาไปต่อแถวแต่เช้ามืดยืนเข้าคิวไปสิ ต้องแต่งตัวใส่สูทให้เนี้ยบ ราวกะไปบขอวีซ่าเมกา แต่ดีที่เสียเงินค่าทำแค่ 500 รอผลวีคนึง ระหว่างรอผลด้วยใจลุ้นละทึก ก็ไปเลยจ้า วัดไหน ศาลไหน ใครว่าดัง บนบานศาลกล่าวกันแบบเต็มที่ ไม่มียั้ง พอผลออกมาวีซ่าผ่าน ก็ร้องเฮดัง จะได้ไปเห็นหิมะ ณ แดนปลาดิบแล้ว
วาดฝันไว้อย่างสวยงาม ว่าชีวิตจะดีงามดั่งสาวน้อยในแดนซากุระ พอถึงเวลาจะบิน อ้าว ไม่ได้ไปญี่ปุ่นจ้า เพราะต้องเดินทางไปมาเลย์ก่อน เพื่อไปสวมพาสปอร์ต เป็นคนมาเลเซีย ไม่งั้นไม่รอด เพราะสาวไทยนี่ขึ้นชื่อเรื่องไปขายหอย ตม.ญี่ปุ่นก็เลยไม่ปล่อยให้เข้าง่ายๆ ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีการสวมรอยยเป็นชาวมาเลเซีย ใช้เวลาประมาณ 10 วันในการดำเนินการ ระหว่างรอ อย่าฝันนะจะได้นั่งเฉยๆ รับแขกสิจ๊ะ คนซื้อมี คนขายมา อย่ารอช้า จัดเลย
หลังจากนั้นเมื่อแม่ค้าเหล่านี้สวมพาสปอร์ตเรียบร้อย ก็เดินทางไปโตเกียวจ้า พอถึงสนามบินก็จะมีคนมารับ ซึ่งก้อหาใช่ใครอื่นใด นอกจาก แม่ Tag นั่นเองจ้า สมัยก่อนย่านขายหอยที่ขึ้นชื่อของโตเกียวคือ ย่านคาบุกิโจในชินจูกุนั่นเอง ดินแดนขุดทองของสาวไทยที่ไปขายหอยเลยจ้า แต่ที่ญี่ปุ่น ไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่ไปถึงร้านแล้วจะได้ทำงานเลย เพราะพอแม่ Tag มารับเราแล้ว หลังจากนั้น แม่ tag ก็จะพาไหที่บ้านพักที่เค้าจัดไว้ให้ ก็เปนห้องๆนี่นล่ะ จ้ะ แล้วแม่ tag เนี่ย ก็จะโทรไปตามแม่ tag ที่อื่นๆมาดูตัวแม่ค้าหอยเหล่านี้ สมมติ แม่ tag A เลือก แม่ค้า เอ๋ แม่ Tag A ก็จะจ่ายค่าตัวให้แม่ Tag เอ๋ และหลังจากนั้นเอ๋จะต้องไปอยู่กับแม่ Tag A เลยจ้า โดยจะมีบ้านให้อยู่เสียเงินเดือนนึงคนละประมาณ 5,000 เยนต่อเดือน ไรงี้ และเอ๋ก็ต้องใช้หนี้แม่ Tag A ประมาณ 500 ใบ หรือ 500 มังนั่นเอง 1 มัง = 10,000 เยน = 1 ใบ ตอนนั้นเงินไทย 10,000 เยน = 1,800 สนนหนี้ที่เอ๋ต้องใช้ให้แม่ Tag A ราคาประมาณ 800,000 นั่นเองจ้า ทีนี้แม่ Tag A ก็จะพาเอ๋ไปทำงานที่ร้าน Snack หรือแปลง่ายๆคือ ร้านนั่งดริ้งค์นั่นเอง โดยการรับแขกจะมี 2 แบบ คือ
แบบแรกคือ ชั่วคราว คือ 40-60 นาที ราคาจะอยู่ที่ 3 ใบ หรือประมาณ 6000 บาท และ ค้างคืน ราคาจะ 5 ใบ หรือ 8,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามไปค้างคืนกะแขกก่อนเที่ยงคืน เพราะร้านปิด ตี 2 ถ้าไปก่อนนั้น แม่ Tag หรือส่วนใหญ่เค้าจะเรียกกันว่า อีม้า จะไม่ค่อยพอใจ เพราะการออกไปกะแขก 1 รอบ อีม้าจะได้เงินจากแม่ค้าหอย รอบละ 5,000 เยนนั่นเอง ก็คูณไปสิ ว่ามี แม่ค้าหอยกี่คนใน snack ออกคนละกี่รอบ นั่นคือรายได้ที่อีม้าจะได้ในแต่ละวัน อ่ะ
