18 พ.ค. 2019 เวลา 04:41 • การศึกษา
อยากบอกให้โลกรู้
" จีนท้าทายกับอนาคตสีเขียว"
หลังจากหลายปีของการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมหนัก ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของจีนกำลังใกล้มาถึงจุดพลิกผัน
นั่นเพราะโรงงานและโรงไฟฟ้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นสาเหตุทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน
จนถึงขั้นที่สิ่งแวดล้อมนั้นเป็นอันตรายและเกิดความเสี่ยงต่อสังคมและเศรษฐกิจของจีนหากไม่มีการแก้ไขอย่างทันท่วงที
เพื่อเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ รัฐบาลจีนจึงได้ประกาศสงครากับมลพิษและได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย
ดังประเด็นสำคัญ ต่อไปนี้
ใช้ถ่านหินให้น้อยลงเพื่ออากาศที่สะอาด
จีนได้ดำเนินงานในการรื้อถอนโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อลดการปล่อยก๊าซและลดอัตราการปล่อยฝุ่นละอองสู่ชั้นบรรยากาศ
พบว่ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นและปัจจุบันพบว่าเกิดหมอกควันในเมืองใหญ่ๆ ลดลง
ออกกฎหมายที่เข้มงวดและเอาจริงเอาจังเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมจีน (Ministry for Environmental Protection) ในชื่อเดิมได้เปลี่ยนเป็นกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม (Ministry of Ecology and Environment) ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวจะมีความรับผิดชอบมากขึ้นและชัดเจนยิ่งขึ้นในเรื่องของการดูแลสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ
โดยมีหน้าที่ดูแลนโยบายเกี่ยวกับน้ำและการใช้น้ำ เช่น การจัดการทรัพยากรน้ำทะเลไปจนถึงการจัดการแหล่งน้ำใต้ดิน เป็นต้น
ซึ่งก่อนหน้านี้นโยบายดังกล่าวถูกแบ่งให้แต่ละหน่วยงานไปรับผิดชอบ นอกจากนี้กระทรวงดังกล่าวยังมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการจัดการเรื่องภาวะโลกร้อนด้วย
ภูมิภาคที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้อนุมัติให้มีเขตพัฒนาที่ยั่งยืนขึ้น 3 เขต ซึ่งจะดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติปี 2030 โดยมี 3 เขต ดังนี้
เมือง Shenzhen
Shenzhen นั้นเปรียบเสมือนเครื่องมือสร้างนวัตกรรมของจีน ซึ่งเขตนี้จะมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อการบำบัดน้ำเสีย การใช้ประโยชน์จากขยะ การฟื้นฟูระบบนิเวศ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการแหล่งทรัพยากรไปจนถึงปัญหามลพิษ
เมือง Guilin
โซนนี้จะมุ่งเน้นไปที่การใช้นวัตกรรมในการควบคุมการเกิดทะเลทรายในพื้นที่ โดยการสร้างโซลูชันที่สามารถเลียนแบบพื้นที่อื่นที่เผชิญกับภัยคุกคามจากการรุกล้ำของทะเลทราย
เมือง Taiyuan
โซนนี้จะมุ่งเน้นไปที่มลพิษทางอากาศและน้ำ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาโดยใช้นวัตกรรมที่สามารถเลียนแบบพื้นที่ที่พึ่งพาทรัพยากรที่ถูกดึงมาใช้
หวังว่าประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญ กับระยะยาว มากกว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อฤดูฝุ่นพิษ กลับมา เราจะต้องแก้ด้วยตัวเราเองแทน
โฆษณา