3
ดูเงินของทุกคนจะหาง่ายใช่มะ แม่ค้าหอยก็ได้ง่ายรอบนึง ไม่ถึงชั่วโมงฟาดไป 8,000 อ้อ แต่ 8,000 คือ เอ๋ไม่ได้นะจ๊ะ ใช้หนี้อีม้า แต่สิ่งที่เอ๋จะได้คือทิปจากแขก และอีม้าจะให้เอ๋ เบิกเงินได้เดือนละ 10,000 เพื่อส่งกลับบ้านโดยที่อันนี้ก้อต้องใช้เช่นกัน จะเป็นอิสระได้ต่อเมื่อ หมด tag หรือ บางคนเชี่ยวๆหน่อยไปทำแพพๆๆ หนี tag จ้า ย้ายไปอยู่ไกลๆต่างเมือง แต่เสี่ยงมากนะจ๊ะ เพราะร้านพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วพวกยากูซ่าจะเป็นเจ้าของถ้าหนีแล้วมันจับได้ ปางตายอ่ะจ้า อ่ะกลับมาๆๆทีนี้ แม่ค้าไปอยู่สัก 3 เดือนก็จะเริ่มหมด tag แต่อย่างที่บอกสังคมนี้เงินมันหาง่าย
พอปิดร้านแล้วเนี่ย อีม้าก็จะไปบ่อนจ้า ซึ่งหาใช่บ่อน no name ไม่ แต่มันคือบ่อน ป.ประตูน้ำจ้า โดยในนั้นก็จะมีแต่พวก แม่เล้ากระเป๋าหนักอย่างพวกอีม้า แล้วก็พวกยากูซ่า หรือพวกขายยา และที่ขาดไม่ได้คือ แม่ค้าหอยนี่ล่ะจ้า อย่างเคสเอ๋ คือ อีม้าชอบให้เอ๋ไปนั่งรอมันเล่นไพ่ เพราะอีม้าบอกเอ๋คือตัวโชคดี ไปแล้วอีม้าได้ พออีม้าได้ก็ให้เอ๋ทีนึง 2-3 มัง เอ๋ก็ชอบไปดูงี้ แต่วันไหนอีม้าเสีย เอ๋ก็ได้เงินอยู่ดีแต่อาจจะประมาณ 3000 เยน ไรงี้ อันนี้ก็คือชีวิตประจำวันของแม่ค้าหอยที่ทำร้าน snack
2
แต่ที่คาบุกิโจเนี่ย มันไม่ได้มีแต่ร้าน snack เท่านั้นไง เพราะอย่าลืมว่าบางคนก้ออยู่มานานจนเชี่ยว ก็อาจจะไม่สังกัดร้าน พวกนี้ก็จะไปยืนจับแขกตามซอย ง่ายๆ เหมือนผีขนุนแบบนั้นอ่ะ แต่ก้อใช่ว่าพวกนี้จะไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะตามซอยจะมียากูซ่ามาเก็บค่าคุ้มครอง วันละ 5,000 เยน ขายได้ไม่ได้ไม่รู้ ถ้ามันมาเก็บต้องมีให้ ถ้าไม่มีให้ก็คือ โดนตบตรงนั้นเลยจ้า ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ถามว่า 5,000 ที่เสียให้ยากูซ่าหรือเรียกสั้นๆว่า ไอ้กอ เนี่ย มันช่วยอะไรเราบ้าง ตอบเลย ไม่ แต่มันจะเก็บไง สู้มันไหวรึ พวกไอ้กอนะถ้าเป็นระดับล่างๆ ตัวเล็กตัวน้อย จะมีลักษณะ ผมหยิก นิ้วก้อยต้องกุด คือ ทำผิด 1 ครั้ง ตัดนิ้ว 1 ข้อ กุดกี่ข้อก็นับไป รอยสักเต็มหลัง เต็มตัว ตัวเตี้ยๆ คนแถวนั้นดูทีเดียวรู้เลย ใครเป็นไอ้กอ
เท่าที่เล่ามาก็ดูชีวิตจะดีกว่าทุกประเทศที่ไปใช่มะ แต่จริงๆคือเปล่าเลยจ้า ทุกที่มีความน่ากลัวของมันอยู่ แต่ตอนนี้เอาไปแค่นี้ก่อน ญี่ปุ่นนี่ทำใจเลย น่าจะมีสัก 4-5 ตอน คือยาวมากค่ะ ยาวจริงจัง
สำหรับวันนี้เอาไปเท่านี้ก่อน เดี๋ยวตอน 2 จะตามมาในไม่ช้านะจ๊ะ
ด้วยรักและไม่สนับสนุนให้พวกคุณขายหอย
ซ้อขอเล่า
โฆษณา